วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ถ้าเสวนากันเรื่องศาสนาก็อย่าให้ชัยฏอนนั่งบนหัว


ในภาพอาจจะมี อาหาร


ถ้าเสวนากันเรื่องศาสนาก็อย่าให้ชัยฏอนนั่งบนหัว
คุยกันเรื่องศาสนาของอัลลอฮแท้ๆทำไมจึงไม่จบ ทำไมจึงสรุปไม่ได้ ก็เพราะชัยฏอนมันยากให้เอาชนะไง มันจึงเสียมสอน ยุยงให้มีการนินทา ดาทอ ดูถูกเหยียดหยาม สารพัดเพื่อให้เป็นศัตรูกัน
ทำให้นึกถึงหะดิษบทหนึ่งคือ
عَنْ جَابِرٍ قَالَ قَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِنَّ الشَّيْطَانَ قَدْ يَئِسَ أَنْ يَعْبُدَهُ الْمُصَلُّونَ وَلَكِنْ فِي التَّحْرِيشِ بَيْنَهُمْ
รายงานจากญาบีร เขากล่าวว่า "แท้จริงท่านนบี ศ็อลฯ ได้กล่าวว่า "แท้จริงชัยฏอน มันหมดหวังที่จะให้บรรดาผู้ละหมาด ทำการเคารพภักดีต่อมัน แต่(มันไม่หมดหวัง)ในการที่จะให้เกิดการแตกแยกในระหว่างพวกเขา -รายงานโดยอิหม่ามอัตติติรมีซีย์
คำว่า "التحريش (อัตตะหรีช)คือ
إيقاع الخصومة والخشونة بينهم
การให้เกิด การทะเลาะวิวาท และแสดงความหยาบช้าในระหว่างพวกเขา - ดูชัรหอัสสุนนะฮ ของอิหม่ามอัลบัฆวีย์ 13/104
อิหม่ามอิบนุกะษีร (ร.ฮ) กล่าวว่า
النميمة على قسمين: تارة تكون على وجه التحريش بين الناس وتفريق قلوب المؤمنين فهذا حرام متفق عليه
อันนะมีมะฮ (การกล่าวให้ร้าย) แบ่งออกเป็น 2 ประเภท บางครั้ง มันอยู่บนรูปแบบของการให้เกิดการแตกแยกระหว่างมนุษย์ และบางครั้งทำให้หัวใจของบรรดาผู้ศรัทธาแตกแยกกัน นี่คือ สิ่งต้องห้าม(หะรอม) ดดยมติเอกฉันท์ของปวงปราชญ์บนมัน -ดู ตัฟสีร อิบนุกะษีร 1/371
............
จะปกป้องศาสนาแต่ให้ชัยฏอน นั่งบนหัวคอยบงการ การให้ร้าย นินทา ดาทอ พูดจาก้าวร้าว ด้วยอคติ และทิฐิ ในที่สุดความเป็นศัตรูอันถาวร ของผู้ทีละหมาด ที่รู้เรื่องศาสนา ก็จะเกิดขึ้นตามเป้าหมายของชัยฎอน
ขออัลลอฮตาอาลาให้บ่าวปลอดภัยจากฟิตนะฮ ของผู้ที่ถูกครอบงำด้วยชัยฏอนด้วยเถิด
อะสัน หมัดอะดั้ม
27/8/62

วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2562

จงแสวงหาความถูกต้อง


จงแสวงหาความถูกต้องและใกล้เคียงกับความถูกต้องมากที่สุดโดยไม่ชี้โพรงให้ทำสิ่งที่ตรงกันข้าม
ในเรื่องศาสนา ไม่ใช่เรืองจะเอาชนะเพื่อรักษาหน้า ไม่ใช่จะเอาชนะเรียกมวลชน ไม่ใช่จะเอาชนะ เพื่อสร้างบารมี แต่ให้ทุ่มเทความพยายามแสวงหาความถูกต้องและใกล้เคียงกับความถูกต้องมากที่สุด เพื่อแสวงหาความโปรดปรานจากอัลลอฮ เพื่อความสำเร็จในวันอาคีเราะฮ
ท่านนบี ศ็อลฯ ได้กล่าวว่า :
إِنَّ الدِّينَ يُسْرٌ ، وَلَنْ يُشَادَّ الدِّينَ أَحَدٌ إِلاَّ غَلَبَهُ ، فَسَدِّدُوا وَقَارِبُوا وَأَبْشِرُوا ، وَاسْتَعِينُوا بِالْغَدْوَةِ وَالرَّوْحَةِ وَشَىْءٍ مِنَ الدُّلْجَةِ
(แท้จริงแล้วศาสนานั้นง่าย, ไม่มีทางที่คนๆหนึ่งจะเอาชนะศาสนาได้ เว้นแต่เขาต้องแพ้, ดังนั้นจงปฏิบัติให้ตรงเป้าหมาย, และทำให้ไกล้เคียง, และจงมีความสุข, และจงขอความช่วยเหลือด้วยหัววัน และระหว่างวัน และส่วนหนึ่งของกลางคืน(หมายถึง ใช้บางเวลาในการทำอีบาดัต ไม่ไช่ทุกเวลา).รายงานโดยบุคอรี
อัลหาฟิซอิบนุหะญัร(ร.ฮ)อธิบายว่า
قَوْلُهُ : ( فَسَدِّدُوا ) أَيِ : الْزَمُوا السَّدَادَ وَهُوَ الصَّوَابُ مِنْ غَيْرِ إِفْرَاطٍ وَلَا تَفْرِيطٍ ، قَالَ أَهْلُ اللُّغَةِ : السَّدَادُ التَّوَسُّطُ فِي الْعَمَلِ .
คำกล่าวของท่านนบีที่ว่า(พวกท่านจงปฏิบัติให้ตรงเป้าหมาย หมายถึง จงยึดมัน สิ่งที่ถูกต้อง ปราศจากการเกินเลยขอบเขต และการละเลยในการปฏิบัติ ,นักภาษาศาสตร์ ได้กล่าวว่า อัสสะดาดคือ ยึดสายกลางในการปฏิบัติ
قَوْلُهُ : ( وَقَارِبُوا ) أَيْ : إِنْ لَمْ تَسْتَطِيعُوا الْأَخْذَ بِالْأَكْمَلِ فَاعْمَلُوا بِمَا يُقَرِّبُ مِنْهُ
คำพูดของท่านนบี ศ็อลฯที่ว่า (พวกท่านจงทำให้ใกล้เคียง) หมายถึง หากพวกท่านไม่สามารถที่จะเอา(ปฏิบัติ)ที่สมบูรณ์ที่สุด พวกท่านก็จงปฏิบัติด้วยสิ่งที่ใกล้เคียงกับมัน(กับความสมบูรณ์)-ฟัตหุลบารีย์ 1/176
..........
เพราะฉะนั้น เราต้องพยายามแสวงหาและปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้องที่สุด สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าไม่มีความสามารถก็ต้องพยายามให้ใกล้เคียงที่ถูกต้องมาที่สุด 
ไม่ใช่ ตัวเองเชื่อมั่นในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ว่าถูกต้องและเลือกสิ่งนั้น แต่..กลับชี้โพรงให้คนที่เห็นต่างทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามโดยไม่คัดค้านแต่กลับเอาอกเอาใจให้เขาปฏิบัติในทัศนะที่ตรงกันข้ามกับตนเองด้วยการหาข้ออ้างให้กับพวกเขา - นะอูซุบิลละฮ
อะสัน หมัดอะดั้ม
12/8/62

 à¹„ม่มีคำอธิบายรูปภาพ

วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2562

นบีอ่านกุนูตในละหมาดศุบฮิตลอดชีวิต เศาะเฮียะจริงหรือ ?




หะดิษที่ถูกอ้างว่านบีอ่านกุนูตในละหมาดศุบฮิตลอดชีวิต เศาะเฮียะจริงหรือ ?
من طريق أبي جعفر الرازي عن الربيع بن أنس عن أنس بن مالك رضي الله عنه ، ولفظه : ( أَنَّ النَّبِىَّ صلى الله عليه وسلم قَنَتَ شَهْرًا يَدْعُو عَلَيْهِمْ ثُمَّ تَرَكَهُ ، وَأَمَّا فِى الصُّبْحِ فَلَمْ يَزَلْ يَقْنُتُ حَتَّى فَارَقَ الدُّنْيَا
รายงานจากสายรายงานอบีญะฟัร อัรรอซีย์ จากอัรรอเบียะ บิน อะนัส จากอะนัสบินมาลิก (ร.ฎ) และสำนวนของเขา ว่า "แท้จริงท่านนบี ศ็อลฯ .อ่านกุหนูตสาบแช่งพวกเขาเป็นเวลาหนึ่งเดือน จากนั้นก็ทิ้งมัน แต่สำหรับในละหมาดซุบห์นั้น ท่านยังคงอ่านกุหนูตต่อไปจนกระทั่งท่านอำลาจากโลกนี้
أخرجه عبد الرزاق في "المصنف" (3/110) ومن طريقه الدارقطني في "السنن" (2/39)، وأخرجه ابن أبي شيبة في "المصنف" (2/312) مختصرا، والبزار (556 – من كشف الأستار) وأحمد في "المسند" (3/162)، والطحاوي في "شرح معاني الآثار" (1/143) والحاكم في "الأربعين" وعنه البيهقي في "السنن" (2/201) .
ผู้รายงานชื่อ อบูญะฟัร อัรรอซีย์ หรืออีซา บิน มาฮาน นักวิชาการส่วนมาก ให้สถานะ ว่าเขาผู้นี้ เฎาะอีฟ(ตามฟัตวาของชัยค์อัลมุนัจญิด)
เช่น
อิหม่าม อัลหุซัยนฺ บิน อิบรอฮีม บินฮุซัยนฺ บิน ญะอฟัร อัลฮะมะซานีย์ อัลเญาเราะกอนีย์
لِلإِمَامِ الْحُسَيْنِ بْنِ إِبْرَاهِيم بْنِ الحُسَيْنِ بْنِ جَعْفَرٍ الْهَمَذَانِيِّ الْجَوْرَقَانِيِّ
أَبُو جَعْفَرٍ الرَّازِيُّ هَذَا اسْمُهُ عِيسَى بْنُ مَاهَانَ ، وَكُنْيَةُ مَاهَانَ أَبُو عِيسَى ، أَصْلُهُ مِنْ مَرْوَ ، وَانْتَقَلَ إِلَى الرَّيِّ ، فَنُسِبَ إِلَيْهَا ، كَانَ مِمَّنْ يَتَفَرَّدُ بِالْمَنَاكِيرِ عَنِ الْمَشَاهِيرِ ، لَا يُعْجِبُنِي الِاحْتِجَاجُ بِحَدِيثِهِ إِلَّا فِيمَا وَافَقَ الثِّقَاتِ . قَالَ : عَلِيُّ بْنُ سَعِيدِ بْنِ جَرِيرٍ ، سَمِعْتُ أَحْمَدَ بْنَ حَنْبَلٍ ، يَقُولُ : أَبُو جَعْفَرٍ الرَّازِيُّ مُضْطَرِبُ الْحَدَيثِ
อบูญะฟัร อัรรอซีย์ ,นี้คือชื่อของเขา อีซา บิน มาฮาน แลัวฉายาของเขาคือ มาฮาน อบูอีซา พื้นเพดังเดิมของเขาจาก เมื่อง มัรวา (มัรวะซีย์ เกิดที่เมืองบัศเราะฮ-ผู้แปล)และเขาอพยพไปยังเมืองรัยยา แล้วเข้าจึงถูกพาดพิงถึงมัน เขาเ(อบูญะอฺฟัรฺ อัรฺ-รอซีย์) เป็น(หนึ่งจาก)ผู้ที่มักจะรายงาน “ตามลำพัง” จากบรรดาผู้มีชื่อเสียง ด้วยหะดีษต่างๆที่มุงกัร, ฉันไม่ชอบอ้างหะดีษของเขาเป็นหลักฐาน ยกเว้นที่มันสอดคล้องกับสิ่งซึ่งผู้ที่เชื่อถือได้ (รายงานมา) เท่านั้น ,อาลี บิน ญะรีร ได้กล่าวว่า ฉันได้ยิน อะหมัด บิน หัมบัล กล่าวว่า อบูญะฟัร อัรรอซีย์ ตือผู้สับสนเกี่ยวกับการรายงานหะดิษ - ดู อัลอาบาฏีลวัลมะนากีร ฯ ของอัลฮะมะซานีย์ หน้า 58 กิตาบุลอีหม่าน และอัลมัจญรูฮีน ของ อิบนุหิบบาน 2/101
...............
จะเห็นได้ว่า ในหะดิษที่อ้างว่าท่านนบี ศ็อล ฯ อ่านกุนูตในละหมาดศุบฮิตลอดชีวิต เป็นหะดิษเฎาะอีฟ เพราะผู้รายงานชื่อ อบูญะฟัร อัรรอซีย์ หรืออีซา บิน มาฮาน นักวิชาการส่วนมาก ให้สถานะ ว่าเขาผู้นี้ เฎาะอีฟ
เพราะฉะนั้น การอ้างว่า มีผู้บอกว่า เศาะเฮียะก็มี มีผู้บอกว่าผู้รายงานคนนี้มีผู้เชื่อถือได้ด้วย แต่อย่าลืมว่า
นักวิชาการ -- ไม่ว่านักวิชาการหะดีษหรือนักวิชาการฟิกฮ์ -- ต่างเห็นพ้องกันในกฎเกณฑ์ที่ว่า
اَلْجَرْحُ الْمُفَسَّرُ مُقَدَّمٌ عَلَى التَّعْدِيْلِ
“การตำหนิที่ถูกอธิบายสาเหตุ จะต้องถูกยอมรับก่อนการให้ความเชื่อถือ” - ดู อัดดุร ฟิ มะสาอิลิลมุศเฏาะลาหฺวัลอะษัร หน้า 222 ของ นาศิรุดดีนอัลอัลบานีย์
อะสัน หมัดอะดั้ม
9/8/62

 à¹ƒà¸™à¸ à¸²à¸žà¸­à¸²à¸ˆà¸ˆà¸°à¸¡à¸µ ข้อความ

บรรดาเคาะลิฟะฮทั้งสี่ การอ่านกุนูตเป็นประจำในละหมาดศุบฮิจริงหรือ? ภาค 2


บรรดาเคาะลิฟะฮทั้งสี่ การอ่านกุนูตเป็นประจำในละหมาดศุบฮิจริงหรือ? ภาค 2
ตาชั่ง พิทักษ์ความยุติธรรม
رقم الحديث: 2853
(حديث موقوف) وَمِنْهَا مَا أَخْبَرَنَا وَمِنْهَا مَا أَخْبَرَنَا أَبُو سَعْدٍ الْمَالِينِيُّ ، أنبأ أَبُو أَحْمَدَ بْنُ عَدِيٍّ الْحَافِظُ ، ثنا الشَّافِعِيُّ ، ثنا بُنْدَارٌ ، ثنا يَحْيَى بْنُ سَعِيدٍ ، ثنا الْعَوَّامُ بْنُ حَمْزَةَ ، قَالَ سَأَلْتُ أَبَا عُثْمَانَ عَنِ الْقُنُوتِ فِي الصُّبْحِ ، قَالَ : بَعْدَ الرُّكُوعِ " ، قُلْتُ : عَمَّنْ ؟ قَالَ : عَنْ أَبِي بَكْرٍ ، وَعُمَرَ ، وَعُثْمَانَ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُمْ " ، هَذَا إِسْنَادٌ حَسَنٌ ، وَيَحْيَى بْنُ سَعِيدٍ ، لا يُحَدِّثُ إِلا عَنِ الثِّقَاتِ عِنْدَهُ .
ตาชั่ง พิทักษ์ความยุติธรรม 
นี้คือสายรายงานที่ฮาสัน.และยะหยาบุตรสาอีดเขาจะไม่เล่าฮาดิษเว้นแต่จากคนที่มีความน่าเชื่อถือเท่านั้นตามทรรศนะของเขา.
@@@@
ชี้แจง
หะดิษข้างต้น เป็นหะดิษเมากูฟ และไม่ไม่ส่วนใหนว่าหมายถึงการอ่านกุนูตเป็นประจำ ในละหมาดศุบฮิ แต่มีกาพยายามนำหะดิษนี้มาตบตา
วิจารณ์ดังนี้
وَعَنْ الْعَوَّامِ بْنِ حَمْزَةَ قَالَ" سَأَلْتُ أَبَا عُثْمَانَ عَنْ الْقُنُوتِ فِي الصُّبْحِ قَالَ:ا بَعْدَ الرُّكُوعِ قُلْتُ: عَمَّنْ ؟ قَالَ: عَنْ أَبِي بَكْرٍ وَعُمَرَ وَعُثْمَانَ رَضِيَ اللَّهُ تَعَالَى عَنْهُمْ
จากอัลอาวาม บิน หัมซะฮ เขากล่าวว่า ข้าพเจ้าได้ถามอบูอุษมาน เกี่ยวกับกุนูต ในละหมาดศุบฮิ เขากล่าวว่า หลังจากรุกัวะ ,ข้าพเจ้ากล่าวว่า "จากใครหรือ ? เขากล่าวว่า "จาก อบีบักร,อุมัร และอุษมาน (ร.ฎ)
.....
1.หะดิษข้างต้นสมมุตว่าเป็นหะดิษหะซัน ก็ไม่ได้หมายถึงกุนูตดุอา เป็นประจำ แต่เป็นกุนูตนาซิละฮ
เพราะเคาะลิฟะฮ ไม่ได้อ่านกุนูตเป็นประจำในละหมาดซุบฮิ
عَنْ أَبِي مَالِكٍ الْأَشْجَعِيِّ قَالَ قُلْتُ لِأَبِي يَا أَبَةِ إِنَّكَ قَدْ صَلَّيْتَ خَلْفَ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَأَبِي بَكْرٍ وَعُمَرَ وَعُثْمَانَ وَعَلِيِّ بْنِ أَبِي طَالِبٍ هَا هُنَا بِالْكُوفَةِ نَحْوًا مِنْ خَمْسِ سِنِينَ أَكَانُوا يَقْنُتُونَ قَالَ أَيْ بُنَيَّ مُحْدَثٌ
รายงานจากอบีมาลิก อัลอัชญะอีย์ กล่าวว่า “ฉันได้กล่าวแก่บิดาของฉันว่า “โอ้บิดาของฉัน ความจริงท่านเคยละหมาดตามหลังรซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ,อบีบักร์ ,อุมัร ,อุษมานและอาลี ทีเมืองกุฟะฮ ประมาณ 5 ปี พวกเขาอ่านดุอากุนูตไหม? เขา(บิดาของฉัน)กล่าวว่า “ โอ้ลูกเอ๋ย มันเป็นสิ่งที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นใหม่(บิดอะฮ) อบูอีซา กล่าวว่า “หะดิษนี้ หะซัน เศาะเฮียะ
2. อัลหาฟิซอิบนุหะญัร (ร.ฮ) ได้กล่าวถึงหะดิษที่รายงานจกอัลอาวาม บิน หัมซะฮ ข้างต้น และกล่าวว่า
وَيُعَارِضُ الْأَوَّلَ مَا رَوَى التِّرْمِذِيُّ وَالنَّسَائِيُّ وَابْنُ مَاجَهْ مِنْ حَدِيثِ أَبِي مَالِكِ الْأَشْجَعِيِّ ، عَنْ أَبِيهِ ، قَالَ : { صَلَّيْتُ خَلْفَ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ، وَأَبِي بَكْرٍ ، وَعُمَرَ ، وَعُثْمَانَ ، وَعَلِيٍّ فَلَمْ يَقْنُتْ أَحَدٌ مِنْهُمْ ، وَهُوَ بِدْعَةٌ }. إسْنَادُهُ حَسَنٌ .
และหะดิษแรก(หมายถึงหะดิษอัลอาวาม บิน ฮัมซะฮ ) ค้านกับหะดิษที่รายงานโดยอัตติรมิซีย์ ,อัลนะซาอีย์ และอิบนุมาญะฮ จากหะดิษอบีมาลิก อัลอัชญะอีย์ จากบิดดาของเขา เขากล่าวว่า "ข้าพเจ้าได้ละหมาดตามหลังท่านนบี ศ็อลฯ ,อบีบักร์,อุมัร,อุษมานและอาลีย์ แล้วไม่มีคนใดจากพวกเขา อ่านกุนูต และมันคือ บิดอะฮ ,สายรายงานของมัน หะซัน - ดูอัตตัลคีศ อัลหะบีร 3/443-444
3. สำหรับผู้รายงานชื่อ อัลอาวาม บิน ฮัมซะฮ นั้น
อัลอุก็อยลีย์ (ร.ฮ) กล่าวว่า
حَدَّثَنَا عَبْدُ اللَّهِ بْنُ أَحْمَدَ ، قَالَ : سَأَلْتُ أَبِي عَنِ الْعَوَّامِ بْنِ حَمْزَةَ ، فَقَالَ : لَهُ أَحَادِيثُ مَنَاكِيرُ ، رَوَى عَنْهُ يَحْيَى.
حَدَّثَنَا مُوسَى بْنُ إِسْحَاقَ ، حَدَّثَنَا أَبُو بَكْرِ بْنُ أَبِي شَيْبَةَ ، حَدَّثَنَا يَحْيَى بْنُ سَعِيدٍ الْقَطَّانُ ، عَنِ الْعَوَّامِ بْنِ حَمْزَةَ ، قَالَ : سَأَلْتُ أَبَا عُثْمَانَ عَنِ الْقُنُوتِ ، فَقَالَ : بَعْدَ الرُّكُوعِ.
فَقُلْتُ : عَنْ مَنْ ؟ فَقَالَ : عَنْ أَبِي بَكْرٍ ، وَعُمَرَ ، وَعُثْمَانَ
อับดุลลอฮ บิน อะหมัด ได้เล่าเรา เขากล่าวว่า ฉันได้ถามบิดาของฉันเกี่ยวกับ อัลอะวาม บิน ฮัมซะฮ แล้วเขา(อิหม่ามอะหมัดผู้เป็นบิดา) กล่าวว่า เขามีบรรดาหะดิษมุงกัร ยะหยา(บิน สะอิด)ได้รายงานจากเขา
....
แล้วอัลอุกัยลีได้ระบุหะดิษของ อาวาม บิน ฮัมซะฮ
حَدَّثَنَا مُوسَى بْنُ إِسْحَاقَ ، حَدَّثَنَا أَبُو بَكْرِ بْنُ أَبِي شَيْبَةَ ، حَدَّثَنَا يَحْيَى بْنُ سَعِيدٍ الْقَطَّانُ ، عَنِ الْعَوَّامِ بْنِ حَمْزَةَ ، قَالَ : سَأَلْتُ أَبَا عُثْمَانَ عَنِ الْقُنُوتِ ، فَقَالَ : بَعْدَ الرُّكُوعِ.فَقُلْتُ : عَنْ مَنْ ؟ فَقَالَ : عَنْ أَبِي بَكْرٍ ، وَعُمَرَ ، وَعُثْمَانَ
-ดู กิตาบอัฎฎุอะฟาอฺอัลกะบีร ของอัลอุกัยลีย์ 3/143
..............
จงไม่มีหะดิษที่เศาะเฮียะชัดเจน ระบุว่า ท่านนบี ศ็อลฯและบรรดาเคาะลิฟะฮ อ่านกุนูตดุอาเป็นประจำในละหมาดศุบฮิ ตลอดชีวิต อย่างที่บางคนพยายามหยิบนั้นหยิบนี้มาอ้างแบบข้างคูๆ ส่วนที่อ้างว่า มีคนบอกว่าเศาะเฮียะบ้าง ผู้รายงานเชื่อถือได้บ้าง แต่มันก็ไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้ภายใต้กฏที่ว่า
إذا إجتمع فى راو واحد الجرح والتعديل فالمعتمد انه يقدم الجرح على التعديل اذا كان مفسرا
"เมื่อการชมเชยและการตำหนิได้รวมอยู่ในนักรายงานคนเดียวกัน ดังนั้น ทัศนะที่ถูกยึดถือ ก็คือ ให้เอาการตำหนิ(นำมาพิจารณา)ก่อนการชมเชย เมื่อการตำหนินั้นถูกชี้แจงอธิบาย" -ดูตัยสีร มุศเฏาะละหอัลหะดิษ ของ ดร.มะหมูดอัฏเฏาะฮาน หน้า 113

อะสัน หมัดอะดั้ม
9/8/63