อิบนุญะรีรตีความอายาตสิฟาตจริงหรือ
อบูอับดุลเกาะฮฺฮ๊าร ภัทรสุขสิโรตม์
2 ชม.
ท่านอิมามอิบนุญะรี๊ร อัตตอบรี่ย์ อิมามชาวสะลัฟซอและห์ได้กล่าวว่า ในคำกล่าวของอัลเลาะห์ตะอาลาที่ว่า
يَدُ اللَّـهِ فَوْقَ أَيْدِيهِمْ
โดยท่านได้อธิบายโองการนี้ว่า มีสองเเนวทางในการตีความ
และท่านบอกว่าการตีความแบบที่สองนั้นก็คือ หมายถึง กุดเราะตุ้ลเลาะห์ ซึ่งก็คือ พลัง หรืออำนาจของอัลเลาะห์ครับ
ส่วนวะฮาบีย์หรือศาลาผีคนใดจะบอกว่าไม่มีสะลัฟคนใดตีความ ยะดุนว่า หมายถึงอำนาจ ก็งมโข่งอยู่ในกะลาของตนเองต่อไปนะครับ
......................
@@@@
ชี้แจง
2 ชม.
ท่านอิมามอิบนุญะรี๊ร อัตตอบรี่ย์ อิมามชาวสะลัฟซอและห์ได้กล่าวว่า ในคำกล่าวของอัลเลาะห์ตะอาลาที่ว่า
يَدُ اللَّـهِ فَوْقَ أَيْدِيهِمْ
โดยท่านได้อธิบายโองการนี้ว่า มีสองเเนวทางในการตีความ
และท่านบอกว่าการตีความแบบที่สองนั้นก็คือ หมายถึง กุดเราะตุ้ลเลาะห์ ซึ่งก็คือ พลัง หรืออำนาจของอัลเลาะห์ครับ
ส่วนวะฮาบีย์หรือศาลาผีคนใดจะบอกว่าไม่มีสะลัฟคนใดตีความ ยะดุนว่า หมายถึงอำนาจ ก็งมโข่งอยู่ในกะลาของตนเองต่อไปนะครับ
......................
@@@@
ชี้แจง
คุณ อานัส ชูชื่น คิดว่าข้างต้นที่อ้างคือหลักฐานเด็ดที่ทำให้วะฮบีย์จนมุม ความจริง ข้างต้น ไม่ใช่การตีความ อย่างที่อะนัสเข้าใจ และอ้างว่า อิบนุญะรีรตีความ
ความจริง การใช้คำว่า "ตะอวีล" ในทัศนะสะลัฟคือ
การอรรถาธิบาย( التفسير ) และ การอธิบาย (البيان ) ดังที่นบี ศอ็ลฯ ได้ดุอาให้แก่ อิบนุอับบาสว่า
اللهم فقهه في الدين ، وعلمه التأويل
اللهم فقهه في الدين ، وعلمه التأويل
โอ้อัลลอฮได้โปรดให้เขาเข้าใจศาสนา และได้โปรดสอนการตะวีลให้เขาด้วยเถิด - เศาะเฮียะอิบนุหิบบาน หะดิษหมายเลข 7055
คำว่า "التأويل" (อัตตะวีล)ในที่นี้ คือ การอรรถาธิบายอัลกุรอ่าน
คำว่า "التأويل" (อัตตะวีล)ในที่นี้ คือ การอรรถาธิบายอัลกุรอ่าน
อิหม่ามอิบนุญะรีร (ร.ฮ) กล่าวว่า
إن الصحابة رضوان الله عليهم – كانوا يفهمون معاني القرآن, وتأويله، وتفسيره بما يوافق الطريقة النبوية في الإثبات، فعن ابن مسعود رضي الله عنه قال: كان الرجل منا إذا تعلم عشر آيات، لم يجاوزهن حتى يعرف معانيهن، والعمل بهن
แท้จริงบรรดาเศาะหาบะฮ (ร.ฎ) พวกเขาเข้าใจความหมายอัลกุรอ่าน และการอรรถาธิบายมัน และ การอธิบายมัน ด้วยสิ่งที่สอดคล้อง กับแนวทางแห่งนบี ในการยืนยัน และมีรายงานจากอิบนุมัสอูด (ร.ฎ) กล่าวว่า "มีชายคนหนึ่งจากพวกเรา เมื่อเขาเรียน สิบอายาต เขาจะไม่ผ่านมันไป จนกว่าเขาจะรู้จักบรรดา ความหมายของมัน และได้ปฏิบัติด้วยมัน - ตัฟสีรอัฏฏอ็บรีย์ 1/44
ในตัฟสีรของอิบนุญะรีร (ร.ฮ) จะใช้คำว่า “ตะวีล” ทุกอายะฮที่ท่านอรรถาธิบายเช่น
قَوْلُ فِي تَأْوِيلِ قَوْلِهِ : ( لَا رَيْبَ فِيهِ ) .
คำกล่าวในการตะวีลคำตรัสของพระองค์ที่ว่า (ลารัยบะฟีฮี)
وَتَأْوِيلُ قَوْلِهِ : " لَا رَيْبَ فِيهِ " " لَا شَكَّ فِيهِ
وَتَأْوِيلُ قَوْلِهِ : " لَا رَيْبَ فِيهِ " " لَا شَكَّ فِيهِ
และการตะวีล คำตรัสของพระองค์ที่ว่า (لَا رَيْبَ فِيهِ) หมายถึง ไม่มีการสงสัยในมัน –ดูตัฟสีรอัฏฏอ็บรีย์ เล่ม 1 อรรถาธิบายซูเราะฮอัลบะเกาะเราะฮ อายะฮที่ 2
คำว่า “ตะวีล” ในที่นี้คือการตัฟสีร (การอรรถาธิบาย) ไม่ใช่แปลว่า ตีความ เพราะฉะนั้นการที่ท่านอิบนุญะรีร กล่าวว่า
وَفِي قَوْلِهِ ( يَدُ اللَّهِ فَوْقَ أَيْدِيهِمْ ) وَجْهَانِ مِنَ التَّأْوِيلِ
คำแปลที่ถูกคือ
และในคำตรัสของพระองค์ที่ว่า (มือของอัลลอฮอยู่เหนือมือของพวกเขา) นั้น การอรรถาธิบาย มีสองแนวทาง
......................
ไม่ใช่แปลตามที่คุณอานัสลอกมาจากคำแปลของ อ.ท่านหนึ่งว่า
“โดยท่านได้อธิบายโองการนี้ว่า มีสองเเนวทางในการตีความ
ทั้งนี้เพราะ :
การตีความ ผู้ที่ตีความเขาไม่ยอมรับความหมายตามตัวบท แต่เขาจะเปลียนความหมายไปสู่ความหมายที่มีน้ำหนักกว่าตามความคิดเห็นทางปัญญาของเขา
ในประโยคที่เป็นแนวทางที่หนึ่ง ท่านอิบนุญะรีร กล่าวว่า
และในคำตรัสของพระองค์ที่ว่า (มือของอัลลอฮอยู่เหนือมือของพวกเขา) นั้น การอรรถาธิบาย มีสองแนวทาง
......................
ไม่ใช่แปลตามที่คุณอานัสลอกมาจากคำแปลของ อ.ท่านหนึ่งว่า
“โดยท่านได้อธิบายโองการนี้ว่า มีสองเเนวทางในการตีความ
ทั้งนี้เพราะ :
การตีความ ผู้ที่ตีความเขาไม่ยอมรับความหมายตามตัวบท แต่เขาจะเปลียนความหมายไปสู่ความหมายที่มีน้ำหนักกว่าตามความคิดเห็นทางปัญญาของเขา
ในประโยคที่เป็นแนวทางที่หนึ่ง ท่านอิบนุญะรีร กล่าวว่า
أَحَدُهُمَا : يَدُ اللَّهِ فَوْقَ أَيْدِيهِمْ عِنْدَ الْبَيْعَةِ ؛ لِأَنَّهُمْ كَانُوا يُبَايِعُونَ اللَّهَ بِبَيْعَتِهِمْ نَبِيَّهُ - صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ –
แนวทางที่หนึ่ง : มือของอัลลอฮ อยู่เหนือบรรดามือของพวกเขา ในขณะที่ทำการบัยอะฮ(ทำการสัตยาบัน) เพราะพวกเขา ต่างก็ทำการสัตยาบันต่ออัลลอฮ ด้วยการทำการสัตยาบันของพวกเขาต่อท่านนบีของพระองค์ ศอ็ลฯ
.......
.......
ประโยคข้าง ต้น อิบนุญะรีรยังคงความหมายเดิม คือ يَدُ اللَّهِ فَوْقَ أَيْدِيهِمْ عِنْدَ الْبَيْعَةِ ถ้าตีความตามความหมายของอะฮลุลกาลาม แน่นอน อิบนุญะรีรต้อง เปลี่ยนความหมายใหม่ ของคำว่า يد الله (มือของอัลลอฮ)
แต่ในทางกลับกัน ท่านอิบนุญะรีร (ร.ฮ) ไม่ได้ปฏิเสธความหมายคำว่า มือ ตามตัวบท เพื่อยืนยันสิ่งนี้มาดู
มาดูตัวอย่างการอธิบายของอิบนุญะรีร อัฏฏอบรีย์ (ฮ.ศ 310) ปราชญ์สะลัฟ จากหลักฐานต่อไปนี้
فنثبت كل هذه المعاني التي ذكرنا أنها جاءت بها الأخبار والكتاب والتنزيل على ما يُعقل من حقيقة الإثبات ، وننفي عنه التشبيه فنقول : يسمع جل ثناؤه الأصوات ، لا بخرق في أذن ، ولا جارحة كجوارح بني آدم . وكذلك يبصر الأشخاص ببصر لا يشبه أبصار بني آدم التي هي جوارح لهم. وله يدان ويمين وأصابع ، وليست جارحة
เรายืนยัน ทุกๆความหมายนี้ ซึ่ง เราระบุว่า แท้จริง บรรดาหะดิษ ,อัลกิตาบ และอัตตันซีล(อัลกุรอ่าน) ได้มีมาด้วยมัน บนสิ่งที่ถูกเข้าใจจากลักษระที่แท้จริงของการยืนยัน(อิษบาต) และเราปฏิเสธการเปรียบเทียบการคล้ายคลึงจากมัน แล้วเรากล่าวว่า พระองค์ทรงได้ยิน เสียง ไม่ใชได้ยินด้วย รูหู และไม่ใช่อวัยวะ เช่น อวัยวะฮมนุษย์ และในทำนองนั้น พระองค์ทรงเห็น บรรดาบุคคล ด้วยการเห็น ที่ไม่คล้ายคลึง การเห็นของลูกหลานอาดัม(หมายถึงมนุษย์ ซึงมันคืออวัยวะของพวกเขา และทรงมี สองมือ ,มือขวา และบรรดานิ้ว และมันไม่ใช่อวัยวะ.....อัตตับศีร ฟีมะอาลิมิดดีน หน้า 141-145
............................
อิบนุญะรีร ยืนยันหรือรับรองบรรดาสิฟาต ตามความหมายที่มีมาตามตัวบท โดยไม่เปรียบกับมัคลูค
...........
มาดูอีกหลักฐานหนึ่ง ที่ตีแสกหน้าอาชาอิเราะฮบางคนและยืนยันว่าที่อ้างว่า อิบนุญะรีรตีความ คำว่า ยัด คือ พลังนั้นเป็นการอ้างที่เป็นโมฆะ มาดู การยืนยันสิฟัตยัด(มือ)ของอิบนุญะรีรโดยไม่ตีความใดๆดังนี้
............................
อิบนุญะรีร ยืนยันหรือรับรองบรรดาสิฟาต ตามความหมายที่มีมาตามตัวบท โดยไม่เปรียบกับมัคลูค
...........
มาดูอีกหลักฐานหนึ่ง ที่ตีแสกหน้าอาชาอิเราะฮบางคนและยืนยันว่าที่อ้างว่า อิบนุญะรีรตีความ คำว่า ยัด คือ พลังนั้นเป็นการอ้างที่เป็นโมฆะ มาดู การยืนยันสิฟัตยัด(มือ)ของอิบนุญะรีรโดยไม่ตีความใดๆดังนี้
وأن له يدين لقوله: "بل يداه مبسوطتان" . وأن له يميناً لقوله : "والسموات مطويات بيمينه" . وأن وله وجهاً لقوله: "كل شيء هالك إلا وجهه"
และแท้จริงพรองค์ทรงมีสองมือ เพราะพระองค์ตรัสว่า (หามิได้ พระหัตถ์ทั้งสองของพระองค์ถูกแบออกต่างหาก) และแท้จริงพระองค์ทรงมี มือขวา เพราะพระองค์ตรัสว่า (และชั้นฟ้าทั้งหลายจะม้วนกลิ้งด้วยพระหัตถ์ขวาของพระองค์)และพระองค์ทรงมีใบหน้า เพราะคำตรัสของพระองค์ที่ว่า (ทุกๆ สิ่งนั้นพินาจสิ้น นอกจาก พระพักตร์ของพระองค์ –ดู อัตตับศีร ฟีมะอาลิมิดดีน หน้า 141-145(ดูสำเนาหนังสือที่แนบมา)
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
30/8/59
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
30/8/59
ปล.เชิญนำหลักฐานมาแย้งได้ด้วยความยินดียิ่ง