
อัตตะอัศศุบคืออะไร
คำว่าตะอัศศุบ ในปทานุกรรมอาหรับ -ไทย ของ ส.วงศเสงี่ยม หน้า 319แปลว่า การไม่ยอมรับความจริง ทั้งๆที่มีหลักฐานยืนยัน อันเนื่องมาจากการฝักใฝ่ในอุดมการณ์หนึ่ง -
ในภาษาอาหรับคือ
التشدد وأخذ الأمر بشدة وعنف وعدم قبول المخالف ورفضه والأنفة من أن يتبع غيره ولو كان على صواب
การเข้มงวดและยึดเอาสิงใด ด้วยความเข้มงวด ,ความรุนแรง ,ไม่ยอมรับ ผู้ที่เห็นต่าง และปฏิเสธเขา และ รังเกียจ/ไม่ยอมรับที่จะปฏิบัติตามผู้อื่น และแม้ว่า เขาผู้นั้น อยู่บนความถูกต้องก็ตาม - ดู มินัตตะอัศศุบ ของมุหัมหมัดอัลเฆาะซาลี หน้า 21
อิหม่ามอัชเชากานีย์ (ร.ฮ)กล่าวเกี่ยวกับความหมาย อัตตะอัศศุบ ว่า
أن تجعل ما يصدر عنه من الرأي ويروي له من الاجتهاد حجة عليك وعلى سائر العباد
คือ การที่ท่าน ยึดเอาความความคิดเห็น จากเขา(หมายถึงจากอุลามาแห่งอิสลาม) และการอิจญะฮาดของเขา ที่ถูกรายงานมา เป็นหลักฐานสำหรับท่านและสำหรับบรรดาบ่าว(มนุษย์)ทั้งหมด - ดู อะดะบุฏเฏาะลับวะมุนตะฮันอะเราบิ หน้า 86
...............
หมายถึง การยึดเอาความคิดเห็นของปราชญ์และการวินิจฉัยของเขามาเป็นหลักฐานศาสนาสำหรับตนเองและบรรดาคนอื่นๆ
คือ การที่ท่าน ยึดเอาความความคิดเห็น จากเขา(หมายถึงจากอุลามาแห่งอิสลาม) และการอิจญะฮาดของเขา ที่ถูกรายงานมา เป็นหลักฐานสำหรับท่านและสำหรับบรรดาบ่าว(มนุษย์)ทั้งหมด - ดู อะดะบุฏเฏาะลับวะมุนตะฮันอะเราบิ หน้า 86
...............
หมายถึง การยึดเอาความคิดเห็นของปราชญ์และการวินิจฉัยของเขามาเป็นหลักฐานศาสนาสำหรับตนเองและบรรดาคนอื่นๆ
ทั้งนี้ เพราะ ไม่มีมนุษย์ผู้ใดใดที่ศาสนาบัญญัติให้ผูกขาดกับคำสอนของเขา นอกจากท่านรอซูลของอัลลอฮเท่านั้น
ท่านมุญาฮิด (ร.ฮ)กล่าวว่า
لَيْسَ أَحَدٌ بَعْدَ النَّبِيِّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِلا يُؤْخَذُ مِنْ قَوْلِهِ، وَيُتْرَكُ إِلا النَّبِيَّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ
ไม่มีคนใดหลังจากท่านนบี ศ็อลฯ นอกจากคำพูดของเขา ถูกเอามา (ปฏิบัติ)และถูกทิ้ง นอกจากท่านนบี ศ็อลฯ -ญามิอุบะยานอัลอิลมิวะฟัฎลิฮี ของอิบนุอับดิลบัร 2/91
..........
..........
หมายถึงคำพูดของคนอื่นๆจากท่านนบีนั้น ถูกนำมาปฏิบัติและถูกทิ้ง เพราะมีผิดมีถูก ต่างกับคำพูดของท่านนบี ศ็อลฯที่ไม่มีผิด เพราะท่านได้รับการปกป้องความผิดพลาดในการเผยแพร่ศาสนา
ท่านอิบนุตัยมียะฮ(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
فَدِينُ الْمُسْلِمِينَ مَبْنِيٌّ عَلَى اتِّبَاعِ كِتَابِ اللَّهِ، وَسُنَّةِ نَبِيِّهِ، وَمَا اتَّفَقَتْ عَلَيْهِ الْأُمَّةُ، فَهَذِهِ الثَّلَاثَةُ هِيَ أُصُولٌ مَعْصُومَةٌ، وَمَا تَنَازَعَتْ فِيهِ الْأُمَّةُ رَدُّوهُ إلَى اللَّهِ وَالرَّسُولِ. وَلَيْسَ لِأَحَدِ أَنْ يُنَصِّبَ لِلْأُمَّةِ شَخْصًا يَدْعُو إلَى طَرِيقَتِهِ، وَيُوَالِي وَيُعَادِي عَلَيْهَا، غَيْرَ النَّبِيِّ، صلى الله عليه وسلم، وَلَا يُنَصِّبَ لَهُمْ كَلَامًا يُوَالِي عَلَيْهِ وَيُعَادِي، غَيْرَ كَلَامِ اللَّهِ وَرَسُولِهِ، وَمَا اجْتَمَعَتْ عَلَيْهِ الْأُمَّةُ. بَلْ هَذَا مِنْ فِعْلِ أَهْلِ الْبِدَعِ
الَّذِينَ يُنَصِّبُونَ لَهُمْ شَخْصًا أَوْ كَلَامًا يُفَرِّقُونَ بِهِ بَيْنَ الْأُمَّةِ، يُوَالُونَ بِهِ عَلَى ذَلِكَ الْكَلَامِ أَوْ تِلْكَ النِّسْبَةِ وَيُعَادُونَ
ดังนั้นศาสนาของอัลลอฮ วางอยู่บนรากฐาน บนการตาม คัมภีร์ของอัลลอฮ และสุนนะฮของนบีของพระองค์ และสิ่งที่ประชาชาติ(อุมมะฮ)ได้มีมติฟ้องกัน และ นี่คือ รากฐานสามประการ มันคือสิ่งที่ได้รับการประกันจากความผิดพลาด และสิ่งที่ประชาชาตินำข้อขัดแย้งไปหาอัลลอฮและรอซูล และไม่อนุญาตแก่บุคคลใด กำหนดบุคคลหนึ่งบุคคลใดให้แก่ประชาชาติ(อุมมะฮ) แล้วเรียกร้องไปสู่แนวทางของเขา เป็นมิตรและเป็นศัตรูกันอยู่บนแนวทางนั้น อื่นจากคำพูดของอัลลอฮและรอซูลของพระองค์ และสิ่งที่อุมมะฮมีมติฟ้องกัน แต่ทว่า กรณีนี้(การกำหนดบุคคลให้ประชาติถือตาม) เป็นส่วนหนึ่งของการกระทำของชาวบิดอะฮ ที่พวกเขากำหนด บุคคลหนึ่ง บุคคลใด ให้แก่พวกเขา หรือกำหนด คำพูด(ทัศนะ)ใดที่ทำให้เกิดการแตกแยกระหว่างอุมมะฮ พวกเขาเป็นมิตรกันบนคำพูด(ทัศนะ)นั้นหรือ เป็นศัตรูกันบนแนวทางนั้น - ฟะตาวาอิบนุตัยมียะฮ 20/64
..............
สรุป
1.ศาสนาของอัลลอฮ วางอยู่บนรากฐานของการตามคัมภีร์อัลลอฮ ,สุนนะฮนบีของพระองค์ และสิ่งที่เห็นฟ้องแห่งอุมมะฮ(อัลอิจญมาอฺ)
2. ประเด็นใดที่เห็นขัดแย้งก็ให้นำไปให้อัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮตัดสิน
2.การกำหนดตัวบุคคลอื่นจากนบี ศ็อลฯ ให้มนุษย์ ปฏิบัติตามแนวทางของเขา เป็นมิตรและเป็นศัตรูกัน บนแนวทางเขาผู้นี้ คือ การกระทำของอะฮลุลบิดอะฮ ที่ก่อให้เกิดการแตกแยกระหว่างอุมมะฮ
แปลก...ในสิังคมปัจจุบนกลับมองว่าการเรียกร้องให้ไปสู่กิตาบุลลอฮ และสุนนะฮนบี คือการสร้างความแตกแยก แต่การเรียกร้องให้ไปสู่การยึดติดกับตัวบุคคล แนวคิด ความคิดเห็น ประเพณีปู่อย่าตายาย กลับมองว่า เป็นการรักษาญะมาอะฮอิสลาม เป็นสิ่งที่ชอบด้วยศาสนา ปลูกฟังให้แบ่งสายแบ่งพวก ปิดกั้น ไม่ให้คิดนอกกรอบที่ตนเองกำหนด แต่ให้ปิดตาตามลูกเดียว -วัลอิยาซุบิลละฮ
..............
สรุป
1.ศาสนาของอัลลอฮ วางอยู่บนรากฐานของการตามคัมภีร์อัลลอฮ ,สุนนะฮนบีของพระองค์ และสิ่งที่เห็นฟ้องแห่งอุมมะฮ(อัลอิจญมาอฺ)
2. ประเด็นใดที่เห็นขัดแย้งก็ให้นำไปให้อัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮตัดสิน
2.การกำหนดตัวบุคคลอื่นจากนบี ศ็อลฯ ให้มนุษย์ ปฏิบัติตามแนวทางของเขา เป็นมิตรและเป็นศัตรูกัน บนแนวทางเขาผู้นี้ คือ การกระทำของอะฮลุลบิดอะฮ ที่ก่อให้เกิดการแตกแยกระหว่างอุมมะฮ
แปลก...ในสิังคมปัจจุบนกลับมองว่าการเรียกร้องให้ไปสู่กิตาบุลลอฮ และสุนนะฮนบี คือการสร้างความแตกแยก แต่การเรียกร้องให้ไปสู่การยึดติดกับตัวบุคคล แนวคิด ความคิดเห็น ประเพณีปู่อย่าตายาย กลับมองว่า เป็นการรักษาญะมาอะฮอิสลาม เป็นสิ่งที่ชอบด้วยศาสนา ปลูกฟังให้แบ่งสายแบ่งพวก ปิดกั้น ไม่ให้คิดนอกกรอบที่ตนเองกำหนด แต่ให้ปิดตาตามลูกเดียว -วัลอิยาซุบิลละฮ
อะสัน หมัดอะดั้ม
12/11/62
12/11/62
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น