วันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ตัวอย่างอะกีดะฮแนวอะฮลุลกาลามที่ถูกอ้างว่าเป็นอะกีดะฮอะฮลุสสุนนะฮ

ในภาพอาจจะมี ข้อความ


ตัวอย่างอะกีดะฮแนวอะฮลุลกาลามที่ถูกอ้างว่าเป็นอะกีดะฮอะฮลุสสุนนะฮ
Sukiman Tuanno
จากอิหม่ามอัสสุบกีย์ กล่าวว่า หลักอากีดะของอัฮลิสสุนนะนั้น อัลลอฮทรงดั้งเดิม ไม่มีทิศสำหรับพระองค์ ไม่มีสถานที่ ไม่ผ่านขั้นตอนของเวลา ไม่ถูกกล่าวกับพระองค์ว่าอยู่ไหน พระองค์จะไม่ถูกเห็นด้วยกับการเผชิญหน้าและอยู่บนการเผชิญหน้า พระองค์ทรงมีมาแล้วโดยไม่มีสถานที่อยู่ พระองค์ทรงสร้างสถานที่และเวลา และปัจจุบันพระองค์ก็ยังอยู่เช่นนั้น(ไม่มีการเปลี่ยนแปลง) จาก อัสสุบกีย์ ฏอบากอต อัชชาฟีอียะ อัลกุบรอ เล่ม 9 หน้า 41
............
ชัแจง
ข้้างต้น คนอ้างไม่กล้าเอาตัวบทอาหรับมา กลัวว่าคนจะรู้ว่าตนเองแปลไม่ถูก ขาดความมั่นใจ ขอวิจารณ์ ดังนี้คือ
1.ตาญุุดดีน อัสสุบกีย์ ชื่อเต็มว่า อบูนัศรุน ตาญุดดีน อับดุลวาฮาบ บิน อาลี บิน อับดุลกาฟีย์ อัสสุบกีย์ เป็นปราชญ์ ยุคเคาลัฟ มีชีวิตระหว่างปี ฮ.ศ 727-771 มีแนวคิดแบบอาชาอิเราะฮ
2. มาดูข้อความ คำพูดอิหม่ามตายุดดีนอัสสุบกีย์และความหมาย
ดังนี้
عقيدتنا أن الله قديم أزليٌّ، لا يُشْبِهُ شيئا ولا يشبهه شىء، ليس له جهة ولا مكان، ولا يجري عليه وقتٌ ولا زمان، ولا يقال له أين ولا حيث، يُرَى لا عن مقابلة ولا على مقابلة، كان ولا مكان، كوَّن المكان، ودبَّرَ الزمان، وهو الآن على ما عليه كان، هذا مذهب أهل السنة
อะกีดะฮของเรา แท้จริง อัลลอฮทรงมีมาแต่เดิม ทรงนิจนิรันดร์ ทรงไม่คล้ายคลึงสิ่งใดๆและ ไม่มีสิ่งใดคล้ายคลึงพระองค์ ไม่มีทิศสำหรับพระองค์ ไม่มีสถานที่ ,เวลาและกาลเวลาไม่ ผ่านบนพระองค์ และ ไม่ถูกกล่าวกับพระองค์ว่าอยู่ไหน ,ไม่ถูกกล่าวว่าอยู่ที่ใด พระองค์จะไม่ถูกเห็นด้วยกับการเผชิญหน้าและอยู่บนการเผชิญหน้า พระองค์ทรงมีมาแล้วโดยไม่มีสถานที่อยู่ พระองค์ทรงสร้างสถานที่และทรงบริหาร เวลา และปัจจุบันพระองค์ก็ยังอยู่เช่นนั้น(ไม่มีการเปลี่ยนแปลง) นี้คือ มัซฮับอะฮลุสสุนนะฮ ..-ฏอบากอต อัชชาฟีอียะ อัลกุบรอ เล่ม 9 หน้า 41
…………..
ขอเรียนว่า ข้างต้นไม่ใช่อะกีดะฮสะลัฟ ผู้ทรงธรรม ด้วยหลักฐานต่อไปนี้
2.1 คำว่า “ไม่มีทิศ” ไม่ใช่อะกีดะฮสะลัฟ เพราะสะลัฟ ไม่ได้กล่าวปฏิเสธคำว่า “ทิศ” ดังที่ อิหม่ามอัลกุรฏุบีย์ (ร.ฮ)กล่าวทัศนะสะลัฟว่า
وقد كان السلف الأول لا يقولون بنفي الجهة , ولا ينطقون بل نطقوا هم والكافة بإثباتها لله , كما نطق كتابه وأخبرت رسله , ولم ينكر أحد من السلف الصالح أنه استوى على عرشه حقيقة
และปรากฏว่าสะลัฟยุคแรก พวกเขาไม่ได้กล่าวด้วยการปฏิเสธ คำว่า "ทิศ" และพวกเขาจะไม่พูด แต่ทว่า พวกเขาเองทั้งหมด รับรองมัน(การอิสติวาอฺ)แก่อัลลอฮ ดังที่คัมภีร์ของพระองค์ได้กล่าวเอาไว้และบรรดารอซูลของพระองค์ ได้บอกไว้ และไม่มีคนใดจากชาวสะลัพผู้ทรงธรรม ปฏิเสธ ว่า อัลลอฮทรงอยู่เหนือบัลลังก์ของพระองค์จริงๆ(ไม่ใช่อุปมาอุปมัย) - ดู ตัฟสีรญามิอิลอะหกาม 7/219-220
2.2 คำว่า "ไม่มีสถานที่ " ไม่ใช่อะกีดะฮสะลัฟ เพราะ ไม่มีสะลัฟท่านใดปฏิเสธคำว่าสถานที่แก่อัลลอฮ ซึ่งหมายถึงสถานที่เบื้องสูง แยกจากมัคลูค
อิหม่ามหัรบฺุ บิน อิสมาอีล อัลกุรมานีย์ (ฮ.ศ 280)กล่าวว่า
أن الجهمية أعداء الله وهم الذين يزعمون أن القرآن مخلوق وأن الله لم يكلم موسى ولا يرى في الآخرة ولا يعرف لله مكان وليس على عرش ولا كرسي وهم كفار فأحذرهم
ญะฮมียะฮ คือ ศัตรูอัลลอฮ และพวกเขาอ้างว่า อัลกุรอ่าน คือ มัคลูค (สิ่งถูกสร้าง) แท้จริงอัลลอฮไม่ได้พูดกับมูซา ,พระองค์จะไม่ถูกเห็น ในวันอาคีเราะฮ , เขาไม่รู้สถานที่สำหรับอัลลอฮ (ว่าอยู่ที่ใหน) ,(เขาอ้างว่า) ไม่ได้อยู่บนอะรัช และไม่ได้อยู่บนกุรสีย์ และพวกเขาคือ กาเฟร ดังนั้นจงระวังพวกเขา --อัลอุลูว์ ลิอะลีิลฆอ็ฟฟาร หน้า 194,กิตาบอะรัช ของอิหม่ามอัซซะฮะบีย์ 2/262
ชัยคุลอิสลามอิบนุตัยมียะฮ เสียชีวิต ปี ฮ.ศ 652 กล่าวว่า
ولا يقدر أحد ان ينقل عن أحد من سلف الامة وأئمتها في القرون الثلاثة حرفا واحدا يخالف ذلك لم يقولوا شيئا من عبارات النافية أن الله ليس في السماء والله ليس فوق العرش
และไม่มีคนหนึ่งคนใด สามารถรายงานจากคนใดจากชาวสะลัฟ แห่งอุมมะฮ และบรรดาอิหม่ามของพวกเขา ในศตวรรษที่สาม แม้แต่อักษรเดียว ขัดแย้งกับดังกล่าวนั้น พวกเขา(สะลัฟ) ไม่เคยพูดสิ่งใดๆจากบรรดาข้อความที่ปฏิเสธ ว่าแท้จริง อัลลอฮไม่ได้อยู่บนฟ้า ,อัลลอฮไม่้ได้อยูเหนืออะรัช ....บะบายตัลบิส อัลญะฮมียะฮ 2/45
2.3 การอ้างว่า อัลลอฮจะไม่ถูกเห็นแบบเผชิญหน้า แบบนี้ไม่ใช่อะกีดะฮอะฮลุสสุนนะฮ เพราะอะกีดะฮที่ขัดต่ออัสสุนนะฮ จะได้เห็นอัลลอฮด้วยตา ในวันกิยามะฮ โดยหะดิษระบุชัดเจนว่าเห็นอัลลอฮด้วยตาในวันกิยามะฮ ดังหลักฐานต่อไปนี้
อัลลอฮฺตรัสว่า
وُجُوهٞ يَوۡمَئِذٖ نَّاضِرَةٌ إِلَىٰ رَبِّهَا نَاظِرَةٞ
ความว่า “ในวันนั้น หลายๆใบหน้าจะเบิกบาน จ้องมองไปยังพระเจ้าของมัน” (อัล-กิยามะฮฺ: 22-23)
ท่านอิบนุกะษีร (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
، إِلَى رَبِّهَا نَاظِرَةٌ ) أَيْ : تَرَاهُ عَيَانًا ، كَمَا رَوَاهُ الْبُخَارِيُّ ، رَحِمَهُ اللَّهُ ، فِي صَحِيحِهِ : " إِنَّكُمْ سَتَرَوْنَ رَبَّكُمْ عَيَانًا "
คำตรัสที่ว่า (จ้องมองไปยังพระเจ้าของมัน) หมายถึง มันเห็นพระองค์ ด้วยต่าเปล่า ดังสิ่งที่อัลบุคอรี(ขออัลลอฮ ตะอาลาเมตตาต่อท่าน)ได้รายงานมันในเศาะเฮียะของท่านว่า ? แท้จริง พวกท่านจะได้เห็นพระผู้อภิบาลของพวกท่านด้วยตาเปล่า? - ดู ตัฟสีรอิบนิกะษีร อรรถาธิบาย อายะฮที่ 22 ซูเราะฮอัลกิยามะฮ
2.4 การอ้างว่า จะไม่ถูกถามเกี่ยวกับอัลลอฮว่าอยู่ที่ใหน ความเชื่อเช่นนี้ไม่ใช่อะกีดะฮสะลัฟ ไม่ใช่อะกีดะฮอะฮลุสสุนนะฮ เพราะมีหะดิษชัดเจนว่า ท่านนบี ศอ็ลฯ ถามทาสหญิงว่าอัลลอฮอยู่ใหน
อิหม่ามอัซซะฮบีย์ ได้กล่าวถึงหะดิษญารียะฮ ที่ท่านนบีถามทาสหญิงคนหนึ่งว่าอัลลอฮอยู่ใหนว่า ว่า
هذا حديث صحيح أخرجه مسلم وأبو داود والنسائي وغير واحد من الأئمة في تصانيفهم ، يمرونه كما جاء ولا يتعرضون له بتأويل ولا تحريف ، وهكذا رأينا كل من يسأل : أين الله ؟ ، يبادر بفطرته ويقول : في السماء ، ففي الخبر مسالتان :إحداهما : شرعية قول المسلم : أين الله .الثانية : قول المسؤول : في السماء . فمن أنكر هاتين المسألتين فإنما ينكر على المصطفى صلى الله عليه وسلم
นี้คือ หะดิษเศาะเฮียะ บันทึกโดย มุสลิม,อบูดาวูด,อันนะสาอีย์ และหลายคนจากบรรดาอิหม่ามในงานเขียนของพวกเขา ,โดยพวกเขาปล่อยให้มันผ่านไปและพวกเขาไม่คัดค้านมันด้วยการตีความและเปลี่ยนความหมาย และในทำนองเดียวกันนี้ เราเห็นว่า ทุกๆคนที่ถูกถามว่า “อัลลอฮอยู่ใหน? ด้วยธรรมชาติของเขา เขาจะตอบทันทีว่า “ อยู่บนฟากฟ้า” ดังนั้น ในหะดิษนี้ แบ่งออกเป็นสองประเด็นคือ
1. คำพูดของมุสลิมที่ว่า “อัลลอฮอยู่ใหน” ชอบด้วยหลักศาสนบัญญัติ
2. คำพูดของผู้ถูกถาม คือ อยู่บนฟากฟ้า
ดังนั้น ใครคัดค้าน สองประเด็นนี้ ความจริง เขาได้คัดค้านนบีมุหัมหมัด ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม – มุคตะศอรอัลอะลูย์ หน้า 81 ,อัลอุลูว์ ลิลอะลียิลฆอฟฟาร หน้า 26 และอิษบาตรสิฟะติลอุลูว์ ของอิบนุกุดามะฮ หน้า 70
..............
จากที่กล่าวมา แค่หลักฐานส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า คำพูดของชัยค์ตายุดดีนอัสสุบกีย์ที่ นาย Sukiman Tuanno มาอ้างนั้น ไม่ใช่อะกีดะฮอะลุสสุนนะฮตามแนวทางสะลัฟ แต่เป็นอะกีดะฮตามแนวทางอาชาอิเราะฮที่เดินตามแนวทางอะฮลุลกาลาม
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
9/10/60

เอกสารประกอบเพิ่มเติม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น