วาทกรรม"นบีห้ามไหม?
เมื่อใครสักคนทำสิ่งที่เป็นบิดอะฮ พอมีคนมาถามว่า มีแบบอย่างจากท่านนบี ศอ็ลฯ ไหม ?ก็จะถูกย้อนศรว่า แล้วที่พวกฉันทำนบีห้ามไหม ?
จึงถามว่า ลืมไปแล้วหรือว่า อัลลอฮ ตาอาลาส่ง มุหัมหมัด บุตร อับดุลลอฮ หลานอับดุลมุฏเฏาะลิบมา เพื่อให้เป็นแบบอย่างแก่มนุษย์ชาติ โดยเฉพาะ คนที่ปากปฏิญานว่า "แท้จริง มุหัมหมัด คือ ศาสนทูตของอัลลอฮ"
อัลลอฮตาอาลาตรัสว่า
จึงถามว่า ลืมไปแล้วหรือว่า อัลลอฮ ตาอาลาส่ง มุหัมหมัด บุตร อับดุลลอฮ หลานอับดุลมุฏเฏาะลิบมา เพื่อให้เป็นแบบอย่างแก่มนุษย์ชาติ โดยเฉพาะ คนที่ปากปฏิญานว่า "แท้จริง มุหัมหมัด คือ ศาสนทูตของอัลลอฮ"
อัลลอฮตาอาลาตรัสว่า
لَقَدْ كَانَ لَكُمْ فِي رَسُولِ اللَّهِ أُسْوَةٌ حَسَنَةٌ لِّمَن كَانَ يَرْجُو اللَّهَ وَالْيَوْمَ الْآخِرَ وَذَكَرَ اللَّهَ كَثِيرًا
“โดยแน่นอน ในเราะสูลของอัลลอฮ์มีแบบฉบับอันดีงามสำหรับพวกเจ้าแล้ว สำหรับผู้ที่หวัง (จะพบ) อัลลอฮ์และวันปรโลกและรำลึกถึงอัลลอฮ์อย่างมาก”- อัลอะซาบ/21
ท่านนบี ศอ็ลฯ รับคำสั่งจากอัลลอฮ ตาอาลา ในคือเมียะรอจญ์ ให้ละหมาดวันละ 5 เวลา ต่อมาอัลลอฮ ตาอาลาส่งญิบรีล มานำสอนวิธีละหมาดแก่ท่านนบี ศอ็ลฯ แล้วท่านก็ได้กำชับอุมะฮของท่านให้เอาแบบอย่างการปฏิบัติละหมาดจากท่าน
บะชีร บิน อบีมัสอูด(ร.ฎ)ว่า
“โดยแน่นอน ในเราะสูลของอัลลอฮ์มีแบบฉบับอันดีงามสำหรับพวกเจ้าแล้ว สำหรับผู้ที่หวัง (จะพบ) อัลลอฮ์และวันปรโลกและรำลึกถึงอัลลอฮ์อย่างมาก”- อัลอะซาบ/21
ท่านนบี ศอ็ลฯ รับคำสั่งจากอัลลอฮ ตาอาลา ในคือเมียะรอจญ์ ให้ละหมาดวันละ 5 เวลา ต่อมาอัลลอฮ ตาอาลาส่งญิบรีล มานำสอนวิธีละหมาดแก่ท่านนบี ศอ็ลฯ แล้วท่านก็ได้กำชับอุมะฮของท่านให้เอาแบบอย่างการปฏิบัติละหมาดจากท่าน
บะชีร บิน อบีมัสอูด(ร.ฎ)ว่า
سَمِعْتُ أَبَا مَسْعُودٍ يَقُولُ سَمِعْتُ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَقُولُ نَزَلَ جِبْرِيلُ فَأَمَّنِي فَصَلَّيْتُ مَعَهُ ثُمَّ صَلَّيْتُ مَعَهُ ثُمَّ صَلَّيْتُ مَعَهُ ثُمَّ صَلَّيْتُ مَعَهُ ثُمَّ صَلَّيْتُ مَعَهُ يَحْسُبُ بِأَصَابِعِهِ خَمْسَ صَلَوَاتٍ
ข้าพเจ้าได้ยินอบูมัสอูดกล่าวว่า "ฉันได้ยิน รซูลุลลอฮ สอ็ลฯ กล่าวว่า ญิบรีล ได้ลงมา และนำละหมาดฉัน แล้วฉันได้ละหมาดพร้อมกับเขา หลังจากนั้น ฉันได้ละหมาดพร้อมกับเขา หลังจากนั้น ฉันได้ละหมาดพร้อมกับเขา หลังจากนั้น ฉันได้ละหมาดพร้อมกับเขา หลังจากนั้น ท่านนบีได้คำนวนด้วยนิ้วของท่าน 5 ละหมาด - รายงานโดยมุสลิม
และท่านนบี ศอ็ลฯ ได้เอาแบบอย่างนั้น มาสอนเหล่าเศาะหาบะฮ โดยกล่าวกำชับ ให้ละหมาดตามแบบอย่างของท่านนบี ศอ็ลฯเอง
คำว่า
« صَلُّوا كَمَا رَأَيْتُمُونِي أُصَلِّي » [البخاري برقم 631]
และท่านนบี ศอ็ลฯ ได้เอาแบบอย่างนั้น มาสอนเหล่าเศาะหาบะฮ โดยกล่าวกำชับ ให้ละหมาดตามแบบอย่างของท่านนบี ศอ็ลฯเอง
คำว่า
« صَلُّوا كَمَا رَأَيْتُمُونِي أُصَلِّي » [البخاري برقم 631]
ความว่า: “พวกท่านจงทำการละหมาด ตามที่พวกท่านเห็นฉันละหมาด” (บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หะดีษเลขที่: 631)
อิหม่าม อัรชัรกะชีย์กล่าวว่า
الْمُتَابَعَةَ كما تَكُونُ في الْأَفْعَالِ تَكُونُ في التُّرُوكِ
อิหม่าม อัรชัรกะชีย์กล่าวว่า
الْمُتَابَعَةَ كما تَكُونُ في الْأَفْعَالِ تَكُونُ في التُّرُوكِ
การเจริญรอยตาม ในเรื่อง การทิ้ง(ของนบี)นั้น ก็เหมือนการเจริญรอยตาม ในการกระทำ(ของนบี) - ดู บะหรุลมุฮีฏ เล่ม 4 หน้า 191
..............................
หมายความว่า
เมื่อนบี ศอ็ลฯ ปฏิบัติ เราก็ปฏิบัติ เป็นการตามสุนนะฮนบี เมื่อนบีไม่ทำ เราก็ไม่ทำ นี่คือการทำตามสุนนะฮนบี
ถ้าอ้างว่า นบีไม่ทำก็ทำได้ เพราะไม่ห้าม แล้ว คิดรูปแบบอิบาดะฮตามที่อารมณ์ เห็นว่าดี อ้างว่าเป็นคำสอนศาสนา แล้ว สุนนะฮนบี เอาไว้ทำไมหรือ แล้วที่ท่านปฏิญานรับรองนบีนั้น เป็นการปฏิญาน แค่ลมปากกระนั้นหรือ เพราะทำตามที่คิดเอง ไม่ใส่ใจว่านบี ศอ็ลฯจะทำแบบอย่างไว้หรือไม่ แล้วสิ่งที่คิดเอง เป็นศาสนาของใครหรือ
อัสสัรเคาะสีย์(ร.ฮ) กล่าวว่า
..............................
หมายความว่า
เมื่อนบี ศอ็ลฯ ปฏิบัติ เราก็ปฏิบัติ เป็นการตามสุนนะฮนบี เมื่อนบีไม่ทำ เราก็ไม่ทำ นี่คือการทำตามสุนนะฮนบี
ถ้าอ้างว่า นบีไม่ทำก็ทำได้ เพราะไม่ห้าม แล้ว คิดรูปแบบอิบาดะฮตามที่อารมณ์ เห็นว่าดี อ้างว่าเป็นคำสอนศาสนา แล้ว สุนนะฮนบี เอาไว้ทำไมหรือ แล้วที่ท่านปฏิญานรับรองนบีนั้น เป็นการปฏิญาน แค่ลมปากกระนั้นหรือ เพราะทำตามที่คิดเอง ไม่ใส่ใจว่านบี ศอ็ลฯจะทำแบบอย่างไว้หรือไม่ แล้วสิ่งที่คิดเอง เป็นศาสนาของใครหรือ
อัสสัรเคาะสีย์(ร.ฮ) กล่าวว่า
ولا مدخل للرأي في معرفة ما هو طاعة الله، ولهذا لا يجوز إثبات أصل العبادة بالرأي.
และไม่มีช่องทางใดๆสำหรับความคิดเห็น ในเรื่องการรู้จักสิ่งที่มันเป็นการภักดีต่ออัลลอฮ เพราะเหตุนี้ จึงไม่อนุญาตให้รับรองรากฐานการอิบาดะฮ ด้วยการใช้ความคิดเห็น – ดู อุศูลุอัสสัรเคาะสีย์ เล่ม 2 หน้า 122
หมายความว่า ในเรื่อง การอิบาดะฮนั้น ไม่เปิดโอกาสให้นำความคิดเห็นมากำหนดบทบัญญัติศาสนาที่จะนำไปทำการภักดีต่ออัลลอฮ เพราะเรื่องอิบาดะฮนั้น ต้องหยุดอยู่ที่คำสัง
والله اعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
18/6/59
หมายความว่า ในเรื่อง การอิบาดะฮนั้น ไม่เปิดโอกาสให้นำความคิดเห็นมากำหนดบทบัญญัติศาสนาที่จะนำไปทำการภักดีต่ออัลลอฮ เพราะเรื่องอิบาดะฮนั้น ต้องหยุดอยู่ที่คำสัง
والله اعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
18/6/59
เมื่อใครสักคนทำสิ่งที่เป็นบิดอะฮ พอมีคนมาถามว่า มีแบบอย่างจากท่านนบี ศอ็ลฯ ไหม ?ก็จะถูกย้อนศรว่า แล้วที่พวกฉันทำนบีห้ามไหม ?
จึงถามว่า ลืมไปแล้วหรือว่า อัลลอฮ ตาอาลาส่ง มุหัมหมัด บุตร อับดุลลอฮ หลานอับดุลมุฏเฏาะลิบมา เพื่อให้เป็นแบบอย่างแก่มนุษย์ชาติ โดยเฉพาะ คนที่ปากปฏิญานว่า "แท้จริง มุหัมหมัด คือ ศาสนทูตของอัลลอฮ"
อัลลอฮตาอาลาตรัสว่า
จึงถามว่า ลืมไปแล้วหรือว่า อัลลอฮ ตาอาลาส่ง มุหัมหมัด บุตร อับดุลลอฮ หลานอับดุลมุฏเฏาะลิบมา เพื่อให้เป็นแบบอย่างแก่มนุษย์ชาติ โดยเฉพาะ คนที่ปากปฏิญานว่า "แท้จริง มุหัมหมัด คือ ศาสนทูตของอัลลอฮ"
อัลลอฮตาอาลาตรัสว่า
لَقَدْ كَانَ لَكُمْ فِي رَسُولِ اللَّهِ أُسْوَةٌ حَسَنَةٌ لِّمَن كَانَ يَرْجُو اللَّهَ وَالْيَوْمَ الْآخِرَ وَذَكَرَ اللَّهَ كَثِيرًا
“โดยแน่นอน ในเราะสูลของอัลลอฮ์มีแบบฉบับอันดีงามสำหรับพวกเจ้าแล้ว สำหรับผู้ที่หวัง (จะพบ) อัลลอฮ์และวันปรโลกและรำลึกถึงอัลลอฮ์อย่างมาก”- อัลอะซาบ/21
ท่านนบี ศอ็ลฯ รับคำสั่งจากอัลลอฮ ตาอาลา ในคือเมียะรอจญ์ ให้ละหมาดวันละ 5 เวลา ต่อมาอัลลอฮ ตาอาลาส่งญิบรีล มานำสอนวิธีละหมาดแก่ท่านนบี ศอ็ลฯ แล้วท่านก็ได้กำชับอุมะฮของท่านให้เอาแบบอย่างการปฏิบัติละหมาดจากท่าน
บะชีร บิน อบีมัสอูด(ร.ฎ)ว่า
“โดยแน่นอน ในเราะสูลของอัลลอฮ์มีแบบฉบับอันดีงามสำหรับพวกเจ้าแล้ว สำหรับผู้ที่หวัง (จะพบ) อัลลอฮ์และวันปรโลกและรำลึกถึงอัลลอฮ์อย่างมาก”- อัลอะซาบ/21
ท่านนบี ศอ็ลฯ รับคำสั่งจากอัลลอฮ ตาอาลา ในคือเมียะรอจญ์ ให้ละหมาดวันละ 5 เวลา ต่อมาอัลลอฮ ตาอาลาส่งญิบรีล มานำสอนวิธีละหมาดแก่ท่านนบี ศอ็ลฯ แล้วท่านก็ได้กำชับอุมะฮของท่านให้เอาแบบอย่างการปฏิบัติละหมาดจากท่าน
บะชีร บิน อบีมัสอูด(ร.ฎ)ว่า
سَمِعْتُ أَبَا مَسْعُودٍ يَقُولُ سَمِعْتُ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَقُولُ نَزَلَ جِبْرِيلُ فَأَمَّنِي فَصَلَّيْتُ مَعَهُ ثُمَّ صَلَّيْتُ مَعَهُ ثُمَّ صَلَّيْتُ مَعَهُ ثُمَّ صَلَّيْتُ مَعَهُ ثُمَّ صَلَّيْتُ مَعَهُ يَحْسُبُ بِأَصَابِعِهِ خَمْسَ صَلَوَاتٍ
ข้าพเจ้าได้ยินอบูมัสอูดกล่าวว่า "ฉันได้ยิน รซูลุลลอฮ สอ็ลฯ กล่าวว่า ญิบรีล ได้ลงมา และนำละหมาดฉัน แล้วฉันได้ละหมาดพร้อมกับเขา หลังจากนั้น ฉันได้ละหมาดพร้อมกับเขา หลังจากนั้น ฉันได้ละหมาดพร้อมกับเขา หลังจากนั้น ฉันได้ละหมาดพร้อมกับเขา หลังจากนั้น ท่านนบีได้คำนวนด้วยนิ้วของท่าน 5 ละหมาด - รายงานโดยมุสลิม
และท่านนบี ศอ็ลฯ ได้เอาแบบอย่างนั้น มาสอนเหล่าเศาะหาบะฮ โดยกล่าวกำชับ ให้ละหมาดตามแบบอย่างของท่านนบี ศอ็ลฯเอง
คำว่า
« صَلُّوا كَمَا رَأَيْتُمُونِي أُصَلِّي » [البخاري برقم 631]
และท่านนบี ศอ็ลฯ ได้เอาแบบอย่างนั้น มาสอนเหล่าเศาะหาบะฮ โดยกล่าวกำชับ ให้ละหมาดตามแบบอย่างของท่านนบี ศอ็ลฯเอง
คำว่า
« صَلُّوا كَمَا رَأَيْتُمُونِي أُصَلِّي » [البخاري برقم 631]
ความว่า: “พวกท่านจงทำการละหมาด ตามที่พวกท่านเห็นฉันละหมาด” (บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หะดีษเลขที่: 631)
อิหม่าม อัรชัรกะชีย์กล่าวว่า
الْمُتَابَعَةَ كما تَكُونُ في الْأَفْعَالِ تَكُونُ في التُّرُوكِ
อิหม่าม อัรชัรกะชีย์กล่าวว่า
الْمُتَابَعَةَ كما تَكُونُ في الْأَفْعَالِ تَكُونُ في التُّرُوكِ
การเจริญรอยตาม ในเรื่อง การทิ้ง(ของนบี)นั้น ก็เหมือนการเจริญรอยตาม ในการกระทำ(ของนบี) - ดู บะหรุลมุฮีฏ เล่ม 4 หน้า 191
..............................
หมายความว่า
เมื่อนบี ศอ็ลฯ ปฏิบัติ เราก็ปฏิบัติ เป็นการตามสุนนะฮนบี เมื่อนบีไม่ทำ เราก็ไม่ทำ นี่คือการทำตามสุนนะฮนบี
ถ้าอ้างว่า นบีไม่ทำก็ทำได้ เพราะไม่ห้าม แล้ว คิดรูปแบบอิบาดะฮตามที่อารมณ์ เห็นว่าดี อ้างว่าเป็นคำสอนศาสนา แล้ว สุนนะฮนบี เอาไว้ทำไมหรือ แล้วที่ท่านปฏิญานรับรองนบีนั้น เป็นการปฏิญาน แค่ลมปากกระนั้นหรือ เพราะทำตามที่คิดเอง ไม่ใส่ใจว่านบี ศอ็ลฯจะทำแบบอย่างไว้หรือไม่ แล้วสิ่งที่คิดเอง เป็นศาสนาของใครหรือ
อัสสัรเคาะสีย์(ร.ฮ) กล่าวว่า
..............................
หมายความว่า
เมื่อนบี ศอ็ลฯ ปฏิบัติ เราก็ปฏิบัติ เป็นการตามสุนนะฮนบี เมื่อนบีไม่ทำ เราก็ไม่ทำ นี่คือการทำตามสุนนะฮนบี
ถ้าอ้างว่า นบีไม่ทำก็ทำได้ เพราะไม่ห้าม แล้ว คิดรูปแบบอิบาดะฮตามที่อารมณ์ เห็นว่าดี อ้างว่าเป็นคำสอนศาสนา แล้ว สุนนะฮนบี เอาไว้ทำไมหรือ แล้วที่ท่านปฏิญานรับรองนบีนั้น เป็นการปฏิญาน แค่ลมปากกระนั้นหรือ เพราะทำตามที่คิดเอง ไม่ใส่ใจว่านบี ศอ็ลฯจะทำแบบอย่างไว้หรือไม่ แล้วสิ่งที่คิดเอง เป็นศาสนาของใครหรือ
อัสสัรเคาะสีย์(ร.ฮ) กล่าวว่า
ولا مدخل للرأي في معرفة ما هو طاعة الله، ولهذا لا يجوز إثبات أصل العبادة بالرأي.
และไม่มีช่องทางใดๆสำหรับความคิดเห็น ในเรื่องการรู้จักสิ่งที่มันเป็นการภักดีต่ออัลลอฮ เพราะเหตุนี้ จึงไม่อนุญาตให้รับรองรากฐานการอิบาดะฮ ด้วยการใช้ความคิดเห็น – ดู อุศูลุอัสสัรเคาะสีย์ เล่ม 2 หน้า 122
หมายความว่า ในเรื่อง การอิบาดะฮนั้น ไม่เปิดโอกาสให้นำความคิดเห็นมากำหนดบทบัญญัติศาสนาที่จะนำไปทำการภักดีต่ออัลลอฮ เพราะเรื่องอิบาดะฮนั้น ต้องหยุดอยู่ที่คำสัง
والله اعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
18/6/59
หมายความว่า ในเรื่อง การอิบาดะฮนั้น ไม่เปิดโอกาสให้นำความคิดเห็นมากำหนดบทบัญญัติศาสนาที่จะนำไปทำการภักดีต่ออัลลอฮ เพราะเรื่องอิบาดะฮนั้น ต้องหยุดอยู่ที่คำสัง
والله اعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
18/6/59
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น