มลาอิกะฮไม่รู้ว่าอัลลอฮอยู ่ใหนจริงหรือ
ในหนังสือ หลักอะกีดะฮ์แนวทางสะลัฟระห ว่างอัลอะชาอิเราะฮ์กับวะฮฺ ฮาบียะฮ์ หน้า ๑๖๖-๑๖๗
ผู้เขียนอ้างว่า
...
รายงานจากท่านอบูฮุรอยเราะฮ ์(ร.ฏ.) ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ (ซ.ล.) กล่าวว่า
أُذِنَ لِىْ أَنْ أُحَدِّثَ عَنْ مَلَكٍ قَدْ مَرَقَتْ رِجْلاَهُ فِى الأَرْضِ السَّابِعَةِ ، وَالْعَرْشُ عَلىَ مَنْكِبِهِ ، وَهُوَ يَقُوْلُ سَبْحَانَكَ أَيْنَ كُنْتَ وَأَيْنَ تَكُوْنُ
"ฉันได้รับอนุญาตให้เล่าจาก เรื่องมะลาอิกะฮ์ท่านหนึ่ง ซึ่งทั้งสองเท้าของเขาผ่านเ ข้ามาในแผ่นดินชั้นที่เจ็ด โดยที่อารัช(บัลลังก์)อยู่บ นบ่าของเขา และมะลาอิกะฮ์(ผู้แบกบัลลัง ก์)ก็กล่าวว่า มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์ท่าน พระองค์ท่านทรงอยู่ใหนและพร ะองค์กำลังอยู่ใหน
และอาจารย์อารีฟีน แสงวิมานสรุปว่า
ในหะดิษบทนี้ยันยันว่า มลาอิกะฮนั้นได้ยืนยันความบ ริสุทธิ์ของอัลลอฮจากสถานที ่และทิศและไม่รู้ว่าพระองค์ อยู่ใหน
@@@@@@@@@@@@@@@@@@2
ชี้แจง
การสรุปของเจ้าของหนังสือ ข้างต้นที่บอกว่า มลาอิกะฮนั้นได้ยืนยันความบ ริสุทธิ์ของอัลลอฮจากสถานที ่และทิศและไม่รู้ว่าพระองค์ อยู่ใหน”
เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ดังหลักฐานที่แสดงว่าการอ้า งข้างต้นเป็นการอ้างที่เป็น โมฆะดังนี้
หะดิษข้างต้นไม่ได้ปฏิเสธกา รอยู่ทิศเบื้องสูงของอัลลอฮ และไม่ได้ปฏิเสธว่ามลาอิกะฮ ทั้งหมด ซึ่งมีจำนวนมากมาย ไม่รู้ว่าอัลลอฮอยูใหน ตามที่ท่านอาจารย์อารีฟีนอ้ าง เพราะอัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า
تَعْرُجُ الْمَلَائِكَةُ وَالرُّوحُ إِلَيْهِ فِي يَوْمٍ كَانَ مِقْدَارُهُ خَمْسِينَ أَلْفَ سَنَةٍ
[70.4] มลาอิกะฮ์และอัรรูหฺ (ญิบรีล) จะขึ้นไปหาพระองค์ในวันหนึ่ งซึ่งกำหนดของมันเท่ากับห้า หมื่นปี (ของโลกดุนยานี้)
………….
ถ้าบรรดามลาอิกะฮไม่รู้ว่าอ ัลลอฮอยู่ใหน บรรดามลาอิกะฮและญิบรีล ขึ้นไปทำไม อีกทั้งอัลลอฮทรงยืนยันว่า บรรดามลาอิกะฮและญิบรีลขึ้น ไปยังพระองค์
อิหม่ามอัลบัฆวีย์ อธิบายว่
า
( وَالرُّوحُ) يعني جبريل عليه السلام ( إِلَيْهِ) أي إلى الله عز وجل
และอัรรูห์ หมายถึง ญิบรีล อะลัยฮิสสลาม ( ไปยังพระองค์) หมายถึง ไปยังอัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่งและทรงเลิศยิ่ง - ดู ตัฟสีรอัลบัฆวีย์ อรรถาธิบายซูเราะฮ อัลมะอาริจญ อายะฮที่ 70
อิบนุญะรีร (ขออัลอฮเมตตาต่อท่าน)อธิบา ยว่า
تَصْعَد الْمَلَائِكَة وَالرُّوح , وَهُوَ جِبْرِيل عَلَيْهِ السَّلَام إِلَيْهِ , يَعْنِي إِلَى اللَّه جَلَّ وَعَزَّ ; وَالْهَاء فِي قَوْله { إِلَيْهِ } عَائِدَة عَلَى اسْم اللَّه
มลาอิกะฮและอัรรูหฺ ขึ้นไป และเขาคือ ญิบรีล อะลัยฮิสสลาม ยังพระองค์ หมายถึง ไปยังอัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่ง ทรงเลิศยิ่ง และ อักษรฮา ในคำตรัสที่ว่า(อิลัยฮิ) กลับไปยังพระนามของอัลลอฮ (หมายถึงเป็นสรรพนามแทนชื่อ อัลลอฮ) – ดู – ตัฟสีรอัฏฏอ็บรีย์ อรรถาธิบาย ซูเราะฮอัลมะอาริจญ์ อายะฮที่ 4
……………
ข้างต้น ยืนยันชัดเจนว่า บรรดามลาอิกะฮและ ญิบรีลรู้ว่าอัลลอฮ อยู่ใหน เพราะพวกเขาขึ้นไปยังอัลลอฮ ……
عن أبي هريرة رضي الله عنه أن رسول الله صلى الله عليه وسلم قال " يتعاقبون فيكم ملائكة بالليل وملائكة بالنهار ويجتمعون في صلاة الفجر وصلاة العصر،ثم يعرج الذين باتوا فيكم فيسألهم ربهم وهو أعلم بهم كيف تركتم عبادي؟ فيقولون تركناهم وهم يصلون ، وأتيناهم وهم يصلون".
รายงานจากอบีฮุรัยเราะฮ เราะฎิยัลลอฮุอันฮู ว่า รซูลุลลอฮ ศอ็ลฯ กล่าวว่า บรรดามลาอิกะฮที่เฝ้าคอยติด ตามพวกท่าน ในตอนกลางคืน และมลาอิกะฮที่(เฝ้าคอยติดต ามพวกท่าน)ในตอนกลางวัน และพวกเขาจะมาชุมนุมกันในเว ลาละหมาดศุบฮิและอัศริ หลังจากนั้น บรรดา(มลาอิกะฮ)ผู้ที่พักแร มในหมู่พวกท่าน ได้ขึ้นไป แล้วพระผู้อภิบาลของพวกเขาไ ด้ทรงถามพวกเขา ทั้งๆที่พระองค์ทรงรู้ยิ่งเ กี่ยวกับพวกเขา ว่า " พวกเจ้าได้ทิ้งบ่าวของข้ามา มีสภาพเป็นอย่างไร? แล้วพวกเขา(บรรดามลาอิกะฮ)ก ล่าวว่า "พวกข้าพระองค์ได้ทิ้งพวกเข ามา โดยที่พวกเขากำลังละหมาด? และพวกข้าพระองค์ได้ไปยังพว กเขา โดยที่พวกเขากำลังละหมาด" - รายงานโดย บุคอรีและมุสลิม
........
العروج الصعود من أسفل إلى أعلى
อัลอุรูจญ์ คือ ขึ้นจากที่ต่ำไปยังที่สูง
จะเห็นได้ว่า บรรดามลาอิกะฮที่ทำหน้าที่เ ฝ้าติดตามบ่าวของอัลลอฮ พวกเขาขึ้นไปยังเบื้องสูง แล้วเมื่อเขาไม่รู้ว่าอัลลอ ฮอยู่ที่ใหน ตามที่อัลอัซฮารีอ้าง จึงขอถามว่า"แล้ว พวกเขาขึ้นไปทำไมหรือ ? แน่นอนพวกเขาย่อมรู้ดีว่าพร ะองค์อยู่ใหน พวกเขาจึงขึ้นไป
สำหรับหะดิษที่เจ้าของหนังสืออ้างคือ
أُذِنَ لِىْ أَنْ أُحَدِّثَ عَنْ مَلَكٍ قَدْ مَرَقَتْ رِجْلاَهُ فِى الأَرْضِ السَّابِعَةِ ، وَالْعَرْشُ عَلىَ مَنْكِبِهِ ، وَهُوَ يَقُوْلُ سَبْحَانَكَ أَيْنَ كُنْتَ وَأَيْنَ تَكُوْنُ
"ฉันได้รับอนุญาตให้เล่าจาก เรื่องมะลาอิกะฮ์ท่านหนึ่ง ซึ่งทั้งสองเท้าของเขาผ่านเ ข้ามาในแผ่นดินชั้นที่ 7 โดยที่อารัช(บัลลังก์)อยู่บ นบ่าของเขา และมะลาอิกะฮ์(ผู้แบกบัลลัง ก์)ก็กล่าวว่า มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์ท่าน พระองค์ท่านทรงอยู่ใหนและพร ะองค์กำลังอยู่ใหน
-ข้างต้นเป็นหะดิษเฎาะอีฟ มีการสับเปลี่ยน ระหว่างคำว่า มะลัก(ملك ) กับคำว่า ดีก (ديك )คือ รายงานจากอบีฮุรัยเราะฮ ที่มีสายรายงานเดียวกันกับห ะดิษข้างต้น โดยมีสำนวนว่า
إِنَّ الَلّهَ أُذُنٌ لِيَ أَنْ أُحَدِّثَ عَنْ دِيْكٍ رِجْلَاهُ فِيْ الْأَرْضِ وَعُنُقِهِ مَثْنِيَّةً تَحْتَ الْعَرْشِ وَهُوَ يَقُوْلُ سُبْحَانَكَ مَا أَعْظَمَ رَبَّنَا
แท้จริง "ฉันได้รับอนุญาตให้เล่าเกี ่ยวกับเรื่องไก่ตัวผู้ ที่สองตีนของมันเขี่ยดิน และคอของมัน โค้งคำนับ อยู่ใต้อะรัช โดยที่มันกล่าวว่า “มหาบริสุทธิ์พระองค์ท่าน พระผู้อภิบาลของเรา ช่างยิ่งใหญ่ยิ่งนัก....
ชัยคฺ อบูอิสหาก อัลหุวัยนีย์ กล่าวว่า
" لَعَلَّ بَعْضَ الْرُّوَاةِ أَبْدَلَ لَفْظَةَ " دِيَكْ " بِـ " ملْكُ " أَوْ الْعَكْسِ . وَالْلَّهُ أَعْلَمُ " .
ทางที่บรรดาผู้รายงานบางส่ว น เปลี่ยนถ้อยคำ “ดีก” ด้วยคำว่า มะลัก หรือในทางกลับกัน วัลลอฮุอะอลัม – ตัมบีฮุลฮาญิด ๔/ ๒๘ และดูการวิจารณ์เพิ่มเติมจาก อัลอิลัล ของอิหม่ามอัดดารุลกุฏนีย ๘/๑๕๖ และตะฮซีบ อัตตะฮซีบ ของอิบนุหะญัร ๑/๑๓๑
ส่วนหะดิษที่เศาะเฮียะระบุด ังนี้
จากญาบิรฺ บิน อับดุลลอฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ท่านได้กล่าวว่า :
أذن لي أن أحدث عن ملك من ملائكة الله من حملة العرش، إن ما بين شحمة أذنه إلى عاتقه مسيرة سبعمائة عام
;ความว่า “ฉันได้รับอนุญาตให้กล่าวถึ งมลาอิกะฮฺท่านหนึ่งจากจำนว นบรรดามลาอิกะฮฺที่ทำหน้าที ่แบกและค้ำบัลลังก์ของอัลลอ ฮฺ แท้จริงมลาอิกะฮฺ(ท่านนี้)ร ะยะระหว่างติ่งหูจนถึงหัวไห ล่ของท่านมี(ความห่างเป็น)ร ะยะเวลา(การเดินทาง) 700 ปี” (รายงานโดยอบู ดาวูด : 3727, เป็นหะดีษ เศาะฮีหฺ ดูใน เศาะฮีหฺ สุนัน อบี ดาวูด : 3953 และรวมหะดีษเศาะฮีหฺของอัล- อัลบานีย์ : 151)
............
ขอยกตัวอย่างอีกสักหนึ่งหลั กฐานที่บ่งบอกว่า สิ่งที่ท่านอาจารย์ผู้เขียนหนังสือโจมตีวะฮบีย์อ้างว่า มลาอิกะฮไม่รู้ว่าอัลลอฮ อยู่ใหนนั้น เป็นการการอ้างที่ไม่ตรงกับ ความจริง อาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือเป็นการบิดเบือน อัลลอฮย่อมรู้ยิ่งในเจตนาขอ งคน
ขอยืนยันว่า มลาอิกะฮรู้ว่า อัลลอฮอยู่ที่ใหน (ขอยืนยันสักล้านครั้ง)
เพราะว่า หะดิษเมียะรอจญ ที่ท่านนบี ศอ็ลฯ ได้ขึ้นไปรับบทบัญญัติละหมา ด ๕ เวลาจากอัลลอฮ ซึ่งปราชญ์ยุคสลัฟยืนยันดัง นี้คือ
อิหม่ามอิบนุคุซัยมะฮ (ฮ.ศ 223-311)
وَفِي الأَخْبَارِ دَلالَةٌ وَاضِحَةٌ أَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ عُرِجَ بِهِ مِنَ الدُّنْيَا إِلَى السَّمَاءِ السَّابِعَةِ ، وَأَنَّ اللَّهَ تَعَالَى فَرَضَ عَلَيْهِ الصَّلَوَاتِ عَلَى مَا جَاءَ فِي الأَخْبَارِ ، فَتِلْكَ الأَخْبَارُ كُلُّهَا دَالَّةٌ عَلَى أَنَّ الْخَالِقَ الْبَارِئَ فَوْقَ سَبْعِ سَمَاوَاتِهِ
ในบรรดาการบอกเล่า(หมายถึงห ะดิษอัลเมียะรอจญ) คือหลักฐาน แสดงว่า แท้จริงนบี ศอ็ลฯ ถูกนำขึ้น จากดุนยา สู่ชั้นฟ้าที่เจ็ด และอัลลอฮ ตาอาลา ได้กำหนดละหมาดห้าเวลา ให้เป็นข้อบังคับ บนสิ่งที่มีมาในบรรดาคำบอกเ ล่า(หมายถึงหะดิษเมียะรอจญ์ ) และ บรรดาคำบอกเล่า(หะดิษ) ทั้งหมด แสดงบอกว่า พระเจ้าผู้ทรงสร้างสรรค์ ผู้ทรงให้บังเกิด อยู่เหนือเจ็ดชั้นฟ้าของพระ องค์ - กิตาบุตเตาฮีด หน้า 119
อิบนุคุซัยมะฮ ปราชญยุคสะลัฟ ยืนยันว่า หะดิษเมียะรอจญเป็นหลักฐานว ่าอัลลอฮอยู่เหนือเจ็ดชั้นฟ ้า
والله أعلم بالصواب
ปล.ยังมีหลักฐานอีกมากมายที ่บ่งบอกการอยู่เบื้องสูงเหน ืออะรัชของอัลลอฮ แต่ที่เสนอมาข้างต้นมันพอเพ ียงแล้วสำหรับคนที่แสวงหาสั จธรรมด้วยความอิคลาศเพื่ออั ลลอฮ
ในหนังสือ หลักอะกีดะฮ์แนวทางสะลัฟระห
ผู้เขียนอ้างว่า
...
รายงานจากท่านอบูฮุรอยเราะฮ
أُذِنَ لِىْ أَنْ أُحَدِّثَ عَنْ مَلَكٍ قَدْ مَرَقَتْ رِجْلاَهُ فِى الأَرْضِ السَّابِعَةِ ، وَالْعَرْشُ عَلىَ مَنْكِبِهِ ، وَهُوَ يَقُوْلُ سَبْحَانَكَ أَيْنَ كُنْتَ وَأَيْنَ تَكُوْنُ
"ฉันได้รับอนุญาตให้เล่าจาก
และอาจารย์อารีฟีน แสงวิมานสรุปว่า
ในหะดิษบทนี้ยันยันว่า มลาอิกะฮนั้นได้ยืนยันความบ
@@@@@@@@@@@@@@@@@@2
ชี้แจง
การสรุปของเจ้าของหนังสือ ข้างต้นที่บอกว่า มลาอิกะฮนั้นได้ยืนยันความบ
เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง
หะดิษข้างต้นไม่ได้ปฏิเสธกา
تَعْرُجُ الْمَلَائِكَةُ وَالرُّوحُ إِلَيْهِ فِي يَوْمٍ كَانَ مِقْدَارُهُ خَمْسِينَ أَلْفَ سَنَةٍ
[70.4] มลาอิกะฮ์และอัรรูหฺ (ญิบรีล) จะขึ้นไปหาพระองค์ในวันหนึ่
………….
ถ้าบรรดามลาอิกะฮไม่รู้ว่าอ
อิหม่ามอัลบัฆวีย์ อธิบายว่
า
( وَالرُّوحُ) يعني جبريل عليه السلام ( إِلَيْهِ) أي إلى الله عز وجل
และอัรรูห์ หมายถึง ญิบรีล อะลัยฮิสสลาม ( ไปยังพระองค์) หมายถึง ไปยังอัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่งและทรงเลิศยิ่ง
อิบนุญะรีร (ขออัลอฮเมตตาต่อท่าน)อธิบา
تَصْعَد الْمَلَائِكَة وَالرُّوح , وَهُوَ جِبْرِيل عَلَيْهِ السَّلَام إِلَيْهِ , يَعْنِي إِلَى اللَّه جَلَّ وَعَزَّ ; وَالْهَاء فِي قَوْله { إِلَيْهِ } عَائِدَة عَلَى اسْم اللَّه
มลาอิกะฮและอัรรูหฺ ขึ้นไป และเขาคือ ญิบรีล อะลัยฮิสสลาม ยังพระองค์ หมายถึง ไปยังอัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่ง ทรงเลิศยิ่ง และ อักษรฮา ในคำตรัสที่ว่า(อิลัยฮิ) กลับไปยังพระนามของอัลลอฮ (หมายถึงเป็นสรรพนามแทนชื่อ
……………
ข้างต้น ยืนยันชัดเจนว่า บรรดามลาอิกะฮและ ญิบรีลรู้ว่าอัลลอฮ อยู่ใหน เพราะพวกเขาขึ้นไปยังอัลลอฮ
عن أبي هريرة رضي الله عنه أن رسول الله صلى الله عليه وسلم قال " يتعاقبون فيكم ملائكة بالليل وملائكة بالنهار ويجتمعون في صلاة الفجر وصلاة العصر،ثم يعرج الذين باتوا فيكم فيسألهم ربهم وهو أعلم بهم كيف تركتم عبادي؟ فيقولون تركناهم وهم يصلون ، وأتيناهم وهم يصلون".
รายงานจากอบีฮุรัยเราะฮ เราะฎิยัลลอฮุอันฮู ว่า รซูลุลลอฮ ศอ็ลฯ กล่าวว่า บรรดามลาอิกะฮที่เฝ้าคอยติด
........
العروج الصعود من أسفل إلى أعلى
อัลอุรูจญ์ คือ ขึ้นจากที่ต่ำไปยังที่สูง
จะเห็นได้ว่า บรรดามลาอิกะฮที่ทำหน้าที่เ
สำหรับหะดิษที่เจ้าของหนังสืออ้างคือ
أُذِنَ لِىْ أَنْ أُحَدِّثَ عَنْ مَلَكٍ قَدْ مَرَقَتْ رِجْلاَهُ فِى الأَرْضِ السَّابِعَةِ ، وَالْعَرْشُ عَلىَ مَنْكِبِهِ ، وَهُوَ يَقُوْلُ سَبْحَانَكَ أَيْنَ كُنْتَ وَأَيْنَ تَكُوْنُ
"ฉันได้รับอนุญาตให้เล่าจาก
-ข้างต้นเป็นหะดิษเฎาะอีฟ มีการสับเปลี่ยน ระหว่างคำว่า มะลัก(ملك ) กับคำว่า ดีก (ديك )คือ รายงานจากอบีฮุรัยเราะฮ ที่มีสายรายงานเดียวกันกับห
إِنَّ الَلّهَ أُذُنٌ لِيَ أَنْ أُحَدِّثَ عَنْ دِيْكٍ رِجْلَاهُ فِيْ الْأَرْضِ وَعُنُقِهِ مَثْنِيَّةً تَحْتَ الْعَرْشِ وَهُوَ يَقُوْلُ سُبْحَانَكَ مَا أَعْظَمَ رَبَّنَا
แท้จริง "ฉันได้รับอนุญาตให้เล่าเกี
ชัยคฺ อบูอิสหาก อัลหุวัยนีย์ กล่าวว่า
" لَعَلَّ بَعْضَ الْرُّوَاةِ أَبْدَلَ لَفْظَةَ " دِيَكْ " بِـ " ملْكُ " أَوْ الْعَكْسِ . وَالْلَّهُ أَعْلَمُ " .
ทางที่บรรดาผู้รายงานบางส่ว
ส่วนหะดิษที่เศาะเฮียะระบุด
จากญาบิรฺ บิน อับดุลลอฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ท่านได้กล่าวว่า :
أذن لي أن أحدث عن ملك من ملائكة الله من حملة العرش، إن ما بين شحمة أذنه إلى عاتقه مسيرة سبعمائة عام
;ความว่า “ฉันได้รับอนุญาตให้กล่าวถึ
............
ขอยกตัวอย่างอีกสักหนึ่งหลั
ขอยืนยันว่า มลาอิกะฮรู้ว่า อัลลอฮอยู่ที่ใหน (ขอยืนยันสักล้านครั้ง)
เพราะว่า หะดิษเมียะรอจญ ที่ท่านนบี ศอ็ลฯ ได้ขึ้นไปรับบทบัญญัติละหมา
อิหม่ามอิบนุคุซัยมะฮ (ฮ.ศ 223-311)
وَفِي الأَخْبَارِ دَلالَةٌ وَاضِحَةٌ أَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ عُرِجَ بِهِ مِنَ الدُّنْيَا إِلَى السَّمَاءِ السَّابِعَةِ ، وَأَنَّ اللَّهَ تَعَالَى فَرَضَ عَلَيْهِ الصَّلَوَاتِ عَلَى مَا جَاءَ فِي الأَخْبَارِ ، فَتِلْكَ الأَخْبَارُ كُلُّهَا دَالَّةٌ عَلَى أَنَّ الْخَالِقَ الْبَارِئَ فَوْقَ سَبْعِ سَمَاوَاتِهِ
ในบรรดาการบอกเล่า(หมายถึงห
อิบนุคุซัยมะฮ ปราชญยุคสะลัฟ ยืนยันว่า หะดิษเมียะรอจญเป็นหลักฐานว
والله أعلم بالصواب
ปล.ยังมีหลักฐานอีกมากมายที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น