ตรรกวิบัติบอกว่าเสียงอัลลอฮคือมัคลูค
ตาชั่ง พิทักษ์ความยุติธรรม • มีเพื่อนร่วมกัน 83 คน
อัลลอฮมีซีฟัตกาลามคือกาลามนัฟซี อัลลอฮมีคำพูดแต่เดิมที่อัลลอฮคือกาลามนัฟซานีย์... เมื่อกาลามได้ออกมา ณ เหตุการณ์หนึ่ง กาลามนั้นคือกาลามลัฟซี ซึ่งเป็นเสียงนั้น คือมัคโลก
สรุปกาลามที่กอดีมนั้นไม่ใช่เสียง
ตาชั่ง พิทักษ์ความยุติธรรม • มีเพื่อนร่วมกัน 83 คน
ส่วนกาลามที่เป็นเสียงและอักษรนั้นคือมัคโลก.
ตาชั่ง พิทักษ์ความยุติธรรม • มีเพื่อนร่วมกัน 83 คน
ฉะนั้น กาลามที่เป็นเสียงนั้นคือมักโลกที่พระองค์สร้างให้เป็นเสียงและอักษร
@@@@@@@
ชี้แจง
ข้างต้นชี้ให้เห็นว่า การใช้ตรรกทางปัญญาตีกรอบคุณลักษณะของอัลลอฮตามอารมณ์นั้น คือ ความวิบัติ ถึงขนาด กำหนดอะกีดะฮขึ้นมาใหม่ว่า “คำพูดอัลลอฮกอเด็ม แต่เสียงอัลลอฮเป็นสิ่งถูกสร้างขึ้นมาใหม่(มัคลูค) –วัลอิยาซุบิลละฮ
ขอเรียนว่า ตัวตน(ซาต)ของอัลลอฮนั้นทรงมีมาแต่เดิม คุณลักษณะของซาต คือ กาลาม (ทรงพูด)นั้น ย่อมเป็นสิ่งที่มีมาแต่เดิมคู่กับซาต พระองค์จะทรงตรัสตามที่ทรงประสงค์ พระองค์ตรัสว่า
إِنَّمَا أَمْرُهُ إِذَا أَرَادَ شَيْئًا أَنْ يَقُولَ لَهُ كُنْ فَيَكُونُ
แท้จริงพระบัญชาของพระองค์ เมื่อทรงประสงค์สิ่งใด พระองค์ก็จะตรัสแก่มันว่า “จงเป็น” แล้วมันก็จะเป็นขึ้นมา- 82
อิบนุตัยมียะฮ(ร.ฮ)กล่าวว่า
" وأتباع السلف يقولون : إن كلام الله قديم ، أي : لم يزل متكلما إذا شاء ، لا يقولون : إن نفس الكلمة المعينة قديمة كندائه لموسى ونحو ذلك .
อัลลอฮมีซีฟัตกาลามคือกาลามนัฟซี อัลลอฮมีคำพูดแต่เดิมที่อัลลอฮคือกาลามนัฟซานีย์... เมื่อกาลามได้ออกมา ณ เหตุการณ์หนึ่ง กาลามนั้นคือกาลามลัฟซี ซึ่งเป็นเสียงนั้น คือมัคโลก
สรุปกาลามที่กอดีมนั้นไม่ใช่เสียง
ตาชั่ง พิทักษ์ความยุติธรรม • มีเพื่อนร่วมกัน 83 คน
ส่วนกาลามที่เป็นเสียงและอักษรนั้นคือมัคโลก.
ตาชั่ง พิทักษ์ความยุติธรรม • มีเพื่อนร่วมกัน 83 คน
ฉะนั้น กาลามที่เป็นเสียงนั้นคือมักโลกที่พระองค์สร้างให้เป็นเสียงและอักษร
@@@@@@@
ชี้แจง
ข้างต้นชี้ให้เห็นว่า การใช้ตรรกทางปัญญาตีกรอบคุณลักษณะของอัลลอฮตามอารมณ์นั้น คือ ความวิบัติ ถึงขนาด กำหนดอะกีดะฮขึ้นมาใหม่ว่า “คำพูดอัลลอฮกอเด็ม แต่เสียงอัลลอฮเป็นสิ่งถูกสร้างขึ้นมาใหม่(มัคลูค) –วัลอิยาซุบิลละฮ
ขอเรียนว่า ตัวตน(ซาต)ของอัลลอฮนั้นทรงมีมาแต่เดิม คุณลักษณะของซาต คือ กาลาม (ทรงพูด)นั้น ย่อมเป็นสิ่งที่มีมาแต่เดิมคู่กับซาต พระองค์จะทรงตรัสตามที่ทรงประสงค์ พระองค์ตรัสว่า
إِنَّمَا أَمْرُهُ إِذَا أَرَادَ شَيْئًا أَنْ يَقُولَ لَهُ كُنْ فَيَكُونُ
แท้จริงพระบัญชาของพระองค์ เมื่อทรงประสงค์สิ่งใด พระองค์ก็จะตรัสแก่มันว่า “จงเป็น” แล้วมันก็จะเป็นขึ้นมา- 82
อิบนุตัยมียะฮ(ร.ฮ)กล่าวว่า
" وأتباع السلف يقولون : إن كلام الله قديم ، أي : لم يزل متكلما إذا شاء ، لا يقولون : إن نفس الكلمة المعينة قديمة كندائه لموسى ونحو ذلك .
บรรดาผูที่ปฏิบัติตามสะลัฟ พวกเขากล่าวว่า “แท้จริง กาลามุลลอฮนั้น ทรงมีมาแต่เดิม หมายถึง ทรงเป็นผู้ตรัสเสมอ เมื่อพระองค์พระสงค์ และพวกเขาจะไม่กล่าวว่า “ แท้จริง คำที่ถูกเจาะจงนั้น ทรงมีมาแต่เดิม ดังการเรียกของพระองค์ แก่มูซา และในทำนองดังกล่าวนั้น – มัจญมัวะอัลฟะตาวา 17 /50
อัลอัศบะฮานีย์ ปราชญ์มัซฮับชาฟิอีย์ (ฮ.ศ 457 -535 ) กล่าวว่า
อัลอัศบะฮานีย์ ปราชญ์มัซฮับชาฟิอีย์ (ฮ.ศ 457 -535 ) กล่าวว่า
كلام اللَّه تعالى مدرك مسموع بحاسة الأذن ، فتارة يسمع من اللَّه تعالى ، وتارة يسمع من التالي ، فالذي يسمعه من اللَّه تعالى من يتولى خطابه بنفسه بلا واسطة ، ولا ترجمان كمُحَمَّد صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ حين كلمه ليلة المعراج ، وموسى عليه السلام عَلَى جبل الطور ، ومن عدا ذلك
، فإِنما يسمع كلام اللَّه تعالى عَلَى الحقيقة من التالي خلافا لأصحاب الأشعري فِي قولهم يسمعه من اللَّه عند تلاوة التالي
، فإِنما يسمع كلام اللَّه تعالى عَلَى الحقيقة من التالي خلافا لأصحاب الأشعري فِي قولهم يسمعه من اللَّه عند تلاوة التالي
คำพูดของอัลลอฮตะอาลา เป็นสิ่งที่ถูกรับรู้ ที่ถูกได้ยิน ด้วยประสาทหู บางครั้ง ถูกได้ยิน จากอัลลอฮตะอาลา (โดยตรง) และบางครั้งถูกได้ยินจากผู้อ่าน ดังนั้นผู้ที่ได้ยินมันจากอัลลอฮ ตะอาลา คือผู้ที่ได้สนทนากับพระองค์ด้วยตัวเขาเอง โดยไม่มีสือกลาง และไม่มีล่าม เช่น มุหัมหมัด ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เมื่อ พระองค์ได้ตรัสกับท่านในคือ เมียะรอจ และมูซา อะลัยฮิสสลาม บน ภูเขาฏูร และบุคคลอื่นจากดังกล่าวนั้น เพราะแท้จริง เขาได้ยินคำพูดอัลลอฮตะอาลา บนคำพูดจริงๆ จากผู้อ่าน ต่างกับบรรดาสานุศิษย์ของอัชอะรีย์ ในทัศนะของพวกเขา มัน(กะลามุลลอฮ)ถูกได้ยิน จากอัลลอฮขณะทีผู้อ่านอ่าน -อัลหุจญะฮ ฟี บะยานิล มะฮัจญะฮ เล่ม 1 หน้า 302
............
ท่านนบี ศอ็ลฯ กล่าวว่า
مَا مِنْكُمْ مِنْ أَحَدٍ إِلاَّ سَيُكَلِّمُهُ رَبُّهُ لَيْسَ بَيْنَهُ وَبَيْنَهُ تُرْجُمَانُ
ไม่มีคนใดในหมู่พวกท่าน นอกจาก พระเจ้าของเขาจะตรัสกับเขา (ในวันอาคีเราะฮ) ไม่มีล่าม ระหว่างเขาและระหว่างพระองค์ –มุตตะฟักอะลัยฮ
.........
อัลลอฮตรัสกับชาวสวรรค์โดยตรง การพูดของอัลลอฮคือเสียงที่ได้ยินและเข้าใจไม่ต้องมีล่าม แต่นาย ฮัมดี สุหลง หรือ ตาชั่ง พิทักษ์ความยุติธรรม บอกว่า อัลลอฮสร้างเสียงใส่ไว้ในสถานที่ก่อน ตกลงแกเชื่อว่า อัลลอฮพูด แต่เสียงถูกสร้างขึ้นมาใส่สถานที่ใดๆแล้วเปิดให้มนุษย์ฟังเสียง –นะอูซุบิลละฮ
............
ท่านนบี ศอ็ลฯ กล่าวว่า
مَا مِنْكُمْ مِنْ أَحَدٍ إِلاَّ سَيُكَلِّمُهُ رَبُّهُ لَيْسَ بَيْنَهُ وَبَيْنَهُ تُرْجُمَانُ
ไม่มีคนใดในหมู่พวกท่าน นอกจาก พระเจ้าของเขาจะตรัสกับเขา (ในวันอาคีเราะฮ) ไม่มีล่าม ระหว่างเขาและระหว่างพระองค์ –มุตตะฟักอะลัยฮ
.........
อัลลอฮตรัสกับชาวสวรรค์โดยตรง การพูดของอัลลอฮคือเสียงที่ได้ยินและเข้าใจไม่ต้องมีล่าม แต่นาย ฮัมดี สุหลง หรือ ตาชั่ง พิทักษ์ความยุติธรรม บอกว่า อัลลอฮสร้างเสียงใส่ไว้ในสถานที่ก่อน ตกลงแกเชื่อว่า อัลลอฮพูด แต่เสียงถูกสร้างขึ้นมาใส่สถานที่ใดๆแล้วเปิดให้มนุษย์ฟังเสียง –นะอูซุบิลละฮ
อัลลอฮตาอาลา
وَمَا كَانَ لِبَشَرٍ أَن يُكَلِّمَهُ اللَّهُ إِلَّا وَحْيًا أَوْ مِن وَرَاءِ حِجَابٍ أَوْ يُرْسِلَ رَسُولًا فَيُوحِيَ بِإِذْنِهِ مَا يَشَاءُ ۚ إِنَّهُ عَلِيٌّ حَكِيمٌ -
และไม่เป็นการบังควรแก่มนุษย์คนใดที่จะให้อัลลอฮฺตรัสแก่เขาเว้นแต่โดยทางวะฮียฺ หรือโดยทางเบื้องหลังม่าน หรือโดยที่พระองค์จะส่งทูตมา แล้วเขา (มะลัก) ก็จะนำวะฮียฺมาตามที่พระองค์ทรงประสงค์โดยบัญชาของพระองค์ แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงสูงส่งผู้ทรงปรีชาญาณ-อัชชูรอ/51
อิบนุญะรีร (ร.ฮ)ปราชญ์นักตัฟสีรยุคสะลัฟ อธิบายว่า
อิบนุญะรีร (ร.ฮ)ปราชญ์นักตัฟสีรยุคสะลัฟ อธิบายว่า
يَقُولُ - تَعَالَى ذِكْرُهُ - : وَمَا يَنْبَغِي لِبَشَرٍ مِنْ بَنِي آدَمَ أَنْ يُكَلِّمَهُ رَبُّهُ إِلَّا وَحَيًّا يُوحِي اللَّهُ إِلَيْهِ كَيْفَ شَاءَ ، أَوْ إِلْهَامًا وَإِمَّا غَيْرَهُ ( أَوْ مِنْ وَرَاءِ حِجَابٍ ) يَقُولُ : أَوْ يُكَلِّمُهُ بِحَيْثُ يَسْمَعُ كَلَامَهُ وَلَا يَرَاهُ ، كَمَا كَلَّمَ مُوسَى نَبِيَّهُ - صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ
อัลลลอฮตาอาลาตรัสว่า “ไม่เป็นการบังควรแก่มนุษย์จากลูกหลานอาดัม ที่จะให้อัลลอฮฺตรัสแก่เขาเว้นแต่โดยทางวะฮียฺ ที่อัลลอฮวะหยู แก่เขา ตามที่พระองค์ประสงค์ หรือ การอิลฮาม (การดลใจ)และบางทีอื่นจากมัน (คือคำตรัสพระองค์ที่ว่า (หรือโดยทางเบื้องหลังม่าน) กล่าวคือ หรือ ทรงตรัสกับเขาโดยเขาได้ยินคำพูดของพระองค์ โดยที่เขาไม่เห็นพระองค์ ดังเช่น พระองค์ได้ตรัสกับมุซา ,นบีของพระองค์ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ..ดูตัฟสีรอัฏฏอบรีย์ เล่ม 21 หน้า 559

.......
อิบนุญะรีร (ร.ฮ) ได้บอกและยืนยันว่า อัลลอฮพูดกับนบีมูซา โดยที่นบีมูซา ได้ยินคำพูดของอัลลอฮ โดยที่นบีมูซา ไม่เห็นพระองค์
คงไม่มีใครคิดแหวกแนวว่า ได้ยินเสียงอัลลอฮที่เป็นมัคลูค ที่ถูกสร้างใส่ไว้ในสถานที่ อย่างท่านครู ฮัมดี สุหลง หรือ ตาชั่ง พิทักษ์ความยุติธรรม
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
11/3/60
อะสัน หมัดอะดั้ม
11/3/60
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น