น่าสมเพทกับบาบอกำมะลอสองกลุ่มที่ทะเลาะกันเพราะตัดสินวาฮาบีย์ไม่เหมือนกัน
มีคณะบาบอที่อ้างว่ายึดแนวอาชาอิเราะฮ ที่เป็นพันธ์มิตรเหนียวแน่นต่อต้านพี่น้องมุสลิมที่พวกเขาอุปโลกน์ให้เป็นวาฮาบีย์ ให้เป็นลัทธิใหม่ อย่างเอาเป็นเอาตาย แต่มาวันหนึ่ง เกิดขัดแย้งในการตัดสินวาฮาบีย์ไม่ตรงกันคือ
1.บาบอสายฏอรีกัตกลุ่มภาคกลางตัดสินให้คนที่พวกเขาอุปโลกน์ให้เป็นวาฮาบีเป็นคนชั่ว(ฟาสิก) เป็นผู้มีอะกีดะฮบิดอะฮ
2.บาบอฏอรีกัตกลุ่มภาคใต้อันดามัน ตัดสินให้คนที่พวกเขาอุปโลกน์ให้เป็นวาฮาบีเป็นกาเฟรออกจากอิสลาม
เมื่อตัดสินวาฮาฮาบีย์ไม่เหมือนกัน ฝ่ายที่ตัดสินวาฮาบีย์ให้เป็นกาเฟร ก็หุกุมฝ่ายที่ไม่ตัดสินวาฮาบีย์ให้เป็นกาเฟร ให้กลายเป็นกาเฟรไปด้วย จึงเปิดศึกสงครามคีบอร์ดกันในขณะนี้
แต่...ที่น่าสมเพทคือ ใช้ตรรกเป็นหลักฐานทั้งสองฝ่าย !!!!
การตัดสินให้พี่น้องมุสลิมออกจากอิสลาม กลายเป็นของเล่นของคนกลุ่มนี้ ใช้ตรรกความคิดเห็น และอคติมาเป็นเครื่องตัดสิน -วัลอิยาซุบิลละฮ
ท่านนบี ศ็อลฯ เตือนให้ระวังการตักฟีรพี่น้องมุสลิมให้ออกจากอิสลาม ดดยกล่าวว่า
لا يَرْمِي رَجُلٌ رَجُلًا بالفُسُوقِ، ولا يَرْمِيهِ بالكُفْرِ؛ إلَّا ارْتَدَّتْ عليه إنْ لَمْ يَكُنْ صاحِبُهُ كَذلكَ
คนหนึ่งไม่ได้กล่าวหา คนหนึ่งว่า เป็นคนชั่ว และเขาไม่ได้กล่าวหาเขาผู้นั้น ว่า กุฟุร นอกจาก มันจะย้อนกลับมาบนเขา หาก เพื่อนของเขา(ที่เขากล่าวหา)ไม่เป็นเช่นนั้น - รายงานโดยบุคอรี
อิหม่ามเชากานีย์กล่าวว่า
اعلم أن الحكم على الرجل المسلم بخروجه من دين الإسلام ودخوله في الكفر لا ينبغي لمسلم يؤمن بالله واليوم الآخر أن يقدم عليه إلا ببرهان أوضح من شمس النهار فإنه قد ثبت في الأحاديث الصحيحة المروية من طريق جماعة من الصحابة أن من قال لأخيه يا كافر فقد باء بها أحدهما
โปรดทราบไว้เถิดว่า แท้จริง การหุกุมบุคคลที่เป็นมุสลิม ว่าเขาออกจากศาสนาอิสลาม และกลับเข้าไปในการเป็นกุฟูรนั้น มันไม่สมควรแก่มุสลิมที่ศรัทธาต่ออัลลอฮและวันสุดท้าย ที่จะกล้าหาญทำมัน นอกจาก ต้องด้วยหลักฐานที่ชัดแจ้งยิ่งกว่าแสงอาทิตย์ในยามกลางวัน ความจริงได้ปรากฏยืนยันในบรรดาหะดิษ จากสายรายงานจากกลุ่มหนึ่งของเหล่าเศาะหาบะฮว่า "ผู้ใดกล่าวแก่พี่น้องของเขาว่า "ไอ้กาเฟร" แน่นอนมันจะกลับไปยังคนหนึ่งคนใดจากสองคนนั้น - อัสสัลลุลญะรอร 4/578
ชัยคุลอิสลามอิบนุตัยมียะฮ (ร.ฮ)กล่าวว่า
“والخوارج تكفِّر أهل الجماعة، وكذلك أكثر المعتزلة يكفرون من خالفهم، وكذلك أكثر الرافضة، ومن لم يكفَّر فُسِّق، وكذلك أكثر أهل الأهواء يبتدعون رأيًا، ويكفّرون من خالفهم فيه، وأهل السنة يتبعون الحق من ربهم الذي جاء به الرسول، ولا يكفرون من خالفهم فيه، بل هم أعلم بالحق وأرحم بالخلق، كما وصف الله به المسلمين بقوله: {كُنْتُمْ خَيْرَ أُمَّةٍ أُخْرِجَتْ لِلنَّاسِ} [آل عمران: 110]،
และเคาะวาริจญ ได้ตักฟีร(ตัดสินว่าเป็นกาเฟร)แก่ อะฮลุลญะมาอะฮ และเช่นเดียวกันนั้น ส่วนมากของแนวคิดมุอตะซิละฮ พวกเขาตักฟีร ผู้ที่เห็นขัดแย้ง/เห็นต่างกับพวกเขา และเช่นเดียวกันนั้น ส่วนมากของลัทธิรอฟิเฎาะฮ และผู้ใดไม่ตักฟีร ก็จะถูกตัดสินให้เป็นคนชั่ว และเช่นเดียวกันนั้น ส่วนมากของนักอารมณ์นิยม(ชาวบิดอะฮ) พวกเขาอุตริความคิดเห็นใดๆ และพวกเขาทำการตักฟีร(ตัดสินให้เป็นกาเฟร)ผู้ที่เห็นขัดแย้งกับพวกเขาในมัน(ในความเห็นที่พวกเขาอุตริขึ้นมา) และชาวอะฮลุสสุนนะฮ พวกเขาปฏิบัติตามความจริงที่มาจากพระเจ้าของพวกเขา ซึ่งรอซูลได้นำมาด้วยมัน และพวกเขาไม่ตักฟีร ผู้ที่เห็นขัดแย้งกับพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขามีความรู้ยิ่งกับความจริง และมีความเมตตายิ่งต่อเพื่อนมนุษย์ ดังเช่นที่อัลลอฮได้อธิบายคุณลักษณะบรรดามุสลิมด้วยมันว่า(พวกเจ้าคือประชาติที่ดีที่ถูกให้อุบัติขึ้นมาสำหรับมนุษย์ชาติ - อาลิมอิมรอน/110) - มินฮาจญอัสสุนนะฮอัลนะบะวียะฮ 5/158 (ดูสำเนาที่แนบมา)
...........
สรุปคื่อ
1.พวกเคาะวาริจญ และส่วนมากของพวกแนวคิดมุอตะซิละฮและพวกรอฟิเฎาะฮ พวกเขาจะติดสินคนที่เห็นต่างกับพวกเขาให้เป็นกาเฟร
2. พวกอะฮลุลบิดอะฮ ส่วนมาก พวกเขาจะอุตริความคิดเห็นใดๆขึ้นมาแล้วจะตัดสินเป็นกาเฟรคนที่เห็นขัดแย้งกับพวกเขาในความคิดเห็นนั้น
3. อะฮลุสสุนนะฮ พวกเขาปฏิบัติตามความจริงที่มาจากพระเจ้าของพวกเขา ซึ่งรอซูลได้นำมาด้วยมัน และพวกเขาไม่ตักฟีร ผู้ที่เห็นขัดแย้งกับพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขามีความรู้ยิ่งกับความจริง และมีความเมตตายิ่งต่อเพื่อนมนุษย์
แปลก...บาบอกำมะลอเหล่านี้ สร้างวาทกรรมขึ้นมา ใครเห็นต่างกับพวกเขาก็ตัดสินให้เป็นกาเฟร ด้วยความเห็นและอคติ มีด้วยหรือ พี่น้องมุสลิมที่ยืนยันคุณลักษณะอัลลอฮ ตามที่อัลลอฮอธิบายไว้และรอซูลอาธิบายไว้ แล้วพวกท่านตัดสินให้ออกจากอิสลาม -วัลอิยาซุบิลละฮ น่าสมเพทยิ่งนัก
ขอจบด้วยคำว่า
ขอบใจและขออัลลอฮตอบแทนความดีแก่พี่น้องที่ช่วยปกป้องอะกีดะฮ และขอแสดงความเสียใจกับครูบาอาจารย์ที่เป็นชัยฏอนใบ้ ไม่รู้สึกรู้สากับการที่อะกีดะฮถูกบิดเบือน และพี่น้องชาวสุนนะฮที่ถูกใส่ร้าย
อะสัน หมัดอะดั้ม
19/1/65
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น