วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ลิ้มรสชาติอาหาอาหารเสียศีลอดไหม



ในภาพอาจจะมี ข้อความ

ลิ้มรสชาติอาหาอาหารเสียศีลอดไหม
ข้างต้นก็เป็นปัญหาหนึ่งที่แม่บ้านหรือพ่อบ้าน(กลัวเมีย) ต้องประสบเมื่อปรุงอาหารเตรียมไว้เพื่อละศีลอด เพราะไม่รู้ว่า อาหารที่ตัวเองปรุง มันจืดไปไหม เค็มไปไหม หวานไปไหม เผิดไปไหม รสชาติพอเหมาะหรือยัง สิ่งเหล่านี้ หากไม่ลองลิ้มรส ก็ไม่รู้ ผลก็คือ บางที่อาหารรสชาติไม่ถูกปาก ไม่อร่อยตามที่อยากจะกินเพราะอดมาทั้งวัน มันก็น่าจะมีทางออก
ถาม : การชิมรสชาติอาหารขณะถือศีลอดทำให้การถือศีลอดเสียหรือไม่?
وَقَالَ ابْنُ عَبَّاسٍ لَا بَأْسَ أَنْ يَتَطَعَّمَ الْقِدْرَ أَوْ الشَّيْءَ
และอิบนุอับบาสกล่าวว่า " การลิ้มรสชาติ(อาหารจาก)หม้อหรือสิ่งใดนั้น ไม่เป็นไร -ฟัตหุลบารีย์ เล่ม 5 หน้า 291
อิบนุอบีชัยบะฮ รายงานทัศนะ อัลหะซัน อัลบัศรีย์ ว่า
حَدَّثَنَا عَبْدُ الْأَعْلَى عَنْ هِشَامٍ عَنْ الْحَسَنِ أَنَّهُ كَانَ لَا يَرَى بَأْسًا أَنْ يَتَطَاعَمَ الصَّائِمُ الْعَسَلَ وَالسَّمْنَ وَنَحْوَهُ ثُمَّ يَمُجَّهُ .
อับดุลอะอลา ได้เล่าเรา ว่ารายงานจากฮิชาม จาก อัลหะซันว่า เขาไม่เห็นว่าผิด การที่ผู้ถือศีลอด ชิมรสชาติ ความหวาน และ ความมัน และในทำนองนั้น หลังจากนั้นเขา ก็คายมันทิ้ง -ดูมุศอ็นนิฟ ของอิบนุอบีชัยบะฮ 2/305
وقَالَ الإمام أَحْمَدُ : أَحَبُّ إلَيَّ أَنْ يَجْتَنِبَ ذَوْقَ الطَّعَامِ , فَإِنْ فَعَلَ لَمْ يَضُرَّهُ , وَلا بَأْسَ بِهِ
อิหม่ามอะหมัด กล่าวว่า "ฉันชอบที่จะให้ห่างใกลจากการชิมรสชาติอาหาร แล้วถ้าหากเขากระทำ ก็ไม่มีผลเสียแก่เขา และไม่เป็นไร ด้วยมัน - อัลมุฆนีย์ อิบนุกุดามะฮ 4/359
อิบนุตัยมียะฮ(ร.ฮ) กล่าวว่า
وَذَوْقُ الطَّعَامِ يُكْرَهُ لِغَيْرِ حَاجَةٍ ; لَكِنْ لا يُفْطِرُهُ
และการชิมรสชาติอาหารนั้น เป็นที่น่ารังเกียจ สำหรับกรณีที่ไม่จำเป็น แต่ มันไม่ทำให้เสียศีลอด - อัลฟะตาวาอัลกุบรอ 4/474
..........
สรุป
การลิ้มรสชาติอาหาร เมื่อมีความจำเป็น สำหรับคนที่กำลังถือศีลอดนั้น ไม่ทำให้เสียศีลอด
 คำว่า "ชิม หริอลิ้มรสชาติ ในที่นี้หมายถึงชิมให้รู้รสชาติแล้วบ้วนหรือคายทิ้ง หากเจตนากลืนเข้าไปก็เสียศีลอด
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
27/6/60
ถูกใจแสดงความรู้สึกเพิ่มเติม
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น
      อุ้ย..คันหูในเดือนเราะมะฎอนทำไงดี
      บางคน"คันหู" เขาทรมานมาก ไม่กล้าแคะหู กลัวเสียศีลอด คนที่เคยคันหู น่าจะรู้ว่าทรมานแค่ใหน เลยกลับกลายเป็นว่า การถือศีลอด เป็นการทรมารตัวเอง ทั้งๆที่เจตนารมณ์ ของการถือศีลอด คือ การสำรวมตนจากความชั่ว แต่นี้กลับมาทรมาน ทำเรื่องง่าย ให้เป็นเรื่องยาก เพราะเงื่อนไขศาสนาที่มนุษย์กำหนดขึ้น
      ท่านนบี ศอ็ลฯกล่าวว่า
      ما بال أقوام يشترطون شروطا ليس في كتاب الله من اشترط شرطا ليس في كتاب الله فليس له وإن اشترط مائة مرة
      สภาพของกลุ่มชนต่างๆจะเป็นอย่างไร พวกเขากำหนดเงื่อนไข ต่างๆ โดยที่ไม่มีในคัมภีร์ของอัลลอฮ ดังนั้น ผู้ใดก็ตามกำหนดเงื่อนไขหนึ่งเงื่อนไขใด โดยที่ไม่มีในคัมภีร์ของอัลลอฮ โดยที่เขาไม่มีสิทธิ์ แม้เขาจะกำหนดเงื่อนไข สักร้อยครั้งก็ตาม – รายงานโดย บุคอรี
      เป็นประเด็นที่มีการถามกันทุกปี เมื่อเข้าสู่เดือนเราะมะฎอนว่า แคะหู แคะขี้มูก เสียศีลอดไหม มาดูฟัตวาต่อไปนี้
      อิบนุอุษัยมีน (ร.ฮ)กล่าวว่า
      وأما قطرة العين - ومثلها أيضاً الاكتحال - وكذلك القطرة في الأذن : فإنها لا تفطر الصائم ؛ لأنها ليست منصوصاً عليها ؛ ولا بمعنى المنصوص عليه ، والعين ليست منفذاً للأكل والشرب ، وكذلك الأذن ، فهي كغيرها من مسام الجسد
      .
      และสำหรับการหยอดตา และที่เหมือนกับมัน คือ การเขียนตา และในทำนองเดียวกันนั้น คือการหยอดหู แท้จริงมันไม่ทำให้เสียศีลอด เพราะแท้จริง มันไม่มีตัวบทระบุไว้บนมัน และไม่มีความหมายของสิ่งที่เป็นตัวบท(หลักฐาน) บนมันก็ไม่มี และตา ก็ไม่ใช่ช่องปาก สำหรับกินและดื่ม และ หูก็เช่นเดียวกัน เพราะมัน เป็นส่วนหนึ่งจากบรรดารูของร่างกาย เหมือนกับอื่นจากมัน - มัจญมัวะ ฟะตาวา เรื่อง อัศศิยาม เล่ม 18หน้า 206
      สรุป
      ตาและหู ไม่ใช่ช่องปากสำหรับกินและดื่ม มันเป็นเพืองส่วนของร่างกายที่เป็นรูเหมือนกับส่วนอื่น การหยอดตา หยอดหูจึงไม่ทำให้เสียศีลอด เพราะไม่มีตัวบทหลักฐานยืนยันไว้
      والله أعلم بالصواب
      อะสัน หมัดอะดั้ม
      27/5/60

    วันพุธที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

    ชี้แจงกรณีเขากล่าวหาว่าเป็นแกนนำลัทธิวาฮาบีย์มีอากีดะฮกาเฟร


    ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ



    ชี้แจงกรณีเขากล่าวหาว่าเป็นแกนนำลัทธิวาฮาบีย์มีอากีดะฮกาเฟร
    Al-Yafaie Bin-nazaie
    7 ชม. ·
    คุยข่าวข้น คนข่าวร้อน วันนี้
    ....เมื่อ เวาะสัน แกนนำของลัทธิวาฮาบีย์คณะใหม่สะเดา เดือดปุดๆ อัด ปู่อุดม คณะเก่าอาชาอีเราะ.. ด้วยคำพูดที่ว่า...
    "คุณปู่อุดมดันทุรังไม่รับฟังอะไรทั้งสินกล่าวหาว่าผมยึดอะกีดะฮยิว
    จากที่ผมอ้างหะดิษอิหม่ามบุคอรีย ได้รายงานใน หนังสือคอ็ลคุอัฟอาลิลอิบาด หน้า 9 ดังนี้
    وَقَالَ سَعِيدُ بْنُ عَامِرٍ : " الْجَهْمِيَّةُ أَشَرُّ قَوْلا مِنَ الْيَهُودِ وَالنَّصَارَى ، قَدِ اجْتَمَعَتِ الْيَهُودُ وَالنَّصَارَى ، وَأَهْلُ الأَدْيَانِ أَنَّ اللَّهَ تَبَارَكَ وَتَعَالَى عَلَى الْعَرْشِ ، وَقَالُوا هُمْ : لَيْسَ عَلَى الْعَرْشِ شَيْءٌ
    ความว่า “สาอีด บิน อามีร กล่าวว่า พวกญะฮฺมียะฮฺนั้นเลวยิ่งกว่าพวกยิวและคริศต์ เป็นที่ทราบกันดีว่า ยิวและคริศต์และศาสนาอื่นๆนั้นได้มีมติเอกฉันท์ร่วมกันว่า อัลลอฮทรงอยู่เหนือรัชฺ แต่พวกญะฮฺมียะฮฺกลับกล่าวว่า อัลลอฮมิได้อยู่เหนือสิ่งใดๆ"
    .........................
    ไฮไลค์ ของเวาะสันคือต้องการวิจารณ์ปู่อุดม แต่ไปกล่าวหาพวกญามียะฮ์ลัทธินอกกรอบอิสลามที่หลุดโลก.มาพาดพิงท่านปู่อุดม.
    เพื่อตอกย้ำแนวทางตนเองอีกครั้งว่า.พวกเขามีอากีดะฮ์ร่วมกับพวกกาฟีรคือยิวและคริสตร์..นั้นเอง
    คาบข่าวโดย....ญาฟัรอีย์ บินนาซาอีย
    @@@@
    ชี้แจง
    ความจริง การกล่าวหาข้างต้น ที่กล่าวหาว่าผมเป็นแกนนำลัทธิวาฮาบีย์ มีอากีดะฮ์ร่วมกับพวกกาฟีรคือยิวและคริสตร์
    ข้อกล่าวหานี้มันจะย้อนไปหานาย Al-Yafaie Bin-nazaie ไม่น่าเชื่อว่า คำพูดแบบนี้มาจากคุณที่อ้างว่าเป็นผู้รู้ และเป็นมุสลิม
    ที่ผมชี้แจงนี้ก็เพื่อจะได้ผู้อ่านได้ศึกษา ว่า อะกีดะฮ อยู่เหนืออะรัช นั้น เป็นอะกีดะฮอิสลาม ไม่ใช่อะกีดะฮกาเฟร อย่างที่นาย Al-Yafaie Bin-nazaie(เปลี่ยนนามแฝงบ่อยแต่ไม่กล้าเปิดเผยตัวตน)
    อัลลอฮตาอาลาตรัสว่า
    الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى
    [20.5] ผู้ทรงกรุณาปรานี ทรงสถิตย์อยู่เหนือบัลลังก์
    .........
    ช้างต้น อัลลอฮตาอาลาตรัสไว้เอง ไม่ใช่ผมคิดเอง ไม่ใช่อะกีดะฮกาเฟรอย่างที่นาย Al-Yafaie Bin-nazaie กล่าวหาว่าเป็นอะกีดะฮกาเฟร ว่าเป็นอะกีดะฮลัทธิวะฮฮาบีย
    1.อบูบักร อัลอิสมาอีลีย์ (อศ 371) กล่าวเกี่ยวกับอะกีดะฮอะลุลหะดิษว่า
    وأنه عز وجل استوى على العرش بلا كيف، فإن الله تعالى أنهى إلى أنه استوى على العرش، ولم يذكُر كيف كان استواؤه
    แท้จริงพระองค์ทรงสถิตเหนือบัลลังค์ โดยไม่ถามว่าเป็นอย่างไร เพราะอัลลอฮหยุดอยู่ที่คำว่า "แท้จริงพระองค์ทรงประทับเหนือบัลลังค์ และพระองค์ไม่ได้ระบุว่า การประทับของพระองค์เป็นอย่างไร -เอียะติกอ็ดอะฮลิสสุนนะฮ ของ อบีบักร์ อัลอิสมาอีลีย์ หน้า 36
    .............
    2.อิหม่ามอัฏเฏาะหาวีย(ฮ.ศ 321) กล่าวว่า
    وهو مستغن عن العرش وما دونه. محيط بكل شيء وفوقه
    และพระองค์ทรงไม่พึงพาอาศัยอะรัช และสิ่งอื่นจากมัน, ทรงห้อมล้อม ทุกสิ่งและทรงอยู่เหนือมัน
    คำว่า محيط بكل شيء وفوقه ท่านอิบนุอะบิลอิซ อธิบายว่า
    وَمَعْنَاهَا أَنَّهُ تَعَالَى مُحِيطٌ بِكُلِّ شَيْءٍ وَفَوْقَ كُلِّ شَيْءٍ . وَمَعْنَى الثَّانِيَةِ : أَنَّهُ مُحِيطٌ بِكُلِّ شَيْءٍ فَوْقَ الْعَرْشِ
    และความหมายของมัน คือแท้จริง พระองค์ ผู้ทรงสูงส่ง ทรงห้อมล้อม ทุกๆสิ่งและอยู่เหนือทุกๆสิ่ง และความหมายที่สอง คือ แท้จริง พระองค์ทรงห้อมล้อมทุกสิ่ง เหนืออะรัช–
    แล้วท่านอิบนุอะบิลอิซ ได้สรุปว่า
    وَيَكُونُ الْمَعْنَى : أَنَّهُ سُبْحَانَهُ مُحِيطٌ بِكُلِّ شَيْءٍ ، وَفَوْقَ كُلِّ شَيْءٍ
    และความหมายนั้น คือ แท้จริง พระองค์ ซ.บ. ทรงห้อมล้อมทุกๆสิ่ง และทรงอยู่เหนือทุกสิ่ง
    ดูชัรหุอะกีดะฮอัฏเฏาะหาวียะฮ 2/374
    .............
    จึงเห็นได้ชัดเจนว่า อิหม่ามอัฏเฏาะหาวีย์ยืนยันการอยู่เหนืออะรัช
    3. ท่านอิมามอัลบุคอรีย์ ได้รายงานจากท่านอบูฮุร๊อยเราะฮ์ ความว่า ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
    إِنَّ فِي الْجَنَّةِ مِائَةَ دَرَجَةٍ أَعَدَّهَا اللَّهُ لِلْمُجَاهِدِينَ فِي سَبِيلِ اللَّهِ، مَا بَيْنَ الدَّرَجَتَيْنِ كَمَا بَيْنَ السَّمَاءِ وَالأَرْضِ، فَإِذَا سَأَلْتُمُ اللَّهَ فَاسْأَلُوهُ الْفِرْدَوْسَ، فَإِنَّهُ أَوْسَطُ الْجَنَّةِ وَأَعْلَى الْجَنَّةِ، أُرَاهُ فَوْقَهُ عَرْشُ الرَّحْمَنِ، وَمِنْهُ تَفَجَّرُ أَنْهَارُ الْجَنَّةِ
    "แท้จริงในสวรรค์นั้นมี 100 ระดับชั้น ที่อัลเลาะฮ์ทรงตระเตรียมมันไว้สำหรับบรรดานักรบในหนวิถีทางของอัลเลาะฮ์ ซึ่งระหว่างสองชั้นนั้นห่างกันระหว่างฟ้าและแผ่นดิน ดังนั้นเมื่อพวกท่านได้วอนขอต่ออัลเลาะฮ์ ก็จะขอพระองค์กับสวรรค์ฟิรเดาซ์เถิด เพราะมันเป็นสวรรค์ที่ดีเลิสที่สุดและชั้นสูงที่สุด ฉันได้เคยเห็นมันอยู่ใต้บัลลังก์ของอัลเลาะฮ์ และมีบรรดาแม่น้ำในสวรรค์ไหลพุ่งออกมาจากมัน" ซอฮิห์บุคอรีย์ บทเรื่อง อัลญะฮาด หะดิษที่ 2581
    อิหม่ามอิบนุคุซัยมะฮ (ฮ.ศ 311) ปราชญ์มัซฮับชาฟิอี ในยุคสะลัฟ กล่าวว่า
    فالخبر يصرح أن عرش ربنا –جل وعلا- فوق جنته، وقد أعلمنا – جل وعلا- أنه مستو على عرشه، فخالقنا عال فوق عرشه الذي هو فوق جنته
    แล้ว หะดิษ ได้ทำให้ชัดเจน ว่า แท้จริง อะรัช(บัลลังค์)ของพระเจ้าของเรา ผู้ทรงเกรียงไกรและสูงส่ง อยู่ เหนือสวรรค์ของพระองค์ และ พระองค์ทรงบอกให้เรารู้ว่า แท้จริงพระองค์ อยู่บนอะรัชของพระองค์ ดังนั้น พระผู้ทรงสร้างพวกเรา ทรงอยู่สูงเหนือ อะรัชของพระองค์ ซึ่งมันอยู่เหนือสวรรค์ของพระองค์- อัตเตาฮีด วะอิษบาต สิฟาติรรอ็บฯ 2/241

    ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ



    4.อิบนุอัลมุบารอ็ก(ฮ.ศ 181) กล่าว เมื่อมีผู้ถามว่า เราจะรู้จักพระเจ้าของเราได้อย่างไร เขาตอบว่า
    “ بأنه فوق السماء السابعة على العرش، بائن من خلقه
    เพราะแท้จริงพระองค์ อยู่เหนือฟากฟ้าทั้งเจ็ด บน อะรัช แยกจาก มัคลูคของพระองค์ - สะบีลุรเราะชาด ฟี ฮุดาคอ็ยริล อิบาด หน้า 143


    ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ



    ............
    ข้างต้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งจากหลักฐานที่แสดงบอกว่า อะกีดะฮเชื่อว่าอัลลอฮอยู่เหนืออะรัช หรือบัลลังค์นั้น ไม่ใช่อะกีดะฮลัทธิวะฮบีย์ ไม่ใช่อะกีดะฮกาเฟร อย่างที่นาย Al-Yafaie Bin-nazaie อ้างและกล่าวหาผมว่ามีอะกีดะฮกาเฟร-วัลอิยาซุบิลละฮ
    والله أعلم بالصواب
    อะสัน หมัดอะดั้ม
    24/5/60

    วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

    วาทกรรมแปลบิดเบือนและโกหกแอบอ้างมัซฮับอิหม่ามมาลิก

    ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ

    วาทกรรมแปลบิดเบือนและโกหกแอบอ้างมัซฮับอิหม่ามมาลิก
    จตุพร บุญญลักษม์ ได้แชร์โพสต์ของ Al-Yafaie Bin-nazaie
    17 ชม.
    เจ้าเก่าเจ้าเดิมอีกแล้วครับท่านผู้ชม นักแปลฮาดิษแห่งเมืองเมดอินไทยแลนด์อย่างคุณ อาสัน
    Al-Yafaie Bin-nazaie
    ......................มีรายงานจากท่าน ญะอ์ฟัร บิน อับดิลลาฮ์ กล่าวว่า:
    كنا عند مالك بن أنس فجاءه رجل فقال: يا أبا عبد الله، {الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى} [سورة طه: الآية 5] كيف استوى؟....... وقال: الكيف منه غير معقول، والاستواء منه غير مجهول، والإيمان به واجب، والسؤال عنه بدعة، وأظنك صاحب بدعة وأمر به فأخرج.( التمهيد لابن عبد البر ج ٧ ص ١٥١)
    ในขณะที่พวกเราได้อยู่พร้อมกับ ท่าน อิหม่ามาลิก(รฮ)นั้น ได้มีชายคนหนึ่งได้มาถามท่านอิหม่ามมาลิก(รฮ)ว่า : โอ้ท่าน อะบูอับดิลลาฮ์เอ๋ย..ที่พระองค์ตรัสว่า
    الرَّحْمَنُ اسْتَوَ عَلَى الْعَرْش
    (ซูเราะห์ ตอฮา อายะห์ที่ 5) แล้วพระองค์ اسْتَوَى อย่างไรกันหรือ? ..ท่านอีม่ามมาลิก(รฮ)กล่าวตอบว่า : วิธีการของมันนั้น ไม่เป็นที่รู้กัน และการ اسْتَوَىไม่เป็นที่รู้จัก แต่ การศรัทธาสิ่งนั้นมันเป็นเรื่องจำเป็น และการถามถึงมันนั้น เป็นบิดอะห์ และฉัน(อีมามมาลิก(รฮ)คิดว่า ท่านกำลังจะกลายเป็นพวกบิดอะห์ไปแล้ว.. และเขาก็ถูกสั่งใ ห้ออกไป... อัตตัมฮีด ของอิหม่าม อิบนิ อับดิ้ลบัร เล่ม 7 หน้า 151
    ...............
    จริงๆแล้วในอะยะฮ์ที่ 5 ของ ซุเราะฏอฮา ในคัมภีร์อัลกรุอ่านคำว่า
    الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى
    คำว่า اسْتَوَى (อิสติวาฮ์ )นั้น.ท่านอีม่ามกุรตบีย์(รฮ)ปราชย์อะลิสซุนนะวัญญามาอะฮ์ของมัสหับสลัฟของท่านอีม่ามมาลีกีย์(รฮ)ได้ให้ความหมายคำนี้ไว้ และหนึ่งในความหมายนี้คือ 'การปกครอง"..
    ซึ่งเป็นความหมายหนึ่งของ การตะวีล ของบรรดาปราชย์อากีดะฮ์ของแนวทางอาชาอีเราะ..
    ........
    ฉนั้นความหมายที่ว่า"อัลเลาะผู้ทรงเมตตาปกครองเหนืออะรัช"
    นั้น ถือได้ว่าเป็นอากีดะฮ์หนึ่งของบรรดาปราชย์ในแนวทางของอาชาอีเราะฮ์..ไม่ใช่เป็นอากีดะฮ์ของพวกมุตาซีละฮ์ที่เป็นกลุ่มชนปฏิเสธิซีฟัตของอัลเลาะ(ซบ) ตามคำกล่าวหาและการแอบอ้างของเวาะสัน วาฮาบีย์ แห่งสะเดาแต่อย่างใดไม่..
    ..................
    วิพากการบิดเบือนของเวาะสัน วาฮาบีย์แห่งสะเดาโดย ธงชัย งามเขต เมื่อวันที่18 พฤษภาคม.2560


    ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ





    @@@@@
    ชี้แจง
    ข้างต้น นาย เก่าเจ้าเดิมอีกแล้วครับท่านผู้ชม นักแปลฮาดิษแห่งเมืองเมดอินไทยแลนด์อย่างคุณ อาสัน
    Al-Yafaie Bin-nazaie (เปลี่ยนนามแฝงบ่อย) เขียนบทความกล่าวหาว่าผมเบือน และนาย จตุพร บุญญลักษม์ ก็แชร์มาแบบหูหนวกตาบอด ทั้งที่ข้อสรุปข้างต้น เป็นการแปลคำพูดอิหม่ามมาลิกบิดเบือน และโกหกว่าปราชญมัซฮับมาลิกกีย์ให้ความหมาย “อัลอิสติวาอฺว่า “การปกครอง”
    มาดูการโกหกของนาย Al-Yafaie Bin-nazaie ต่อไปนี้
    1. นาย Al-Yafaie Bin-nazaie แปลบิดเบือนคำพูดอิหม่ามมาลิกที่ว่า
    وقال: الكيف منه غير معقول، والاستواء منه غير مجهول،
    ท่านอีม่ามมาลิก(รฮ)กล่าวตอบว่า : วิธีการของมันนั้น ไม่เป็นที่รู้กัน และการ اسْتَوَىไม่เป็นที่รู้จัก
    …….
    วิภาษ
    นาย Al-Yafaie Bin-nazaie แปลแบบโกหกมดเท็จ บิดเบือนคำพูดของอิหม่ามมาลิก
    เพราะความหมายที่แท้จริงคือ..
    และอิสติวาอฺนั้น ไม่ได้ถูกไม่รู้
    หมายถึง ความหมายของมันเป็นที่รู้กันนั้นเอง เพราะมีอีกสำนวนคือ
    لاستواء معلومٌ ، والكيف مجهولٌ ، والإيمان بـــه واجبٌ ، والسؤال عنه بدعةٌ
    อัลอิสติวาอฺนั้น เป็นที่รู้กัน และรูปแบบวิธีการนั้น ถูกไม่รู้(ไม่เป็นที่รู้กัน) และกาศรัทธาด้วยมันนั้น วาญิบ และการถามจากมัน คือบิดอะฮ
    ..........
    ดูที่มา
    رواه اللالكائي في " شرح أصول اعتقاد أهل السنة والجماعة " (3/441) والبيهقي في "الأسماء والصفات " (ص 408) وصححه الذهبي وشيخ الإسلام والحافظ ابن حجر .
    ....................
    คำว่า غير مجهول ความหมายเดียวกับคำว่า معلوم คือ เป็นที่รู้กัน หมายความว่า ความหมายของอัลอิสติวาอฺเป็นที่รู้กันในทางภาษา
    ดังที่อิหม่ามอัลกุรฎุบีย์(ร.ฮ)กล่าวว่า
    قال مالك رحمه الله : الاستواء معلوم - يعني في اللغة - والكيف مجهول ، والسؤال عن هذا بدعة
    มาลิก(ร.ฮ) ได้กล่าวว่า อิสติวาอฺนั้น เป็นที่รู้กัน หมายถึง ในภาษา และรูปแบบวิธีการนั้น ถูกไม่รู้(ไม่เป็นที่รู้กัน) และการถามเกี่ยวจากนี้ คือ บิดอะฮ - ดูตัฟสีรอัลกุรฏุบีย์ 7/219
    อบูบักร์ อิบนุอัลอะเราะบีย์ อัลมะลิกีย์ (ฮ.ศ 543)
    ท่านได้อธิบายหะดิษสิฟัตในสุนันติรมิซีย์ว่า
    ومذهب مالك رحمه الله أن كل حديث منها معلوم المعنى، ولذلك قال للذي سأله: "الاستواء معلوم، والكيفية مجهولة
    และแนวทางของมาลิก (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน) แท้จริงทุกหะดิษจากมัน(จากหะดิษที่ระบุเกี่ยวกับสิฟาต) ความหมาย เป็นที่รู้กัน และเพราะดังกล่าว เขาได้กล่าวแก่ผู้ที่ถามเขาว่า " อัลอิสติวาอฺนั้น เป็นที่รู้กัน และรูปแบบวิธีการนั้น ไม่เป็นที่รู้กัน - อาริเฎาะตุลอะหวะซีย์ 3/166
    เพราะฉะนั้น การอ้างว่า ความหมายอัลอิสติวาอฺ ไม่มีใครรู้ เป็นการโกหก กล่าวเท็จให้แก่อิหม่ามมาลิกและบรรดาปราชญสะลัฟ
    2. Al-Yafaie Bin-nazaie อ้างว่า คำว่า اسْتَوَى (อิสติวาฮ์ )นั้น.ท่านอีม่ามกุรตบีย์(รฮ)ปราชย์อะลิสซุนนะวัญญามาอะฮ์ของมัสหับสลัฟของท่านอีม่ามมาลีกีย์(รฮ)ได้ให้ความหมายคำนี้ไว้ และหนึ่งในความหมายนี้คือ 'การปกครอง"..
    .........
    วิภาษ
    ข้างต้นเป็นการโกหกคำโต เพราะอิหม่ามมาลิก มีความเชื่อว่า อัลลอฮอยู่เบื้องสูง ดังหลักฐานต่อไปนี้
    2.1 มีรายงานเศาะเฮียะจากนาเฟียะศิษย์ของอิหม่ามมาลิก ดังนี้
    قال الإمام عبد الله بن إمام أحمد حدثني أبي رحمه الله، نا سريج بن النعمان، نا عبد الله بن نافع، قال: كان مالك بن أنس يقول:" الله في السماء وعلمه في كل مكان لا يخلو منه شيء "


    ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ



    คำแปลตัวบท
    จากรายงานจาก อับดุลลอฮ บิน นาเฟียะว่า เขากล่าวว่า (มาลิกกล่าวว่า อัลลอฮอยู่บนฟ้า และความรู้ของพระองค์ อยู่ทุกสถานที่ และไม่มีสิ่งใดซ่อนเร้นจากพระองค์ - ดู มะลาอิลอิหม่ามอะหมัด หน้า 353 บาบุน ฟิลญะฮมียะฮ หะดิษหมายเลข 1699
    ". انظر: "مسائل أحمد من رواية أبي داود 263"، "السنة لعبد الله بن أحمد (1/280) "والشريعة للآجري 289"، "وشرح أصول اعتقاد أهل السنة للالكائي 673"وابن عبد البر في"التمهيد"(7/138).وهو أثر صحيح لا غبار عليه
    อิบนุอับดุลบัร ปราชญ์มาลิกีย์ (ฮ.ศ ๔๖๒) ปราชญ์ที่เกือบทันยุคสะลัฟ กล่าวว่า
    وأما قوله في هذا الحديث للجارية: ”أين الله؟“ فعلى ذلك جماعة أهل السنة وهم أهل الحديث ورواته المتفقهون فيه وسائر نقلته كلهم يقول ما قال الله تعالى في كتابه {الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى} [طه : 5] وأن الله عز وجل في السماء وعلمه في كل مكان
    สำหรับ คำพูดของท่านนบี ในหะดิษเกี่ยวกับทาสหญิง ที่ว่า “อัลลอฮอยูใหน? คณะหนึ่งของอะฮลุสสุนนะฮ อยู่บนดังกล่าวนั้น (คือเชื่อตามนั้น) พวกเขาคือ นักหะดิษ และบรรดานักรายงานมัน เป็นบรรดาผู้ที่เข้าใจในมัน และบรรดาผู้รายงานของมันที่เหลือทั้งหมด กล่าวเกี่ยวกับสิ่งที่อัลลอฮตะอาลาตรัสไว้ในคัมภีรของพระองค์ ที่ว่า (พระเจ้าผู้ทรงเมตตาทรงประทับบนบัลลังค์ – ฏอฮา/๕ ว่า “และแท้จริง อัลลอฮผู้ทรงสูงส่ง และทรงเลิศยิ่ง อยู่บนฟ้า และความรู้ของพระองค์ อยู่ในทุกสถานที่ – ดู อัลอิซติซกัร ของอิบนุอับดิลบัร 7/337
    อัลลามะฮ อับดุลมุหซิน บิน หัมมัด อัลอับบาด อัลบะดัร กล่าวว่า
    أنَّ الجهمية لَمَّا قالوا إنَّ الاستواءَ مجازٌ صرَّح أهل السُّنَّة بأنَّه مستوٍ بذاته على عرشه، وأكثرُ مَن صرَّح بذلك أئمَّةُ المالكية، فصرَّح به الإمام أبو محمد بن أبي زيد في ثلاثة مواضع من كتبه، أشهرها الرسالة، وفي كتاب جامع النوادر، وفي كتاب الآداب،
    แท้จริงญะฮมียะฮ เมือพวกเขากล่าวว่า แท้จริงการอิสติวาอฺนั้น คือมะญาซ(เป็นคำอุปมาศิลป์) ,อะฮลุสสุนนะฮ ก็ได้ชี้แจง ว่า แท้จริง พระองค์คือผู้อยู่บนบัลลังค์ของพระองค์ด้วยตัวตนของพระองค์ และส่วนมากผู้ที่ชี้แจงด้วยดังกล่าวนั้นคือ บรรดาปราชญมัซฮับมาลิกียะฮ แล้วอิหม่ามอบูมุหัมหมัด บิน อบีเซด ได้ชี้แจง ด้วยมัน ไว้ใน 3 แห่ง จากบรรดาหนังสือของเขา ที่แพร่หลายคือ อัรริสาละฮ,ในหนังสือญามิอิลนะวาดิรและ ในหนังสืออัลอาดับ – ดู กอ็ฏฟุลญะนีย์ ชัรห มุกอ็ดดิมะฮ ริสาละฮ อิบนุอบีเซด อัลกอ็ยรูนีย์ หน้า 38

    ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ




    .................
    ส่วนความหมาย อิสติวาอฺ คือ การปกครองนั้น คือ แนวคิดของมุอตะซิละฮและญะฮมียะฮ ผมไม่จำเป็นจะตองอธิบายซ้ำแล้วเพราะชี้มาหลายครั้งแล้ว แต่ 2. Al-Yafaie Bin-nazaie กลับโกหกว่า เป็นความหมายหนึ่ง ของมัซฮับอิหม่ามมาลิก ช่างโกโหกสิ้นดี
    ไม่เข้าใจจริงๆว่า การโกหกบิดเบือนเพื่อสนับสนุนแนวคิดปฏิเสธการอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮนั้น พวกท่านได้ประโยชน์อะไรหรือ
    والله أعلم بالصواب
    อะสัน หมัดอะดั้ม
    19/5/60
    จตุพร บุญญลักษม์ ได้แชร์โพสต์ของ Al-Yafaie Bin-nazaie
    17 ชม.
    เจ้าเก่าเจ้าเดิมอีกแล้วครับท่านผู้ชม นักแปลฮาดิษแห่งเมืองเมดอินไทยแลนด์อย่างคุณ อาสัน
    Al-Yafaie Bin-nazaie
    ......................มีรายงานจากท่าน ญะอ์ฟัร บิน อับดิลลาฮ์ กล่าวว่า:
    كنا عند مالك بن أنس فجاءه رجل فقال: يا أبا عبد الله، {الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى} [سورة طه: الآية 5] كيف استوى؟....... وقال: الكيف منه غير معقول، والاستواء منه غير مجهول، والإيمان به واجب، والسؤال عنه بدعة، وأظنك صاحب بدعة وأمر به فأخرج.( التمهيد لابن عبد البر ج ٧ ص ١٥١)
    ในขณะที่พวกเราได้อยู่พร้อมกับ ท่าน อิหม่ามาลิก(รฮ)นั้น ได้มีชายคนหนึ่งได้มาถามท่านอิหม่ามมาลิก(รฮ)ว่า : โอ้ท่าน อะบูอับดิลลาฮ์เอ๋ย..ที่พระองค์ตรัสว่า
    الرَّحْمَنُ اسْتَوَ عَلَى الْعَرْش
    (ซูเราะห์ ตอฮา อายะห์ที่ 5) แล้วพระองค์ اسْتَوَى อย่างไรกันหรือ? ..ท่านอีม่ามมาลิก(รฮ)กล่าวตอบว่า : วิธีการของมันนั้น ไม่เป็นที่รู้กัน และการ اسْتَوَىไม่เป็นที่รู้จัก แต่ การศรัทธาสิ่งนั้นมันเป็นเรื่องจำเป็น และการถามถึงมันนั้น เป็นบิดอะห์ และฉัน(อีมามมาลิก(รฮ)คิดว่า ท่านกำลังจะกลายเป็นพวกบิดอะห์ไปแล้ว.. และเขาก็ถูกสั่งใ ห้ออกไป... อัตตัมฮีด ของอิหม่าม อิบนิ อับดิ้ลบัร เล่ม 7 หน้า 151
    ...............
    จริงๆแล้วในอะยะฮ์ที่ 5 ของ ซุเราะฏอฮา ในคัมภีร์อัลกรุอ่านคำว่า
    الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى
    คำว่า اسْتَوَى (อิสติวาฮ์ )นั้น.ท่านอีม่ามกุรตบีย์(รฮ)ปราชย์อะลิสซุนนะวัญญามาอะฮ์ของมัสหับสลัฟของท่านอีม่ามมาลีกีย์(รฮ)ได้ให้ความหมายคำนี้ไว้ และหนึ่งในความหมายนี้คือ 'การปกครอง"..
    ซึ่งเป็นความหมายหนึ่งของ การตะวีล ของบรรดาปราชย์อากีดะฮ์ของแนวทางอาชาอีเราะ..
    ........
    ฉนั้นความหมายที่ว่า"อัลเลาะผู้ทรงเมตตาปกครองเหนืออะรัช"
    นั้น ถือได้ว่าเป็นอากีดะฮ์หนึ่งของบรรดาปราชย์ในแนวทางของอาชาอีเราะฮ์..ไม่ใช่เป็นอากีดะฮ์ของพวกมุตาซีละฮ์ที่เป็นกลุ่มชนปฏิเสธิซีฟัตของอัลเลาะ(ซบ) ตามคำกล่าวหาและการแอบอ้างของเวาะสัน วาฮาบีย์ แห่งสะเดาแต่อย่างใดไม่..
    ..................
    วิพากการบิดเบือนของเวาะสัน วาฮาบีย์แห่งสะเดาโดย ธงชัย งามเขต เมื่อวันที่18 พฤษภาคม.2560
    @@@@@
    ชี้แจง
    ข้างต้น นาย เก่าเจ้าเดิมอีกแล้วครับท่านผู้ชม นักแปลฮาดิษแห่งเมืองเมดอินไทยแลนด์อย่างคุณ อาสัน
    Al-Yafaie Bin-nazaie (เปลี่ยนนามแฝงบ่อย) เขียนบทความกล่าวหาว่าผมเบือน และนาย จตุพร บุญญลักษม์ ก็แชร์มาแบบหูหนวกตาบอด ทั้งที่ข้อสรุปข้างต้น เป็นการแปลคำพูดอิหม่ามมาลิกบิดเบือน และโกหกว่าปราชญมัซฮับมาลิกกีย์ให้ความหมาย “อัลอิสติวาอฺว่า “การปกครอง”
    มาดูการโกหกของนาย Al-Yafaie Bin-nazaie ต่อไปนี้
    1. นาย Al-Yafaie Bin-nazaie แปลบิดเบือนคำพูดอิหม่ามมาลิกที่ว่า
    وقال: الكيف منه غير معقول، والاستواء منه غير مجهول،
    ท่านอีม่ามมาลิก(รฮ)กล่าวตอบว่า : วิธีการของมันนั้น ไม่เป็นที่รู้กัน และการ اسْتَوَىไม่เป็นที่รู้จัก
    …….
    วิภาษ
    นาย Al-Yafaie Bin-nazaie แปลแบบโกหกมดเท็จ บิดเบือนคำพูดของอิหม่ามมาลิก
    เพราะความหมายที่แท้จริงคือ..
    และอิสติวาอฺนั้น ไม่ได้ถูกไม่รู้
    หมายถึง ความหมายของมันเป็นที่รู้กันนั้นเอง เพราะมีอีกสำนวนคือ
    لاستواء معلومٌ ، والكيف مجهولٌ ، والإيمان بـــه واجبٌ ، والسؤال عنه بدعةٌ
    อัลอิสติวาอฺนั้น เป็นที่รู้กัน และรูปแบบวิธีการนั้น ถูกไม่รู้(ไม่เป็นที่รู้กัน) และกาศรัทธาด้วยมันนั้น วาญิบ และการถามจากมัน คือบิดอะฮ
    ..........
    ดูที่มา
    رواه اللالكائي في " شرح أصول اعتقاد أهل السنة والجماعة " (3/441) والبيهقي في "الأسماء والصفات " (ص 408) وصححه الذهبي وشيخ الإسلام والحافظ ابن حجر .
    ....................
    คำว่า غير مجهول ความหมายเดียวกับคำว่า معلوم คือ เป็นที่รู้กัน หมายความว่า ความหมายของอัลอิสติวาอฺเป็นที่รู้กันในทางภาษา
    ดังที่อิหม่ามอัลกุรฎุบีย์(ร.ฮ)กล่าวว่า
    قال مالك رحمه الله : الاستواء معلوم - يعني في اللغة - والكيف مجهول ، والسؤال عن هذا بدعة
    มาลิก(ร.ฮ) ได้กล่าวว่า อิสติวาอฺนั้น เป็นที่รู้กัน หมายถึง ในภาษา และรูปแบบวิธีการนั้น ถูกไม่รู้(ไม่เป็นที่รู้กัน) และการถามเกี่ยวจากนี้ คือ บิดอะฮ - ดูตัฟสีรอัลกุรฏุบีย์ 7/219
    อบูบักร์ อิบนุอัลอะเราะบีย์ อัลมะลิกีย์ (ฮ.ศ 543)
    ท่านได้อธิบายหะดิษสิฟัตในสุนันติรมิซีย์ว่า
    ومذهب مالك رحمه الله أن كل حديث منها معلوم المعنى، ولذلك قال للذي سأله: "الاستواء معلوم، والكيفية مجهولة
    และแนวทางของมาลิก (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน) แท้จริงทุกหะดิษจากมัน(จากหะดิษที่ระบุเกี่ยวกับสิฟาต) ความหมาย เป็นที่รู้กัน และเพราะดังกล่าว เขาได้กล่าวแก่ผู้ที่ถามเขาว่า " อัลอิสติวาอฺนั้น เป็นที่รู้กัน และรูปแบบวิธีการนั้น ไม่เป็นที่รู้กัน - อาริเฎาะตุลอะหวะซีย์ 3/166
    เพราะฉะนั้น การอ้างว่า ความหมายอัลอิสติวาอฺ ไม่มีใครรู้ เป็นการโกหก กล่าวเท็จให้แก่อิหม่ามมาลิกและบรรดาปราชญสะลัฟ
    2. Al-Yafaie Bin-nazaie อ้างว่า คำว่า اسْتَوَى (อิสติวาฮ์ )นั้น.ท่านอีม่ามกุรตบีย์(รฮ)ปราชย์อะลิสซุนนะวัญญามาอะฮ์ของมัสหับสลัฟของท่านอีม่ามมาลีกีย์(รฮ)ได้ให้ความหมายคำนี้ไว้ และหนึ่งในความหมายนี้คือ 'การปกครอง"..
    .........
    วิภาษ
    ข้างต้นเป็นการโกหกคำโต เพราะอิหม่ามมาลิก มีความเชื่อว่า อัลลอฮอยู่เบื้องสูง ดังหลักฐานต่อไปนี้
    2.1 มีรายงานเศาะเฮียะจากนาเฟียะศิษย์ของอิหม่ามมาลิก ดังนี้
    قال الإمام عبد الله بن إمام أحمد حدثني أبي رحمه الله، نا سريج بن النعمان، نا عبد الله بن نافع، قال: كان مالك بن أنس يقول:" الله في السماء وعلمه في كل مكان لا يخلو منه شيء "
    คำแปลตัวบท
    จากรายงานจาก อับดุลลอฮ บิน นาเฟียะว่า เขากล่าวว่า (มาลิกกล่าวว่า อัลลอฮอยู่บนฟ้า และความรู้ของพระองค์ อยู่ทุกสถานที่ และไม่มีสิ่งใดซ่อนเร้นจากพระองค์ - ดู มะลาอิลอิหม่ามอะหมัด หน้า 353 บาบุน ฟิลญะฮมียะฮ หะดิษหมายเลข 1699
    ". انظر: "مسائل أحمد من رواية أبي داود 263"، "السنة لعبد الله بن أحمد (1/280) "والشريعة للآجري 289"، "وشرح أصول اعتقاد أهل السنة للالكائي 673"وابن عبد البر في"التمهيد"(7/138).وهو أثر صحيح لا غبار عليه
    อิบนุอับดุลบัร ปราชญ์มาลิกีย์ (ฮ.ศ ๔๖๒) ปราชญ์ที่เกือบทันยุคสะลัฟ กล่าวว่า
    وأما قوله في هذا الحديث للجارية: ”أين الله؟“ فعلى ذلك جماعة أهل السنة وهم أهل الحديث ورواته المتفقهون فيه وسائر نقلته كلهم يقول ما قال الله تعالى في كتابه {الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى} [طه : 5] وأن الله عز وجل في السماء وعلمه في كل مكان
    สำหรับ คำพูดของท่านนบี ในหะดิษเกี่ยวกับทาสหญิง ที่ว่า “อัลลอฮอยูใหน? คณะหนึ่งของอะฮลุสสุนนะฮ อยู่บนดังกล่าวนั้น (คือเชื่อตามนั้น) พวกเขาคือ นักหะดิษ และบรรดานักรายงานมัน เป็นบรรดาผู้ที่เข้าใจในมัน และบรรดาผู้รายงานของมันที่เหลือทั้งหมด กล่าวเกี่ยวกับสิ่งที่อัลลอฮตะอาลาตรัสไว้ในคัมภีรของพระองค์ ที่ว่า (พระเจ้าผู้ทรงเมตตาทรงประทับบนบัลลังค์ – ฏอฮา/๕ ว่า “และแท้จริง อัลลอฮผู้ทรงสูงส่ง และทรงเลิศยิ่ง อยู่บนฟ้า และความรู้ของพระองค์ อยู่ในทุกสถานที่ – ดู อัลอิซติซกัร ของอิบนุอับดิลบัร 7/337
    อัลลามะฮ อับดุลมุหซิน บิน หัมมัด อัลอับบาด อัลบะดัร กล่าวว่า
    أنَّ الجهمية لَمَّا قالوا إنَّ الاستواءَ مجازٌ صرَّح أهل السُّنَّة بأنَّه مستوٍ بذاته على عرشه، وأكثرُ مَن صرَّح بذلك أئمَّةُ المالكية، فصرَّح به الإمام أبو محمد بن أبي زيد في ثلاثة مواضع من كتبه، أشهرها الرسالة، وفي كتاب جامع النوادر، وفي كتاب الآداب،
    แท้จริงญะฮมียะฮ เมือพวกเขากล่าวว่า แท้จริงการอิสติวาอฺนั้น คือมะญาซ(เป็นคำอุปมาศิลป์) ,อะฮลุสสุนนะฮ ก็ได้ชี้แจง ว่า แท้จริง พระองค์คือผู้อยู่บนบัลลังค์ของพระองค์ด้วยตัวตนของพระองค์ และส่วนมากผู้ที่ชี้แจงด้วยดังกล่าวนั้นคือ บรรดาปราชญมัซฮับมาลิกียะฮ แล้วอิหม่ามอบูมุหัมหมัด บิน อบีเซด ได้ชี้แจง ด้วยมัน ไว้ใน 3 แห่ง จากบรรดาหนังสือของเขา ที่แพร่หลายคือ อัรริสาละฮ,ในหนังสือญามิอิลนะวาดิรและ ในหนังสืออัลอาดับ – ดู กอ็ฏฟุลญะนีย์ ชัรห มุกอ็ดดิมะฮ ริสาละฮ อิบนุอบีเซด อัลกอ็ยรูนีย์ หน้า 38
    .................
    ส่วนความหมาย อิสติวาอฺ คือ การปกครองนั้น คือ แนวคิดของมุอตะซิละฮและญะฮมียะฮ ผมไม่จำเป็นจะตองอธิบายซ้ำแล้วเพราะชี้มาหลายครั้งแล้ว แต่ 2. Al-Yafaie Bin-nazaie กลับโกหกว่า เป็นความหมายหนึ่ง ของมัซฮับอิหม่ามมาลิก ช่างโกโหกสิ้นดี
    ไม่เข้าใจจริงๆว่า การโกหกบิดเบือนเพื่อสนับสนุนแนวคิดปฏิเสธการอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮนั้น พวกท่านได้ประโยชน์อะไรหรือ
    والله أعلم بالصواب
    อะสัน หมัดอะดั้ม
    19/5/60