การตามอุลามาอฺตามอย่างไร
จะพบเห็นและได้ยินบ่อย วาทกรรมที่ว่า " คนนั้นคนนี้ไม่ตามอุลามาอฺ " เราตามอุลามาอฺ ใครไม่ตามอุลามาอฺจะหลงทาง" จึงกลายเป็นวาทกรรมที่สร้างความสับสนให้คนอาวามว่า ตกลงจะให้ตามผู้รู้ หรือจะให้ตามอัลลอฮและ รอซูลกันแน่
การตะอัศศุบและคลั่งใคล้ในตัวผู้รู้ จนเลยเถิด จนไม่สามารถแยกแยะได้ว่า "การตาม"ในเรื่องศาสนา คือการตามอย่างใร การตามอุลามาอฺหรือผู้รู้นั้นตามอย่างไร เมื่อแยกไม่ออก ก็จะนั่งมโนมองคนอื่นที่ไม่เข้าใจเหมือนตนว่า "ไม่ตามอุลามาอ" อยู่ร่ำไป
อบูดาวูด (ร.ฮ) ได้กล่าวถึงความหมายการตามในทัศนะอิหม่ามอะหมัดว่า
سَمِعْتُ أَحْمَدَ ، يَقُولُ : " الِاتِّبَاعُ : أَنْ يَتَّبِعَ الرَّجُلُ مَا جَاءَ عَنِ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَعَنْ أَصْحَابِهِ ، ثُمَّ هُوَ مِنْ بَعْدُ فِي التَّابِعِينَ مُخَيَّرٌ
ข้าพเจ้าได้ยินเขา(อะหมัด)กล่าวว่า "อัลอิตติบาอฺ(การตาม) คือ การที่คนนั้น เขาได้ตามสิ่งที่มาจากท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม และจากบรรดาสาวกของท่าน หลังจากนั้น คือ ผู้ที่อยู่สมัยหลังจากนั้น ในบรรดาตาบิอีนนั้น ให้มีทางเลือก (ในการตาม) - ดู มะสาอีลอะหมัด ของอบีดาวูดอัสสิญิสตานีย์ กิตาบุลญะนาอิซ เรื่อง บาบุฟีรเราะยิ และตัฟสีรอัฎวาอุลบะยาน 7/ 352
อิบนุอับดิลบัร (ร.ฮ)กล่าวว่า
وَقَالَ أَبُو عَبْدِ اللَّهِ بْنُ خُوَيْزٍ مِنْدَادٌ الْبَصْرِيُّ الْمَالِكِيُّ : " التَّقْلِيدُ مَعْنَاهُ فِي الشَّرْعِ الرُّجُوعُ إِلَى قَوْلٍ لا حُجَّةَ لِقَائِلِهِ عَلَيْهِ ، وَهَذَا مَمْنُوعٌ مِنْهُ فِي الشَّرِيعَةِ ، وَالاتِّبَاعُ مَا ثَبَتَ عَلَيْهِ حُجَّةٌ
และอบูอับดุลลอฮ บุตร คุวัยซฺ มันดาด อัลบะเศาะรี อัล-มาลิกีย์ กล่าวว่า " การตักลีด ความหมายในทางศาสนาคือ การกลับไปหาคำพูดใดๆ ที่ไม่หลักฐานสำหรับผู้ที่กล่าวคำพูดนั้น และดังกล่าวนั้น เป็นสิ่งถูกห้ามในศาสนาบัญญัติ และคำว่า"อิตบาอฺคือ (การตาม)สิ่งที่ปรากฏหลักฐานยืนยัน - ญามิอุบะยานิลอิลมิวะฟัฎลิฮ 2/993
.........................
สรุปคือ
1. ตักลิดคือ ตามคำพูดคนอื่นที่ไม่มีหลักฐานยืนยัน นี่คือสิ่งต้องห้าม
2. อัลอิตบาอฺ คือ ตามสิ่งที่มีหลักฐานยืนยืน
1. ตักลิดคือ ตามคำพูดคนอื่นที่ไม่มีหลักฐานยืนยัน นี่คือสิ่งต้องห้าม
2. อัลอิตบาอฺ คือ ตามสิ่งที่มีหลักฐานยืนยืน
สำหรับอายะฮต่อไปนี้ที่มักจะมีผู้อ้างว่าเป็นหลักฐานให้สังกัดมัซฮับอุลามาอฺ และให้ตามอุลามาอฺ คืออายะฮที่ว่า
فَاسْأَلُوا أَهْلَ الذِّكْرِ إِن كُنتُمْ لَا تَعْلَمُونَ
" ดังนั้น พวกเจ้าจงถามบรรดาผู้รู้ หากพวกเจ้าไม่รู้" (อันนะหฺลู / ๔๓)
อายะฮข้างต้น ไม่ได้สอนให้ตักลิดมัซฮับ หรือ ตามอุลามาอฺ โดยปราศจากหลักฐาน แต่เป็นการสอนให้ถามข้อเท็จจริง หรือหลักฐานจากอุลามาอฺ หรือบรรดาผู้รู้
อายะฮข้างต้น ไม่ได้สอนให้ตักลิดมัซฮับ หรือ ตามอุลามาอฺ โดยปราศจากหลักฐาน แต่เป็นการสอนให้ถามข้อเท็จจริง หรือหลักฐานจากอุลามาอฺ หรือบรรดาผู้รู้
อิหม่ามเชากานีย์(ร.ฮ) อธิบายว่า
وَقَدِ اسْتُدِلَّ بِالْآيَةِ عَلَى أَنَّ التَّقْلِيدَ جَائِزٌ وَهُوَ خَطَأٌ ، وَلَوْ سَلِمَ لَكَانَ الْمَعْنَى سُؤَالَهُمْ عَنِ النُّصُوصِ مِنَ الْكِتَابِ وَالسُّنَّةِ ، لَا عَنِ الرَّأْيِ الْبَحْتِ ، وَلَيْسَ التَّقْلِيدُ إِلَّا قَبُولَ قَوْلِ الْغَيْرِ دُونَ حُجَّتِهِ . ِ .
แท้จริง ด้วยอายะฮนี้ ได้ถูกอ้างเป็นหลักฐาน ว่า การตักลิดนั้น คือ เป็นการอนุญาต และมันคือ ความผิดพลาด และถ้าจะให้มันปลอดภัย ความหมายก็คือ ถามพวกเขา(หมายถึงผู้รู้) เกี่ยวกับหลักฐาน จากอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ ไม่ใช่ถาม เกี่ยวกับความเห็น ล้วนๆ และการตักลิด ไม่ใช่อื่นใด นอกจากการรับเอาคำพูดผู้อื่นโดยปราศจากหลักฐานของมัน ดูตัฟสีร ฟัตหุลเกาะดีร เล่ม 5 หน้า 929
.......
เพราะฉะนั้น อายะฮข้างต้น สอนให้ถามข้อเท็จจริงและหลักฐานจากผู้รู้ (อุลามาอ) ไม่ใช่ถามความเห็นผู้รู้ แล้วตามอย่างหูหนวกตาบอด
.......
เพราะฉะนั้น อายะฮข้างต้น สอนให้ถามข้อเท็จจริงและหลักฐานจากผู้รู้ (อุลามาอ) ไม่ใช่ถามความเห็นผู้รู้ แล้วตามอย่างหูหนวกตาบอด
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
20/6259
อะสัน หมัดอะดั้ม
20/6259
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น