วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ไม่เรียนสิฟัต20 กลายเป็นวะฮบีย์จริงหรือ










ไม่เรียนสิฟัต20 กลายเป็นวะฮบีย์จริงหรือ
ตาชั่ง พิทักษ์ความยุติธรรม
4 ชม.
ขออนุญาติสอบถามหน่อยครับ เป็นเพราะเหตุใดคนที่ถูกเรียกว่าวะหบีถึงไม่อยู่บนแนวทางอาชาอีรอฮและมาตูรีดียะห์ #ขอเหตุผล เช่น 
1.ไม่เคยเรียนซีฟัต 13 หรือ 20 มาก่อน
2.เคยเรียนซีฟัต 13 หรือ 20 มาก่อนแต่ไม่เข้าใจ แล้วพอมาเรียนอีกที เขาบอกให้ตามกรุอานและฮาดิษ.
@@@
การเรียนสิฟัต 20 มันจำเป็นถึงขนาดถ้าไม่เรียน ถือว่าเป็นวะฮบีย์ ใครกำหนดกฎนี้ แน่นอน ผู้ที่กำหนดกฏนี้คือ พวกแนวคิดอะฮลุลกาลาม
มาดูที่ท่านอิหม่ามนะวาวีย์ กล่าวไว้ ซึ่งต่างกับความคิดของคนบางคนที่เอาสิฟัตยี่สิบ มาหุกุมว่า ต้องเรียนสิฟัตยี่สิบ ไม่อย่างนั้นก็กลายเป็นวะฮบีย์
หลังจากที่ อิหม่ามนะวาวีย์ ยืนยันว่า คนที่จะเป็นผู้ศรัทธานั้น เมื่อเขายึดมั่นต่อศาสนาอิสลาม อย่างมั่นคง
เขาก็คือผู้ศรัทธา ไม่จำเป็นจะต้องเรียนหลักฐานของบรรดานักกะลาม ซึ่งเป็นหลักฐานทางปัญญา ใช้เหตุผลอธิบายเตาฮีด
คือเมื่อิหม่ามนะวาวีย์ อ้างถึงหะดิษที่ว่า
أمرت أن أقاتل الناس حتى يشهدوا أن لا إله إلا الله، ويؤمنوا بي وبما جئت به.
ฉันถูกสั่งให้ทำสู้รับกับมนุษย์ จนกว่าพวกเขาจะปฏิญานว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ และ พวกเขาศรัทธาด้วยสิ่งที่ฉันนำมันมา .. รายงานโดยมุสลิม เป็นหะดิษรายงานจากอบีฮุรัยเราะฮ
แล้วอิหม่ามนะวาวีย์กล่าวว่า
وفيه دلالة ظاهرة لمذهب المحققين والجماهير من السلف والخلف، أن الإنسان إذا اعتقد دين الإسلام اعتقادا جازما لا تردد فيه كفاه ذلك، وهو مؤمن من الموحدين، ولا يجب عليه تعلم أدلة المتكلمين ومعرفة الله تعالى بها،
และในหะดิษ คือหลักฐานอันชัดเจน สำหรับมัซฮับ(แนวทาง)ของบรรดาผู้ที่ได้รับการรับรอง และบรรดาส่วนใหญ่จาก ปราชญสะลัฟและเคาะลัฟ ว่า แท้จริง บรรดามนุษย์นั้น เมื่อเขาเชื่อมั่นในศาสนาอิสลาม เป็นการเชื่อมั่นอย่างแน่นแฟ้น ไม่มีการสงสัยใดๆ ในมัน ,ดังกล่าวนั้นก็พอเพียงแก่เขา และเขาคือผู้ศรัทธา คนหนึ่งจากบรรดาผู้ศรัทธาในเอกภาพของพระเจ้า(อัลมุวะหหิดีน) และไม่จำเป็นแก่เขา จะต้องรู้หลักฐานของบรรดานักวิภาษวิทยา (อะฮลุลกาลาม) และการรู้จักอัลลอฮตาอาลาด้วยมัน(ด้วยหลักฐานทางปัญญาของอะฮลุลกาลาม) -
...............
ข้างต้นชัดเจนว่า อิหม่ามนะวาวีย์บอกว่า ไม่จำเป็นต้องเรียนหลักฐานของอะฮลุลกาลาม และรู้จักอัลลอฮด้วยอะฮลุลกาลาม ซึ่ง สิฟาต 20 คือแนวทางการเรียนแนวอะฮลุลกาลาม
..........
อิหม่ามนะวาวีย์กล่าวต่อไปว่า
، خِلَافًا لِمَنْ أَوْجَبَ ذَلِكَ وَجَعَلَهُ شَرْطًا فِي كَوْنِهِ مِنْ أَهْلِ الْقِبْلَةِ ، وَزَعَمَ أَنَّهُ لَا يَكُونُ لَهُ حُكْمُ الْمُسْلِمِينَ إِلَّا بِهِ . وَهَذَا الْمَذْهَبُ هُوَ قَوْلُ كَثِيرٍ مِنَ الْمُعْتَزِلَةِ وَبَعْضِ أَصْحَابِنَا الْمُتَكَلِّمِينَ . وَهُوَ خَطَأٌ
แตกต่าง กับผู้ที่บอกว่า ดังกล่าวนั้น (หมายถึงเรียนหลักฐานของนักกะลาม) เป็นวาญิบ และเขาได้กำหนดให้เป็น เงื่อนไข ในการเป็นมุสลิม (อะฮลุลกิบลัต) และเขาเข้าใจว่า จะไม่ได้รับหุกุมว่าเป็นมุสลิม นอกจากจะต้องรู้หลักฐานของนักกะลาม และนี้คือ มัซฮับ มันคือ ทัศนะของพวกมุอตะซิละฮส่วนมากและส่วนหนึ่งของบรรดาสหายของเรา(หมายถึงอุลามาอฺมัซฮับชาฟิอีบางส่วน) ที่เป็นบรรดานักวิชาการกะลาม(นักวิภาษวิทยา) และมัน คือ ทัศนะที่ผิดอย่างชัดเจน- ดูชัรหฺมุสลิม 1/210 -211
.......
เพราะฉะนั้น ใครบอกว่าต้องเรียนสิฟาต 20 ตามแนวอะฮลุลกาลาม จึงจะมีอะกีดะฮถูกต้อง จึงเป็น ความเข้าใจที่ผิดพลาด และเป็นทัศนะของพวกมุอตะซิละฮส่วนมาก
والله اعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
8/11/59

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น