วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ลิ้มรสชาติอาหาอาหารเสียศีลอดไหม



ในภาพอาจจะมี ข้อความ

ลิ้มรสชาติอาหาอาหารเสียศีลอดไหม
ข้างต้นก็เป็นปัญหาหนึ่งที่แม่บ้านหรือพ่อบ้าน(กลัวเมีย) ต้องประสบเมื่อปรุงอาหารเตรียมไว้เพื่อละศีลอด เพราะไม่รู้ว่า อาหารที่ตัวเองปรุง มันจืดไปไหม เค็มไปไหม หวานไปไหม เผิดไปไหม รสชาติพอเหมาะหรือยัง สิ่งเหล่านี้ หากไม่ลองลิ้มรส ก็ไม่รู้ ผลก็คือ บางที่อาหารรสชาติไม่ถูกปาก ไม่อร่อยตามที่อยากจะกินเพราะอดมาทั้งวัน มันก็น่าจะมีทางออก
ถาม : การชิมรสชาติอาหารขณะถือศีลอดทำให้การถือศีลอดเสียหรือไม่?
وَقَالَ ابْنُ عَبَّاسٍ لَا بَأْسَ أَنْ يَتَطَعَّمَ الْقِدْرَ أَوْ الشَّيْءَ
และอิบนุอับบาสกล่าวว่า " การลิ้มรสชาติ(อาหารจาก)หม้อหรือสิ่งใดนั้น ไม่เป็นไร -ฟัตหุลบารีย์ เล่ม 5 หน้า 291
อิบนุอบีชัยบะฮ รายงานทัศนะ อัลหะซัน อัลบัศรีย์ ว่า
حَدَّثَنَا عَبْدُ الْأَعْلَى عَنْ هِشَامٍ عَنْ الْحَسَنِ أَنَّهُ كَانَ لَا يَرَى بَأْسًا أَنْ يَتَطَاعَمَ الصَّائِمُ الْعَسَلَ وَالسَّمْنَ وَنَحْوَهُ ثُمَّ يَمُجَّهُ .
อับดุลอะอลา ได้เล่าเรา ว่ารายงานจากฮิชาม จาก อัลหะซันว่า เขาไม่เห็นว่าผิด การที่ผู้ถือศีลอด ชิมรสชาติ ความหวาน และ ความมัน และในทำนองนั้น หลังจากนั้นเขา ก็คายมันทิ้ง -ดูมุศอ็นนิฟ ของอิบนุอบีชัยบะฮ 2/305
وقَالَ الإمام أَحْمَدُ : أَحَبُّ إلَيَّ أَنْ يَجْتَنِبَ ذَوْقَ الطَّعَامِ , فَإِنْ فَعَلَ لَمْ يَضُرَّهُ , وَلا بَأْسَ بِهِ
อิหม่ามอะหมัด กล่าวว่า "ฉันชอบที่จะให้ห่างใกลจากการชิมรสชาติอาหาร แล้วถ้าหากเขากระทำ ก็ไม่มีผลเสียแก่เขา และไม่เป็นไร ด้วยมัน - อัลมุฆนีย์ อิบนุกุดามะฮ 4/359
อิบนุตัยมียะฮ(ร.ฮ) กล่าวว่า
وَذَوْقُ الطَّعَامِ يُكْرَهُ لِغَيْرِ حَاجَةٍ ; لَكِنْ لا يُفْطِرُهُ
และการชิมรสชาติอาหารนั้น เป็นที่น่ารังเกียจ สำหรับกรณีที่ไม่จำเป็น แต่ มันไม่ทำให้เสียศีลอด - อัลฟะตาวาอัลกุบรอ 4/474
..........
สรุป
การลิ้มรสชาติอาหาร เมื่อมีความจำเป็น สำหรับคนที่กำลังถือศีลอดนั้น ไม่ทำให้เสียศีลอด
 คำว่า "ชิม หริอลิ้มรสชาติ ในที่นี้หมายถึงชิมให้รู้รสชาติแล้วบ้วนหรือคายทิ้ง หากเจตนากลืนเข้าไปก็เสียศีลอด
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
27/6/60
ถูกใจแสดงความรู้สึกเพิ่มเติม
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น
      อุ้ย..คันหูในเดือนเราะมะฎอนทำไงดี
      บางคน"คันหู" เขาทรมานมาก ไม่กล้าแคะหู กลัวเสียศีลอด คนที่เคยคันหู น่าจะรู้ว่าทรมานแค่ใหน เลยกลับกลายเป็นว่า การถือศีลอด เป็นการทรมารตัวเอง ทั้งๆที่เจตนารมณ์ ของการถือศีลอด คือ การสำรวมตนจากความชั่ว แต่นี้กลับมาทรมาน ทำเรื่องง่าย ให้เป็นเรื่องยาก เพราะเงื่อนไขศาสนาที่มนุษย์กำหนดขึ้น
      ท่านนบี ศอ็ลฯกล่าวว่า
      ما بال أقوام يشترطون شروطا ليس في كتاب الله من اشترط شرطا ليس في كتاب الله فليس له وإن اشترط مائة مرة
      สภาพของกลุ่มชนต่างๆจะเป็นอย่างไร พวกเขากำหนดเงื่อนไข ต่างๆ โดยที่ไม่มีในคัมภีร์ของอัลลอฮ ดังนั้น ผู้ใดก็ตามกำหนดเงื่อนไขหนึ่งเงื่อนไขใด โดยที่ไม่มีในคัมภีร์ของอัลลอฮ โดยที่เขาไม่มีสิทธิ์ แม้เขาจะกำหนดเงื่อนไข สักร้อยครั้งก็ตาม – รายงานโดย บุคอรี
      เป็นประเด็นที่มีการถามกันทุกปี เมื่อเข้าสู่เดือนเราะมะฎอนว่า แคะหู แคะขี้มูก เสียศีลอดไหม มาดูฟัตวาต่อไปนี้
      อิบนุอุษัยมีน (ร.ฮ)กล่าวว่า
      وأما قطرة العين - ومثلها أيضاً الاكتحال - وكذلك القطرة في الأذن : فإنها لا تفطر الصائم ؛ لأنها ليست منصوصاً عليها ؛ ولا بمعنى المنصوص عليه ، والعين ليست منفذاً للأكل والشرب ، وكذلك الأذن ، فهي كغيرها من مسام الجسد
      .
      และสำหรับการหยอดตา และที่เหมือนกับมัน คือ การเขียนตา และในทำนองเดียวกันนั้น คือการหยอดหู แท้จริงมันไม่ทำให้เสียศีลอด เพราะแท้จริง มันไม่มีตัวบทระบุไว้บนมัน และไม่มีความหมายของสิ่งที่เป็นตัวบท(หลักฐาน) บนมันก็ไม่มี และตา ก็ไม่ใช่ช่องปาก สำหรับกินและดื่ม และ หูก็เช่นเดียวกัน เพราะมัน เป็นส่วนหนึ่งจากบรรดารูของร่างกาย เหมือนกับอื่นจากมัน - มัจญมัวะ ฟะตาวา เรื่อง อัศศิยาม เล่ม 18หน้า 206
      สรุป
      ตาและหู ไม่ใช่ช่องปากสำหรับกินและดื่ม มันเป็นเพืองส่วนของร่างกายที่เป็นรูเหมือนกับส่วนอื่น การหยอดตา หยอดหูจึงไม่ทำให้เสียศีลอด เพราะไม่มีตัวบทหลักฐานยืนยันไว้
      والله أعلم بالصواب
      อะสัน หมัดอะดั้ม
      27/5/60

    ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น