วันอาทิตย์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2560

เมื่อหมดปัญญาทางวิชาการก็ท้าให้เอาอุลามาอมาโชว์


ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ


เมื่อหมดปัญญาทางวิชาการก็ท้าให้เอาอุลามาอมาโชว์
ราชสีห์ ผู้ภักดีของแผ่นดิน ได้แชร์โพสต์ของ แนวทาง อุลามาอฺ อะหฺลุซซุนนะห์
30 กันยายน เวลา 10:04 น.
วาฮาบีหากแน่จริงเอาอูลามาตัวเองมาโชว์หน่อยหาก ของจริงกล้าๆหน่อย ทุกคนจะได็รู้จักด้วย
@@@
ชี้แจง
ข้างต้นเป็นพฤติกรรมของคนที่หมดหนทางนำเสนอหลักฐานทางวิชาการมาโต้แย้งหลักฐาน ของ พี่น้องมุสลิม ที่เขาอุปโลกน์ให้เป็นวะฮบีย์ผู้หลงผิด โดยงัดเอาพ่ายใบสุดท้ายคือ เอาเชื่อโต๊ะครูมาประกวด ..อนาถจริงๆ สังคมมุสลิม ไม่มีอะไรพัฒนาเอาเสียเลยในทางวิชาการ ปิดหูปิดตา ปิดปาก จนวิชาการไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้
ขอเรียนว่า ผู้รู้นั้น มีมากมาย ไม่ตต้องเอามาประกวด หรอก ถ้าประกวดแบบของเก่าโบราน ปราชญยุคสะลัฟผู้ทรงธรรมเก่ากว่าเยอะ แต่ถ้าบรรดาผู้รู้ยุคหลัง ทุกคนล้วนมีเกียรติ์ หากผู้เขาเป็น อุลามาอฺ ที่ทำหน้าในฐานะทายาทของท่านนบี คือ ถ่ายทอดสุนนะฮนบี มาสู่คนอาวามให้เข้าใจและปฏิบัติ
ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมกล่าวว่า
فَضْلُ الْعَالِمِ عَلَى الْعَابِدِ كَفَضْلِ الْقَمَرِ لَيْلَةَ الْبَدْرِ عَلَى سَائِرِ الْكَوَاكِبِ، وَإِنَّ الْعُلَمَاءَ وَرَثَةُ الأَنْبِيَاءِ، وَإِنَّ الأَنْبِيَاءَ لَمْ يُوَرِّثُوْا دِيْنَارًا وَلاَ دِرْهَمًا، وَلَكِنْ وَرَّثُوْا الْعِلْمَ، فَمَنْ أَخَذَهُ أَخَذَ بِحَظٍّ وَافِرٍ
“ความประเสริฐของผู้รู้ที่โดดเด่นเหนือผู้ปฏิบัติอิบาดะฮฺเปรียบเสมือนความประเสริฐของดวงจันทร์ในคืนจันทร์เพ็ญที่โดดเด่นเหนือดาวดวงอื่นๆ และแท้จริงบรรดาอุละมาอ์คือทายาทผู้รับมรดกจากบรรดานบี และแท้จริงบรรดานบีไม่ได้ทิ้งมรดกแม้แต่หนึ่งดีนารหรือหนึ่งดิรฮัม แต่ทว่าพวกเขาได้ทิ้งมรดกแห่งความรู้ ดังนั้นผู้ใดรับมรดกแห่งความรู้ (จากพวกเขา) แท้จริงเขาได้รับเอาส่วนแบ่งที่ครบถ้วนสมบูรณ์” (เศาะหีห, บันทึกโดยอะหมัด, เล่ม 5 หน้า 196, ดดาริมีย์, เล่ม 1 หน้า 83, อบูดาวูด, เล่ม 3 หน้า 318, อัตติรมิซีย์, เล่ม 4 หน้า 153, อิบนุมาญะฮฺ, เล่ม 1 หน้า 81)
คำว่า "บรรดาผู้รู้เป็นผู้สืบทอดมรดกจากบรรดานบี" หมายถึงการสืบทอดความรู้และสุนนะฮของท่านนบี ศอ็ลฯ แล้วถ้าอุตริบิดอะฮขึ้นมา จะเรียกว่า สืบทอดมรดกนบีได้อย่างไร?
قَالَ أَبُو حَاتِمٍ رَضِيَ الِلَّهِ عَنْهُ : فِي هَذَا الْحَدِيثِ بَيَانٌ وَاضِحٌ أَنَّ الْعُلَمَاءَ الَّذِينَ لَهُمُ الْفَضْلُ الَّذِي ذَكَرْنَا ، هُمُ الَّذِينَ يُعَلِّمُونَ عِلْمَ النَّبِيِّ صَلَّى الِلَّهِ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ، دُونَ غَيْرِهِ مِنْ سَائِرِ الْعُلُومِ ، أَلا تَرَاهُ يَقُولُ : " الْعُلَمَاءُ وَرَثَةُ الأَنْبِيَاءِ " وَالأَنْبِيَاءُ لَمْ يُوَرِّثُوا إِلا الْعِلْمَ ، وَعِلْمُ نَبِيِّنَا صَلَّى الِلَّهِ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ سُنَّتُهُ ، فَمَنْ تَعَرَّى عَنْ مَعْرِفَتِهَا لَمْ يَكُنْ مِنْ وَرَثَةِ الأَنْبِيَاءِ .
อบูหาติม บิน หิบบาน (ร.ฎ)กล่าวว่า ในหะดิษนี้ คือการอธิบายอย่างชัดเจนว่า บรรดาอุลามาอฺ ที่พวกเขาได้รับเกียรติ ที่เราได้กล่าวถึงพวกเขาคือ บรรดาผู้ที่สอนความรู้ของนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ไม่ใช่บรรดาความรู้อื่นจากความรู้ท่านนบี ,ท่านไม่เห็นหรอกหรือว่า "ท่านนบีกล่าวว่า (แท้จริงบรรดาผู้รู้เป็นผู้สืบทอดมรดกจากบรรดานบี) และบบรรดานบีนั้น พวกเขาจะไม่มอบมรดก(แก่ผู้ใด) นอกจากความรู้ และความรู้ของนบีของเรานั้น คือ สุนนะฮของท่านนบี ดังนั้น ผู้ใดห่างใกลจากการรู้จักมัน(หมายถึงรู้จักสุนนะฮนบี) เขาก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งจาก ทายาทบรรดานบี - เศาะเฮียะอิบนุหิบบาน ๑/๘๙ กิตาบุลอิลมิในภาพอาจจะมี ข้อความ
จากคำอธิบายของอิบนุหิบบานข้างต้นสรุปว่า
๑.บรรดาอุลามาอฺหรือผู้รู้ที่ได้รับเกียรติให้เป็นทายาทบรรดานบีคือ บรรดาผู้ที่ปฏิบัติตามความรู้ของท่านนบี
๒. ความรู้ของท่านนบี คือ สุนนะฮของท่านนบี
๓. บรรดาผู้รู้ที่ไม่รู้จักสุนนะฮนบี พวกเขาไม่ใช่ทายาทบรรดานบี
เพราะฉะนั้น อุลามาอฺที่ถ่ายทอดสิ่งที่เป็นบิดอะฮ เขาไม่ใช่ทายาททางวิชาการของท่านนบี ไม่ว่าจะรุ่นใหน ยุคใหนก็ตาม ต่อให้มนุษย์บูชามากมากมายขนาดใหนก็ตาม
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
2/10/60

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น