วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2559

วาทกรรมปฏิเสธการอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮ

 
 
 
วาทกรรมปฏิเสธการอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮ
 
อบูอับดุลเกาะฮ์ฮ๊าร ภัทรสุขสิโรตม์
ไปหาในตำราของท่านอิมามชาฟิอีย์เขียน ไม่มีแม่เเต้อักษรเดียวที่ท่านบอกว่า อัลเลาะห์อยู่บนฟ้า แต่ถ้าไปหาใน โตราห์และไบเบิ้ล ดันเจอ ว่าพระเจ้าสูง 60 ศอก อยู่บนฟ้า
.................
ชี้แจง
มาดูปราชญ์มัซฮับชาฟิอี ชี้แจงดังนี้
อิหม่ามอัศศอบูนีย์ ฉายาและชื่อเต็มคือ
شيخ الإسلام أبو عثمان ، إسماعيل بن عبد الرحمن بن أحمد بن إسماعيل بن إبراهيم بن عابد بن عامر ، النيسابوري ، الصابوني .
ท่านมีชีวิตอยู่ในช่วง ฮ.ศ ๓๗๓ - ๔๔๙ ได้ได้กล่าวถึงอะกีดะฮของอิหม่ามชาฟิอี (ร.ฮ)ว่า
وإنما احتج الشافعي رحمة الله عليه على المخالفين في قولهم بجواز إعتاق الرقبة الكافرة في الكفارة بهذا الخبر؛ لاعتقاده أن الله سبحانه فوق خلقه، وفوق سبع سماواته على عرشه، كما معتقد المسلمين من أهل السنة والجماعة، سلَفِهم وخلفِهم؛ إذ كان رحمه الله لا يرو خبرًا صحيحًا ثم لا يقول به.
และความจริง อัชชาฟิอี (ร.ฮ) ได้อ้างหลักฐาน ด้วยหะดิษนี้(หมายถึงหะดิษญารียะฮ ที่ตอบท่านนบีว่าอัลลอฮอยู่บนฟ้า-ผู้แปล )ตอบโต้บรรดาผู้ที่มีความเห็นขัดแย้ง ในกรณีเกี่ยวกับทัศนะของพวกเขา(ที่อ้างว่า) อนุญาตให้ปล่อยท่านหญิงที่เป็นกาเฟร ในสภาพที่เป็นกาเฟร เพราะ อะกีดะฮของเขา(หมายถึงชาฟิอี)เชื่อว่า แท้จริงอัลลอฮ( ซ.บ) ทรงอยู่เหนื่อมัคลูคของพระองค์ และเหนือ บรรดาฟากฟ้าทั้งเจ็ดของพระองค์ บนบัลลังค์(อะรัช)ของพระองค์ ดังที่เป็นหลักความเชื่อของบรรดามุสลิม จากอะฮลุสสุนนะฮ วัลญะมาอะฮ ยุคสะลัฟและยุคเคาะลัฟ เพราะ ปรากฏว่าเขา(หมายถึงอิหม่ามชาฟิอี) เขาจะไม่รายงานหะดิษที่เศาะเอียะใดๆ แล้วต่อมาเขาไม่นำมากล่าวด้วยมัน - อะกีดะฮสะลัฟ วะอัศหาบิลหะดิษ ของ อิหม่ามอัศศอบูนีย์ หน้า ๑๑๘,๑๘๙
>>>>>>>>>>
หมายถึง อิหม่ามชาฟิอีได้อ้างหะดิษญารียะฮ เป็นหลักฐานตอบโต้ บรรดาผู้ที่อ้างว่า อนุญาตให้ปล่อยทาสหญิงที่เป็นกาเฟร ในสภาพที่เป็นกาเฟรได้ สำหรับทัศนะของอิหม่ามชาฟิอีนั้น อนุญาตปล่อยทาสหญิงที่เป็นกาเฟรได้ ก็ต่อเมื่อนางรับอิสลาม โดยที่อิหม่ามชาฟิอีได้อ้างหลักฐานจากหะดิษญารียะฮ คือ ท่านนบี ถามทาสหญิงคนนั้นว่า อัลลอฮอยู่ที่ใหน ?นางตอบว่า “อัลลอฮ อยู่บนฟ้า” แล้วนบีรับรองว่านางเป็นมุสลิม แล้วนบีบอกให้ปล่อยนางเป็นอิสระ และอัศศอบูนีย์ ยืนยันว่า "อิหม่ามชาฟิอีนั้น ไม่เคยปรากฏว่า เมื่อท่านรายงานหะดิษเศาะเฮียะ แล้วท่านไม่นำมันมาอ้างเป็นหลักฐาน
มาดูคำพูดอิหม่ามชาฟิอีย์ที่ท่านอ้างหลักฐานด้วยหะดิษญารียะฮในตำราของท่านดังนี้

وَأَحَبُّ إلَيَّ أَنْ لَا يُعْتِقَ إلَّا بَالِغَةً مُؤْمِنَةً فَإِنْ كَانَتْ أَعْجَمِيَّةً فَوَصَفَتْ الْإِسْلَامَ أَجْزَأَتْهُ ، أَخْبَرَنَا مَالِكٌ عَنْ هِلَالِ بْنِ أُسَامَةَ عَنْ عَطَاءِ بْنِ يَسَارٍ عَنْ عُمَرَ بْنِ الْحَكَمِ أَنَّهُ قَالَ { أَتَيْت رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَقُلْت يَا رَسُولَ اللَّهِ إنَّ جَارِيَةً لِي كَانَتْ تَرْعَى غَنَمًا لِي فَجِئْتهَا وَفَقَدَتْ شَاةً مِنْ الْغَنَمِ فَسَأَلْتهَا عَنْهَا فَقَالَتْ أَكَلَهَا الذِّئْبُ فَأَسِفْت عَلَيْهَا وَكُنْت مِنْ بَنِي آدَمَ فَلَطَمْتُ وَجْهَهَا وَعَلَيَّ رَقَبَةٌ أَفَأَعْتِقُهَا ؟ فَقَالَ لَهَا رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَيْنَ اللَّهُ ؟ فَقَالَتْ فِي السَّمَاءِ فَقَالَ مَنْ أَنَا ؟ فَقَالَتْ أَنْتَ رَسُولُ اللَّهِ قَالَ فَأَعْتِقْهَا

และที่ข้าพเจ้าชอบคือ จะไม่มีการปล่อยทาสให้เป็นอิสระ นอกจาก เป็นหญิงผู้ศรัทธาที่บรรลุศาสนภาวะ แล้วถ้าปรากฏว่านางเป็นหญิงอะญัม(ไม่ใช่อาหรับ) แล้วนางมีคุณลักษณะอิสลาม ก็ใช้ได้,มาลิก ได้บอกแก่เรา จากฮิลาล บิน อุสามะฮ จาก อะฏออฺ บิน ยะสาร จากอุมัร บินหะกัม ว่า “เขากล่าวว่าฉันมีทาสคนหนึ่งที่เคยเลี้ยงแพะของฉันในพื้นที่ระหว่างอุฮุดและอัล-ญะวานิยยะฮฺ วันหนึ่งเขาได้กระทำความผิดบางอย่าง เขาได้ออกโดยเอาแพะไปตัวหนึ่ง ฉันเป็นมนุษย์ธรรมดา แน่นอนว่าต้องมีอารมณ์โกรธ ฉันจึงตบหน้านาง และ จำเป็นแก่ฉันจะต้องปล่อยทาสให้เป็นอิสระ, ฉันควรปล่อยทาสของฉันคนนี้เป็นอิสระไหม?’ แล้วรซูลุลลอฮ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ก็ได้กล่าวแก่นางว่า “อัลลอฮอยู่ที่ไหน?”
นางตอบว่า “อยู่บนฟากฟ้า” แล้วท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ก็ถามต่อไปอีกว่า “ฉันคือใคร?” ทาสของฉันตอบว่า “ท่านคือศาสนฑูตของอัลลอฮ” ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า “ปล่อยนางให้เป็นอิสระเถิด แท้จริงนางคือผู้ศรัทธา
-ดู หนังสือ อัลอุม ของอิหม่าชาฟิอีย์ เล่ม 5 บทว่าด้วย باب عتق المؤمنة في الظهار

……………
อิหม่ามชาฟิอีย์รับรองหะดิษญารียะฮที่ระบุว่าอัลลอฮอยู่บนฟ้า โดยการนำมาเป็นหลักฐานอ้างอิง แต่ คนอ้างตามชาฟิอีย์บางกลุ่มไม่รับรองหะดิษนี้ ..และกล่าวหาว่าการเชื่อว่าพระเจ้าอยู่บนฟ้าเป็นอะกีดะฮที่หลุ่มหลง และเป็นอะกีดะฮยะฮูดีย์ -วัลอิยาซุบิลละฮ
การที่นักปราชญเอาหะดิษใดๆมาเป็นหลักฐาน แสดงว่า เขารับรองหะดิษนั้น ในทำนองเดียวกัน อิหม่ามชาฟิอี นำหะดิษญารียะฮ ที่นางบอกว่าอัลลอฮอยู่บนฟ้า มาเป็นหลักฐาน ท่านก็ถือว่าหะดิษนั้น เป็นหะดิษเศาะเฮียะ อย่างที่อิหม่ามอัศศอบูนีย์ ได้ยืนยันไว้ เพราะฉะนั้นวาทกรรม ปฏิเสธการอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮ โดยใช้ความเห็นและตรรกมาเป็นหลักฐาน ย่อมไม่มีน้ำหนักแม้แต่น้อย
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
30/4/59

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น