วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

รักนบี อัลลอฮสอนให้ทำอย่างไร






มีรายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮา กล่าวว่า 

جَاءَ رَجُلٌ إِلَى النَّبِيِّ صَلَّى الله عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَقَالَ: يَا رَسُولَ الله، إِنَّكَ لأَحَبّ إِلَيَّ مِنْ نَفْسِي، وَإِنَّكَ لأَحَبّ إِلَيَّ مِنْ أَهْلِي، وَأَحَبّ إِلَيَّ مِنْ ولَدِي، وَإِنِّي لأَكُون فِي البَيْتِ فَأَذْكُرَكَ، فَمَا أَصْبِر حَتَّى آتِيكَ فَأَنْظُرُ إِلَيْكَ، وَإِذَا ذَكَرْتُ مَوْتِي وَمَوْتكَ عَرَفْتُ أَنَّكَ إِذَا دَخَلْتَ الجَنَّةَ رُفِعْتَ مَعَ النَّبِيِّينَ، وَإِنِّي إِذَا دَخَلْتُ الجَنَّةَ خَشِيتُ أَنْ لا أَرَاكَ ، فَلَمْ يَرُدّ عَلَيْهِ النَّبِيُّ صَلَّى الله عَلَيْهِ وَسَلَّمَ شَيْئًا حَتَّى نَزَلَ جِبْرِيلُ عَلَيْهِ السَّلام بِهَذِهِ الآيَةِ: ﴿ وَمَن يُطِعِ ٱللَّهَ وَٱلرَّسُولَ فَأُوْلَٰٓئِكَ مَعَ ٱلَّذِينَ أَنۡعَمَ ٱللَّهُ عَلَيۡهِم مِّنَ ٱلنَّبِيِّ‍ۧنَ وَٱلصِّدِّيقِينَ وَٱلشُّهَدَآءِ وَٱلصَّٰلِحِينَۚ وَحَسُنَ أُوْلَٰٓئِكَ رَفِيقٗا ٦٩ ﴾ [النساء: ٦٩] 

ความว่า “มีชายคนหนึ่งมาพบกับท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม แล้วกล่าวว่า โอ้ ศาสนทูตของอัลลอฮฺ แท้จริง ท่านนั้นเป็นผู้ที่ฉันรักมากกว่าตัวของฉันเสียอีก ท่านคือผู้ที่ฉันรักมากกว่าครอบครัวและทรัพย์สินของฉันเสียอีก และท่านเป็นบุคคลที่ฉันรักมากกว่าบุตรของฉันเสียอีก และแท้จริง เมื่อฉันอยู่ที่บ้านของฉันจะคิดถึงท่านอยู่ตลอด จนฉันอดทนไม่ไหวอยากพบเจอกับท่านเหลือเกิน จนฉันได้มาเห็นหน้าท่าน แต่เมื่อฉันคิดถึงความตายของฉันและความตายของท่านแล้ว ฉันรู้ว่าเมื่อท่านเข้าสวรรค์ท่านก็จะถูกยกให้ไปพำนักอยู่กับบรรดาศาสนทูต และเมื่อฉันเข้าสวรรค์แล้วฉันเกรงว่าจะไม่สามารถพบเจอกับท่านอีก ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม (นิ่งสักครู่) ไม่ได้กล่าวตอบใดๆ กับชายคนดังกล่าว จนกระทั่งญิบรีลได้นำวะหฺยูมาประทาน อายะฮฺนี้คือ

﴿ وَمَن يُطِعِ ٱللَّهَ وَٱلرَّسُولَ فَأُوْلَٰٓئِكَ مَعَ ٱلَّذِينَ أَنۡعَمَ ٱللَّهُ عَلَيۡهِم مِّنَ ٱلنَّبِيِّ‍ۧنَ وَٱلصِّدِّيقِينَ وَٱلشُّهَدَآءِ وَٱلصَّٰلِحِينَۚ وَحَسُنَ أُوْلَٰٓئِكَ رَفِيقٗا 
ความว่า  “และผู้ใดที่ภักดีต่ออัลลอฮฺและศาสนทูตแล้ว ชนเหล่านี้จะอยู่ร่วมกับบรรดาผู้ที่อัลลอฮฺทรงโปรดปรานพวกเขา อันได้แก่บรรดานบี บรรดาศิดดีกีน (ผู้ที่ศรัทธาโดยดุษฎี) บรรดาชุฮะดาอ์(ผู้พลีชีพในหนทางของอัลลอฮฺ) และบรรดาผู้ที่ประพฤติดี และชนเหล่านี้แหละเป็นมิตรที่ดียิ่งแล้ว” (อัน-นิสาอ์ : 69)


>>>>
สรุปคือ รักนบี ต้องเชื่อฟังอัลลอฮและรอซูล  การเชื่อฟังอัลลอฮและรอซูล ก็คือ การปฏิบัติตามอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮนั้นเอง

........... 
ดู อัล-มุอฺญัม อัศ-เศาะฆีรฺ ของ อัฏ-ฏ็อบบะรอนีย์ (1/26) อัล-ฮัยษะมีย์ได้กล่าวในหนังสือ มัจญ์มะอฺ อัซ-ซะวาอิด (7/7) ว่า สายรายงานของหะดีษนี้ทั้งหมดเป็นสายรายงานที่เศาะฮีหฺ ยกเว้นอับดุลลอฮฺ บิน อิมรอน และมีหะดีษที่เป็นชาฮิด (มาสนับสนุน) จากอิบนุอับบาส ในหนังสือมัจญ์มะอฺ อัซ-ซะวาอิด (7/7) แต่ในสายรายงานนี้มีผู้รายงานที่ชื่อ อะฏออ์ บิน อัส-สาอิบ เป็นบุคคลที่ความจำเลอะเลือน ท่านชัยคฺ มุกบิล อัล-วาดะอีย์ กล่าวในหนังสือ เศาะฮีหฺ อัล-มุสนัด มิน อัสบาบ อัน-นุซูล (70-71) ได้กล่าวว่า หะดีษนี้อบูนุอัยมฺได้บันทึกไว้ในหนังสือ อัล-หิลยะฮฺ (4/240) , (8/125) และอัล-วาหิดีย์ได้บันทึกด้วยสายรางานนี้ในหนังสือ อัสบาบ อัน-นุซูล อิหม่ามอัช-เชากานีย์ กล่าวว่า อัล-มักดิสีย์ได้ระบุว่าหะดีษนี้เป็นหะดีษหะสัน และมีชะวาฮิด (มาสนับสนุน) ดังปรากฏในหนังสือตัฟสีรฺ อิบนุ 
อัล-มักดิสีย์ได้ระบุว่าหะดีษนี้เป็นหะดีษหะสัน และมีชะวาฮิด (มาสนับสนุน) ดังปรากฏในหนังสือตัฟสีรฺ อิบนุ กะษีรฺ (1/523) จึงทำให้สายรายงานนี้มีน้ำหนักมากขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น