วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

สายเก่าสายใหม่เอาอะไรมาวัดหรือ




สายเก่าสายใหม่เอาอะไรมาวัดหรือ

วาทกรรม สายเก่าสายใหม่ ได้ถูกนำมาแบ่งพี่น้องมุสลิม กันมาช้านานในบ้านเรา ขนาดเด็กทารก พอลืมตาดูโลก ก็ถูกแบ่ง ให้เป็นสายเก่าสายใหม่ แล้วโดยอัตโนมัติ เพราะผู้ใหญ่แบ่งสายกัน
อัลลอฮตาอาลา ได้สอนว่า ในโลกนี้ สายที่เป็นของอัลลอฮ โดยการนำพาของท่านนบีนั้นเป็นสายเดียวคือ อิสลาม อิสลาม มีสายเดียว หรือทางเดียว
อัลลอฮตาอาลา ตรัสว่า

وَأَنَّ هَـذَا صِرَاطِي مُسْتَقِيماً فَاتَّبِعُوهُ وَلاَ تَتَّبِعُواْ السُّبُلَ فَتَفَرَّقَ بِكُمْ عَن سَبِيلِهِ ذَلِكُمْ وَصَّاكُم بِهِ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ

[6.153] และแท้จริงนี้คือทางของข้าอันเที่ยงตรงพวกเจ้าจงปฏิบัติตามมันเถิด และอย่าปฏิบัติตามหลาย ๆ ทาง เพราะมันจะทำให้พวกเจ้าแยกออกไปจากทางของพระองค์ นั่นแหละที่พระองค์ได้สั่งเสียมันไว้แก่พวกเจ้า เพื่อว่าพวกเจ้าจะยำเกรง – อัลอันอาม/153

وَقَالَ الْإِمَامُ أَحْمَدُ بْنُ حَنْبَلٍ : حَدَّثَنَا الْأَسْوَدُ بْنُ عَامِرٍ : شَاذَانُ ، حَدَّثَنَا أَبُو بَكْرٍ - هُوَ ابْنُ عَيَّاشٍ - عَنْ عَاصِمٍ - هُوَ ابْنُ أَبِي النُّجُودِ - عَنْ أَبِي وَائِلٍ ، عَنْ عَبْدِ اللَّهِ - هُوَ ابْنُ مَسْعُودٍ ، رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ - قَالَ : خَطَّ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ خَطًّا بِيَدِهِ ، ثُمَّ قَالَ : " هَذَا سَبِيلُ اللَّهِ مُسْتَقِيمًا " وَخَطَّ عَلَى يَمِينِهِ وَشِمَالِهِ ، ثُمَّ قَالَ : " هَذِهِ السُّبُلُ لَيْسَ مِنْهَا سَبِيلٌ إِلَّا عَلَيْهِ شَيْطَانٌ يَدْعُو إِلَيْهِ " ثُمَّ قَرَأَ : ( وَأَنَّ هَذَا صِرَاطِي مُسْتَقِيمًا فَاتَّبِعُوهُ وَلَا تَتَّبِعُوا السُّبُلَ فَتَفَرَّقَ بِكُمْ عَنْ سَبِيلِهِ ) .
คำแปลตัวบท
จากท่านอิบนิมัสอูด เราะฎิยัลลอฮฮุอันฮุ เล่าว่า: ท่านนบี มุหัมมัดศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ขีดเส้นหนึ่งเส้นให้พวกเรา หลังจากนั้นท่านกล่าวว่า “นี่คือทางของพระองค์อัลลอฮฺ” หลังจากนั้นท่านได้ขีดอีกหลายๆ เส้นจากทางขวาของท่าน และทางซ้ายของท่าน หลังจากนั้นท่านก็กล่าวว่า “นี่คือแนวทางที่หลากหลาย บนทุกๆ เส้นทางที่หลากหลายนั้นมีชัยฏอนที่คอยเชิญชวนให้เข้าหามัน” หลังจากนั้นท่าน นบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ก็ได้อ่านอายะฮฺอัลกุรอานความว่า “และแท้จริงนี้คือแนวทางของข้าอันเที่ยงตรงดังนั้นพวกเจ้าจงปฏิบัติตามมันเถิด และจงอย่าปฏิบัติตามแนวทางต่างๆ เพราะมันจะทำให้พวกเจ้าแยกออกจากแนวทางของพระองค์

وَكَذَا رَوَاهُ الْحَاكِمُ ، عَنِ الْأَصَمِّ ، عَنْ أَحْمَدَ بْنِ عَبْدِ الْجَبَّارِ ، عَنْ أَبِي بَكْرِ بْنِ عَيَّاشٍ ، بِهِ . وَقَالَ : صَحِيحُ الْإِسْنَادِ وَلَمْ يُخَرِّجَاهُ .

ดู ตัฟสีร อิบนุกะษีร 3/366

ท่านนบี สอ็ลฯ ยืนยันว่า ผู้ที่จะได้เข้าสรรค์คือ ผู้ที่ดำเนินอยู่บนแนวทาง หรือสายที่ท่านนบี ศอ็ลฯและเหล่าสาวกดำเนินอยู่บนสายนั้น
وَتَفْتَرِقُ أُمَّتِي عَلَى ثَلَاثٍ وَسَبْعِينَ مِلَّةً كُلُّهُمْ فِي النَّارِ إِلَّا مِلَّةً وَاحِدَةً ، قَالُوا : وَمَنْ هِيَ يَا رَسُولَ اللَّهِ ؟ قَالَ : مَا أَنَا عَلَيْهِ وَأَصْحَابِي
และประชาชาติของฉันจะแตกออกเป็น 73 กลุ่ม ทั้งหมดลงนรก เว้นเพียงแค่กลุ่มเดียวเท่านั้น
บรรดาสาวกได้ถามท่านนบี ว่า มันคือกลุ่มใดเล่า โอ้ท่าน ศาสนทูตของอัลเลาะฮฺ ท่านนบีตอบว่าคือผู้ที่ดำรงอยู่บนสิ่งที่ฉันและเหล่าสาวกได้ดำรงอยู่”
وحسَّنه ابن العربي في " أحكام القرآن " (3 /432) ، والعراقي في "تخريج الإحياء" (3/284) والألباني في "صحيح الترمذي" .
.........................
สายเก่าสายใหม่ไม่มีในอิสลาม มีแต่สายอัลลอฮ สายเดียว คือ สายที่ดำเนินตามแนวทางนบีมุหัมหมัด ศอ็ลฯ และเหล่าสาวกของท่านที่พวกเขาดำเนินอยู่บนสายนั้น
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
21/2/59

วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

วาทกรรมวะฮบีย์ทำลายกุโบร์




วาทกรรมวะฮบีย์ทำลายกุโบร์

อับดุลรอหีม  


พี่น้องครับตอนนี้นำ้เริ่มแห้งแล้วครับสันดอนเริ่มผุดแล้ววะฮะบีชีอะพวกนี้พวกเดียวกันวะฮะบีชีอะเมืองไทยกลับตัวเถอะไม่สายทีกลับมาสู่อาชาอีเราะทางสายกลางที่ปฎิบัติกันมาตอนนี้ความคิดที่ว่าอัลเลาะห์เหมือนวัตถุแล้วนะมีแล้วนะชีอะทำลายกะบะวะฮะบีทำลายกูบูรเชื้อสายตระกูลสาอุดีชาวยิวแผนการของยิวดูประวัติศาสตร์สมัยอุสมานียะเกิดการเปลี่ยนแปลงทำให้อิสลามปั่นปว่นเพราะยิวให้เราทะเลาะกันเอง
ถูกใจ · 1 · 54 นาที
>>>>>>>>>>>>
วาทกรรมโจมตีวะฮบีทำลายกุโบร์ มีให้พบบ่อยจนชินเสียแล้ว ข้างต้นก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง จึ่งใคร่ขอชี้แจงเพื่อความเข้าใจดังนี้
ข้อห้ามเกี่ยวกับหลุมศพ เช่น
ท่านญาบิร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า
๑. ห้ามตกแต่งหลุมศพให้สวยงามด้วยหินปูน (ห้าม)นั่งบนมัน และ(ห้าม)ปลูกสิ่งก่อสร้างบนหลุมศพ(กุโบร์)


نَهَى رَسُولُ اللهﷺ أَنْ يُجَصَّصُ القَبْر وَأَنْ يُقْعَد عَليهِ وَأَنْ يُبْنَى عَلَيْه

“ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม ได้ห้ามตกแต่งหลุมศพให้สวยงามด้วยโบกปูน (ห้าม)นั่งบนมัน และ(ห้าม)ปลูกสิ่งก่อสร้างบนมัน”
(บันทึกโดยมุสลิม)
๒.ห้ามละหมาดหันไปทางหลุมศพ
ท่านอบู มิรษัด อัล-เฆาะนะวียฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า


لَا تَجْلِسُوا عَلَى القُبُورِ وَلَا تُصَلّوا إِلَيْها

“พวกท่านจงอย่านั่งบนหลุมศพ และอย่าได้ละหมาดหันไปทางมัน”
(บันทึกโดยมุสลิม
มนุษย์ทุกคนมีฐานะเป็นบ่าวของอัลลอฮ หลุุมศพไม่ใช่สิ่งบ่งบอกฐานะ เกียรติยศ ทางดุนยา เพราะฉะนั้นหลุมศพที่คนจะต้องเท่าเทียมกัน และท่านนบี ศอ็ลฯ สั่งให้มีการปรับหลุมศพให้เท่าเทียมกัน
ท่านฟะฎอละฮฺ บินอุบัยด์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า

سَمِعْتُ رَسُولَ اللهِﷺ يَأْمُرُ بِتَسْوِيَتِها» [(أي: القبور)

“ฉันได้ยินท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัมใช้ให้ปรับมัน(หลุมศพ)ให้เท่ากัน” (บันทึกโดยมุสลิม)
ท่านอบู อัล-ฮัยยาจญ์ อัล-อะสะดียฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า ท่านอะลี บินอบีฏอลิบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้บอกฉันว่า


«أَلَا أَبْعَثُكَ عَلَى مَا بَعَثَنِي عَلَيْهِ رَسُولُ اللهِ ﷺ أَلَا تَدَعْ تِمْثَالًا إِلّا طَمَسْتَه، وَلَا قَبْراً مُشرفا إِلّا سَوَّيْتَه» [أخرجه مسلم

“พึงทราบเถิด ฉันจะส่งท่านไปทำที่ในสิ่งที่ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม เคยส่งฉันไปทำ (ท่านกล่าวว่า) “เจ้าจะต้องไม่ปล่อยรูปปั้นใดเว้นแต่เจ้าจะรื้อถอนมัน และ(ไม่ปล่อย)หลุมศพใดที่ก่อสูง เว้นแต่เจ้าจะปรับมันให้เท่ากัน(กับหลุมอื่นๆ)”(บันทึกโดยมุสลิม)
อิหม่ามนะวาวีย์ (ร.ฮ)กล่าวว่า

:
" فِيهِ : أَنَّ السُّنَّةَ أَنَّ الْقَبْرَ لَا يُرْفَعُ عَلَى الْأَرْضِ رَفْعًا كَثِيرًا ، وَلَا يُسَنَّمُ ؛ بَلْ يُرْفَعُ نَحْوَ شِبْرٍ وَيُسَطَّحُ ، وَهَذَا مَذْهَبُ الشَّافِعِيِّ وَمَنْ وَافَقَهُ ،


ในหะดิษนี้ (เป็นหลักฐานแสดงว่า)แท้จริง ตามสุนนะฮนั้น หลุมศพจะไม่ถูกยกขึ้น บนพื้นดินให้สูงมาก และจะไม่ถูกยกสูง แต่ทว่า ให้ยกสูงประมาณหนึ่งคืบ และปรับให้ราบ(กับพื้น) และนี้คือ มัซฮับชาฟิอีและผู้ที่ปฏิบัติตามเขา - ดู ชัรหุมุสลิม ๗/๓๖
อิหม่ามชาฟิอี (ร.ฮ)กล่าวว่า


وَقَدْ رَأَيْت مِنْ الْوُلَاةِ مَنْ يَهْدِمَ بِمَكَّةَ مَا يُبْنَى فِيهَا فَلَمْ أَرَ الْفُقَهَاءَ يَعِيبُونَ ذَلِكَ

และแท้จริง ข้าพเจ้าเห็นบรรดาผู้ปกรองได้ทำลายสิ่งก่อสร้างบนกุโบร์ ที่มักกะฮ ข้าพเจ้าไม่เห็นบรรดาฟุเกาะฮาอฺ(นักกฏหมายอิสลาม)ตำหนิ เรื่องดังกล่าวเลย - ดู อัลอุม ของอิหม่ามชาฟิอีย์ เล่ม ๑ หน้า ๑๗๗
อิหม่ามชาฟิอี (ร,ฮ) กล่าวว่า

وَإِنَّمَا أُحِبُّ أَنْ يُشَخِّصَ عَلَى وَجْهِ الْأَرْضِ شِبْرًا أَوْ نَحْوَهُ وَأُحِبُّ أَنْ لَا يُبْنَى ، وَلَا يُجَصَّصَ فَإِنَّ ذَلِكَ يُشْبِهُ الزِّينَةَ وَالْخُيَلَاءَ ، وَلَيْسَ الْمَوْتُ مَوْضِعَ وَاحِدٍ مِنْهُمَا ، وَلَمْ أَرَ قُبُورَ الْمُهَاجِرِينَ وَالْأَنْصَارِ مُجَصَّصَةً

และความจริงข้าพเจ้าชอบให้ มัน(หลุมศพ)ถุกยกขึ้นเหนือพื้นดิน หนึ่งคืบหรือในทำนองนั้น และข้าพเจ้า ชอบไม่ให้มันถูกก่อสร้างและถูกโบกปูน เพราะแท้จริงดังกล่าวนั้น คล้ายคลึงกับการประดับประดาและการโอ้อวด ทั้งๆที่การตายนั้น ไม่ใช่สถานสำหรับคนหนึ่งคนใดจากทั้งสองนั้น และ ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นบรรดาหลุมศพของชาวมุฮาญิรีนและอันศอรฺ ถูกโปกปูนเลย – ดู อันอุม ของอิหม่ามชาฟิอี เล่ม 1 หน้า ๑๗๗ กิตาบุลญะนาซะฮ
>>>>>>
มันเป็นเรื่องแปลก ที่คนบางกลุ่มที่อ้างว่าสังกัดมัซฮับชาฟิอี ได้ร่วมสังฆกรรมกับชีอะฮ โจมตีรัฐบาลซาอุ และคนที่เขาเรียกว่า "วะฮบีย์ "ว่า พวกทำลายกุโบร์ ตลอดเวลา ด้วยอคติโดยการนั่งเทียนกล่าวหา ไม่ได้ศึกษาว่า ท่านนบี ศอ็ลฯและผู้นำมัซฮับเขาสอนไว้อย่างไร ช่างน่าอดสูยิ่งนัก
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
๑๐/๒/๕๙