
กล่าวหาว่าการเรียกร้องให้ยึดอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮคือ วาทกรรมล่อคนอาวามให้ตามวะฮบีย์
แนวทาง อุลามาอฺ อะหฺลุซซุนนะห์
15 กุมภาพันธ์
พวกคณาจารวะฮาบีหลายคนบอกว่า
ที่อุมมัตแตกแยก ก็เพราะไม่ตามกุรอ่านหะดิส
ไม่เอากุรอ่านหะดิสมาใช้
ถ้ากลับไปสู่กุรอ่านหะดิสทุกๆคน มันก้ไม่แตกแยก
วาทกรรมนี้ เปนหนึ่งในวาทกรรมล่อคนเอาวาม
ที่จริงมันแค่ให้เราตามมันเท่านั้น อย่าได้ติดกับดักนี้เลย
มันแค่ล่อให้เราสนใจมัน เรียนกับมัน ฟังพวกมัน สุดท้ายตามพวกมันในที่สุด
15 กุมภาพันธ์
พวกคณาจารวะฮาบีหลายคนบอกว่า
ที่อุมมัตแตกแยก ก็เพราะไม่ตามกุรอ่านหะดิส
ไม่เอากุรอ่านหะดิสมาใช้
ถ้ากลับไปสู่กุรอ่านหะดิสทุกๆคน มันก้ไม่แตกแยก
วาทกรรมนี้ เปนหนึ่งในวาทกรรมล่อคนเอาวาม
ที่จริงมันแค่ให้เราตามมันเท่านั้น อย่าได้ติดกับดักนี้เลย
มันแค่ล่อให้เราสนใจมัน เรียนกับมัน ฟังพวกมัน สุดท้ายตามพวกมันในที่สุด
ที่จริงสี่มัสหับนั้น เป็นที่รู้ที่ทราบกันดี ว่าตามกุรอ่านหะดิสทั้งหมด
และก้อได้สอนเพื่อให้คนทำอามั้ล แต่ทั้งหมดจะไม่พูดแบบนั้น
เพราะว่ามันทำให้มัสหับอื่นลดความน่าเชื่อถือ
( นี่คืออาดาบและความตาวัดเดาะของปวงปราชน์ , มาชาอัลลอฮ)
และก้อได้สอนเพื่อให้คนทำอามั้ล แต่ทั้งหมดจะไม่พูดแบบนั้น
เพราะว่ามันทำให้มัสหับอื่นลดความน่าเชื่อถือ
( นี่คืออาดาบและความตาวัดเดาะของปวงปราชน์ , มาชาอัลลอฮ)
@@@@
ข้างต้นคือวาทกรรมที่อุปโลกน์ขึ้นมา เพื่อโฆษณาชวนเชื่อ อย่าให้คนอาวาม พบกับแสงสว่าง เพราะคนกลุ่มนี้ ต้องการให้คนอาวามตกอยู่ในความมืดเพื่อพวกเขาจะได้หลอกกินบุญ ต่อไป
ไม่รู้ว่า เจ้าของเชื่อเพจ "แนวทาง อุลามาอฺ อะหฺลุซซุนนะห์" ละอายแก่ใจบ้างหรือไม่ ที่ตั้งชื่อเพจตัวเองว่า "แนวทาง อุลามาอฺ อะหฺลุซซุนนะห์ " แต่พฤติกรรมสนับสนุนบิดอะฮ ต่อต้านการเรียกร็องสู่กิตาบุลลอฮและสุนนะฮนบี เจ้าของเพจนี้กล่าวว่า
" ถ้ากลับไปสู่กุรอ่านหะดิสทุกๆคน มันก้ไม่แตกแยก
วาทกรรมนี้ เปนหนึ่งในวาทกรรมล่อคนเอาวาม"
วาทกรรมนี้ เปนหนึ่งในวาทกรรมล่อคนเอาวาม"
....
คำพูดข้างต้น อ้างว่า คนที่พูดว่า "ถ้ากลับไปสู่อัลกุรอ่านและหะดิษ ทุกคนจะไม่แตกแยก " คือ วาทกรรมลอคนอาวามให้มาติดกับวะฮบีย์" ..นะอูซุบิลละฮ คนกลุ่มนี้เรียนศาสนาอะไรมา ทั้งที่อัลลอฮตาอาลา สอนว่า
คำพูดข้างต้น อ้างว่า คนที่พูดว่า "ถ้ากลับไปสู่อัลกุรอ่านและหะดิษ ทุกคนจะไม่แตกแยก " คือ วาทกรรมลอคนอาวามให้มาติดกับวะฮบีย์" ..นะอูซุบิลละฮ คนกลุ่มนี้เรียนศาสนาอะไรมา ทั้งที่อัลลอฮตาอาลา สอนว่า
وَاعْتَصِمُوا بِحَبْلِ اللَّهِ جَمِيعاً وَلا تَفَرَّقُوا
ความว่า “และพวกเจ้าจงยึดสายเชือกของอัลลอฮฺในทุกๆส่วนทั้งหมด และจงอย่าแตกแยกกัน-อาลิอิมรอน/103
อิบนุมัสอูด (ร.ฎ) และนักวิชาการส่วนหนึ่ง กล่าวว่า "สายเชือกแห่งอัลลอฮ หมายถึงอัลกุรอ่าน - ดู อัตตัสฮีล ลิตะวีลิตตันซีล -ซูเราะฮอาลิอิมรอน หน้า 241 และตัฟสีรบะหรุลมุหีฏ 3/20
ในขณะเดียวกัน ท่านนบี ศอ็ลฯ สอนไว้ว่า ในสภาพสังคมที่ขัดแย้งกันมากมายนั้น ให้ยึดอัสสุนนะฮของท่านและบรรดาเคาะลิฟะฮ
عَنِ الْعِرْبَاضِ بْنِ سَارِيَةَ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ قَالَ : وَعَظَنَا رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ مَوْعِظَةً ، وَجَلَتْ مِنْهَا الْقُلُوبُ ، وَذَرَفَتْ مِنْهَا الْعُيُونُ ، فَقُلْنَا : يَا رَسُولَ اللَّهِ ، كَأَنَّهَا مَوْعِظَةُ مُوَدِّعٍ ، فَأَوْصِنَا ، قَالَ : أُوصِيكُمْ بِتَقْوَى اللَّهِ ، وَالسَّمْعِ وَالطَّاعَةِ ، وَإِنْ تَأَمَّرَ عَلَيْكُمْ عَبْدٌ ، فَإِنَّهُ مَنْ يَعِشْ مِنْكُمْ بَعْدِي فَسَيَرَى اخْتِلَافًا كَثِيرًا ، فَعَلَيْكُمْ بِسُنَّتِي وَسُنَّةِ الْخُلَفَاءِ الرَّاشِدِينَ ، عَضُّوا عَلَيْهَا بِالنَّوَاجِذِ ، وَإِيَّاكُمْ وَمُحْدَثَاتِ الْأُمُورِ ، فَإِنَّ كُلَّ بِدْعَةٍ ضَلَالَةٌ رَوَاهُ أَبُو دَاوُدَ وَالتِّرْمِذِيُّ ، وَقَالَ حَدِيثٌ حَسَنٌ صَحِيحٌ
: “จากอัลอิรบาฏ บินสารียะฮฺ เล่าว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ให้ข้อตักเตือนแก่พวกเรา ด้วยข้อเตือนที่กินใจที่ทำให้หัวใจสะท้าน และทำให้น้ำตาคลอ พวกเราได้กล่าวว่าโอ้รซูลุลลอฮ "มันเปรียบเสมือนข้อตักเตือนอำลา ฉะนั้นได้โปรดสั่งเสียแก่พวกเราเถิด ท่านกล่าวว่า ฉันขอสั่งเสียพวกท่านให้ยำเกรงต่ออัลลอฮฺ พร้อมทั้งรับฟังและเชื่อฟัง แม้ว่าผู้สั่งใช้พวกท่านจะเป็นบ่าว(ทาส)ก็ตาม เพราะผู้ใดในหมู่พวกท่านที่มีชีวิตอยู่ต่อจากนี้ เขาจะได้เห็นการขัดแย้งอย่างมากมาย ดังนั้นพวกเจ้าทั้งหลายจงยึดมั่นในสุนนะฮฺของฉัน และสุนนะฮฺของบรรดาคอลีฟะฮฺที่ปราดเปรื่องและได้รับทางนำ พวกท่านจงยึดมันด้วยฟันกราม และพวกเจ้าจงระวังสิ่งที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นใหม่(ในศาสนา )เพราะว่าทุกๆบิดอะฮฺนั้นคือความหลงผิด”( รายงานโดย อบูดาวุด และ อัต-ติรมีซีย์) เขากล่าวว่า หะดิษหะซัน เศาะเฮียะ
...........
ปิดตากล่าวหา โฆษณาชวนเชื่อ ใสร้ายป้ายสีและทำลายคนที่เขาอุปโลกน์ให้เป็นวะฮบีย์ งานนี้คนกลุ่มนี้ เขาถนัดนัก และพี่น้องจะพบการโฆษณาชวนเชื่อในรูปแบบนี้จะคงอยู่ต่อไป ตราบใดที่มีคนกลุ่มหนึ่ง อนุรักษ์ ความเชื่อ พิธีกรรมที่ได้มาซึ่งผลประโยชน์จากคนอาวามที่ไม่มีความรู้
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
16/11/60
อะสัน หมัดอะดั้ม
16/11/60


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น