วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558

สุนนะฮตัรกียะฮ






สุนนะฮตัรกียะฮ
คำว่า "สุนนะฮฮตัรกียะฮ"หมายถึง สิ่งที่ท่านนบี ศอ็ลฯ ไม่ได้ปฏิบัติและการไม่ปฏิบัตินั้น ไม่มีอุปสรรค์ใดมาขัดขวาง ดังนั้นการละทิงของท่านนบี ศอ็ลฯ คือ สุนนะฮ
อิบนุกะษีร (ร.ฮ) กลล่าวว่า
وَأَمَّا أَهْلُ السُّنَّةِ وَالْجَمَاعَةِ فَيَقُولُونَ فِي كُلِّ فِعْلٍ وَقَوْلٍ لَمْ يَثْبُتْ عَنِ الصَّحَابَةِ : هُوَ بِدْعَةٌ ; لِأَنَّهُ لَوْ كَانَ خَيْرًا لَسَبَقُونَا إِلَيْهِ ؛ لِأَنَّهُمْ لَمْ يَتْرُكُوا خَصْلَةً مِنْ خِصَالِ الْخَيْرِ إِلَّا وَقَدْ بَادَرُوا إِلَيْهَا .
ความว่า "และสำหรับอะฮลุสสุนนะฮวัลญะมาอะฮนั้น พวกเขากล่าวในทุกการกระทำ และทุกคำพูดที่ไม่มีรายงานยืนยันว่ามาจากบรรดาเศาะฮาบะฮนั้น คือ บิดอะฮ เพราะถ้าหากมันเป็นสิ่งที่ดีงาม พวกเขาก็จะปฏิบัติมาก่อนพวกเราแล้ว เพราะแท้จริง พวกเขาจะไม่ละทิ้งประการหน่ึ่งประการใดจากบรรดาสิ่งที่ดีงาม นอกจากพวกเขาจะรีบเร่งไปสู่การกิบัติมัน - ตัฟสีรอิบนุกะษีร 7/278-279
กล่าวคือ อะฮลุสสุนนะอวัลญะมาอะฮนั้นพวกเขาถือว่า สิ่งที่ไม่ปรากฏหลักฐานยืนยัน ว่าบรรดาเศาะหาบะฮปฏิบัตนั้น มันคือบิดอะฮ เพราะถ้าเป็นสิ่งที่ดี พวกเขาก็ได้ปฏิบัติมาก่อนพวกเราแล้ว
อบูอัลมุซฟัรอัสสัมอานีย์กล่าวว่า
إذا ترك النبي صلى الله عليه وسلم شيئا من الأشياء وجب علينا متابعته فيه 
เมื่อนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ทิ้งสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จากบรรดาสิ่งต่างๆ ก็จำเป็นแก่เรา จะต้องเจริญรอยตามท่านนบีในสิ่งนั้น – เกาะวาเฏียะอัลอะดิลละฮ เล่ม 1 หน้า 311 
........... 
สิ่งใดท่านนบีไม่ปฏิบัติ เราก็ไม่ปฏิบัติ แบบนี้เขาเรียกปฏิบัติตามสุนนะฮตัรกียะฮ

อิหม่ามอัรซัรกะชีย์กล่าว่า
الْمُتَابَعَةَ كما تَكُونُ في الْأَفْعَالِ تَكُونُ في التُّرُوكِ
การปฏิบัติตามในการละทิ้ง(หมายถึง ในสิ่งที่นบีทิ้ง-ผู้แปล) เช่นเดียวกับการปฏิบัติตามในการกระทำ(หมายถึงในสิ่งที่นบี ศอลฯปฏิบัติ) – ดู อัลบะหรุลมะฮีฏ เล่ม 4 หน้า 191 
....... 
เพราะฉะนั้น เราจะปฏิบัติอิบาดะฮในเรื่องศาสนา เราต้องดู ที่ท่านนบี เพราะนบีคือผู้ที่รู้ว่า อัลลอฮชอบอะไร ไม่ชอบอะไร และเป็นไปไม่ได้ที่ท่านนบีจะทิ้งในสิ่งที่อัลลอฮชอบ ถ้าท่านนบี ไม่ปฏิบัติ หรือไม่กล่าวส่งเสริม ก็เท่ากับว่า อัลลอฮไม่ชอบ ดังนั้น เราในฐานะอุมมะฮนบี เราก็จะต้องละทิ้งด้วย ถ้าเราดันทุรังที่จะทำ ก็เท่ากับปฏิบัติในสิ่งที่ศาสนาไม่อนุมัติ 
ส่วนวาทกรรมที่ว่า "นบีไม่ทำก็ไม่ได้หมายถึงการห้าม" เป็นวาทะกรรมที่มาจากการคิดเห็นตามอารมณ์ เพราะหลักการในเรื่องอิบาดะฮนั้น อิบนุหะญัร ซึ่งเป็นอุลามาอฺในมัซฮับชาฟิอีเองกล่าวถึงหลักการนี้ว่า

اَلْأَصْلَ فِي اَلْعِبَادَةِ اَلتَّوَقُّف
หลักเดิมในเรื่องอิบาดะฮนั้น คือ การหยุดอยู่ที่คำสั่ง -ฟัตหุ้ลบารีย์ เล่ม 4 หน้า 174
เรื่อง อิบาดะฮในอิสลาม ต้องมีตัวบทที่เป็นคำสั่งจากอักุรอ่านและอัสสุนนะฮ
الأعمال الدينية لا يجوز أن يتخذ شيء منها سببا إلا أن تكون مشروعة فإن العبادات مبناها على التوقيف
บรรดาการงานที่เกี่ยวกับศาสนานั้น ไม่อนุญาตให้สิ่งใดๆจากมันถูกเอามาเป็น มูลเหตุ(ให้กระทำ)นอกจาก มันเป็นสิ่งที่ถูกบัญญัติไว้ เพราะแท้จริงบรรดาอิบาดะฮนั้นรากฐานของมันถูกวางอยู่บนการรอคำสั่ง - อัลอาดาบอัชชัรอียะฮ ของอิบนุมุฟลิห เล่ม 2หน้า 265
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น