วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

การนาศิหัตระหว่างละหมาดตะรอเวียะ

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป


การนาศิหัตระหว่างละหมาดตะรอเวียะ
เราจะพบว่ามีมัสยิดหลายแห่งที่อ้างว่า เป็นมัสยิดชาวสุนนะฮ ที่จัดกิจกรรมอบรมระหว่างสองสะล่าม ละหมาดตารอเวียะ คือ เมื่อจบ 4 รอ็กอัต ก็มีการนะศีหัต ทำกันเป็นประจำคล้ายๆกับว่า เป็นสุนนะฮ ในขณะที่ พอคนอื่นอ่านเศาะลาวาตนบี เมื่อจบ 4 ร็อกอัต ก็ว่าเป็นบิดบิดอะฮ เข้าทำนองว่าแต่เขา แต่อิเหนาเป็นเอง
ชัยค์อัลบานีย์ (ร.ฮ) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า
قيام رمضان شُرع فقط لزيادة التقرب إلى الله عز وجل بصلاة القيام , ولذلك فلا نرى نحن أن نجعل صلاة التراويح يخالطها شيء من العلم والتعليم ونحو ذلك , وإنما ينبغي أن تكون صلاة القيام محض العبادة , أما العلم فله زمن , لا يحدد بزمن , وإنما يراعي فيه مصلحة المتعلمين , وهذا هو الأصل وأريد من هذا أن من إتخذ عادة أن يعلم الناس ما بين كل أربع ركعات مثلا في صلاة القيام , إتخذ ذلك عادة , فتلك محدثة مخالفة للسنة
กิยามเราะมะฏอน ถูกบัญญัติขึ้นมาเพื่อเพิ่มความใกล้ชิด ต่ออัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่ง และทรงเลิศยิ่ง ด้วยการละหมาดกิยามเราะมะฎอนเท่านั้น และเพราะเหตุดังกล่าวนั้น เราเองไม่เห็นด้วยที่เราจะนำสิ่งใดๆจากวิชาความรู้ ,การสอนและในทำนองนั้น มาปะปนกับละหมาดตะรอเวียะ และความจริง ควรจะให้การละหมาดกิยามเราะมะฏอนนั้น เป็นอิบาดะฮเพียวๆ(ไม่ปะปนกับสิ่งอื่น) และสำหรับวิชาความรู้นั้น มีเวลาสำหรับมัน มันจะไม่ถูกจำกัดด้วยเวลาหนึ่งเวลาใด และความจริง ผลประโยชน์ของผู้เรียนจะถูกรักษา ในมัน และนี้คือ หลักเดิม และจากกรณีนี้ ข้าพเจ้าหมายถึง การยึดเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ การสอนผู้คนในระหว่าง ทุกๆสี่ร็อกอัต ในละหมาดกิยาม(เราะมะฎอน)เป็นต้น การยึดถือดังกล่าวนั้น เป็นธรรมปฏิบัติ ดังกล่าวนั้นคือ สิ่งที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นใหม่ ขัดแย้งกับอัสสุนนะฮ – ดู สิลสิละฮอัลฮุดา วัลนูร หน้า 693
มีคนถามเช็คอุษัยมีน (ร.ฮ)เกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่า
ما حكم الموعظة بين صلاة التراويح أو في وسطها ويكون هذا دائماً؟
การอบรม ระหว่างละหมาดตะรอเวียะ หรือ ในช่วงกลางของมัน และ มีอย่างนี้ เป็นประจำ มีหุกุมว่าอย่างรไร?
ท่านอิบนุอุษัยมีนตอบว่า
أما الموعظة فلا، لأن هذا ليس من هدي السلف , لكن يعظهم إذا دعت الحاجة أو شاء بعد التراويح، وإذا قصد بهذا التعبد فهو بدعة, وعلامة قصد التعبد أن يداوم عليها كل ليلة
สำหรับการอบรม นั้น ไม่ได้ เพราะนี้ ไม่ได้มาจากทางนำของชาวสะลัฟ แต่ให้อบรมพวกเขา เมื่อมีความจำเป็นหรือมีความประสงค์ หลังจากที่ละหมาดตะรอเวียะเสร็จแล้ว และเมื่อ เจตนา ให้เป็นอิบาดะฮ ด้วยการกระทำนี้ มันคือ บิดอะฮ และ เครื่องหมายที่แสดงว่า เจตนา ให้เป็นอิบาดะฮ คือ การทำเป็นประจำทุกคืน –ลิกออุลบาบอัลมัฟตัวะห์ หน้า 118 
............
สรุปคือ การนะศีหัตระหว่าง ละหมาดตะรอเวียะ ไม่มีแบบอย่างจากสะลัฟ หากเจตนาให้เป็นอิบาดะฮ มันคือบิดอะฮ ทางที่ดี หากจะนะศีหัตบ้างเป็นครั้งคราว ควรจะทำหลังจากละหมาดตารอเวียะ เสร็จแล้ว ไม่ควรจะทำเป็นประจำ จนกลายเป็นอาดะฮ ที่ทำให้คนอาวามเข้าใจว่า เป็นส่วนหนึ่งของอิบาดะฮที่พึงกระทำ 
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
17/5/61

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น