วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ทัศนะของปราชญ์ที่ไม่อนุญาตให้ใช้หะดิษเฎาะอีฟเป็นหลักฐาน








ทัศนะของปราชญ์ที่ไม่อนุญาตให้ใช้หะดิษเฎาะอีฟเป็นหลักฐาน
นักวิชาการต่อไปนี้คือผู้ที่ไม่อนุญาตให้นำหะดิษเฎาะอีฟมาใช้เป็นหลักฐานโดยไม่มีเงื่อนไข ไม่ว่าในเรื่องบรรดาหุกุม(الأحكام) ,เรื่องอะกีดะฮ(العقائد)และในเรื่องคุณค่าของอามั้ล(فضائل الأعمال)ก็ตาม ได้แก่
1. الإمام البخاري
2. والإمام مسلم
3. والإمام أبو زكريا النيسابوري
4. والإمام أبو زرعة الرازي
5. أبو حاتم الرازي
6. والإمام إبن أبي حاتم الرازي
7. والإمام إبن حِبان
8. والإمام أبو سليمان الخطابي
9. والإمام إبن حزم الظاهري
10. والإمام أبو بكر بن العربي
11. وشيخ الإسلام إبن تيمية
12. والإمام أبو شامة المقدسي
13. والإمام جلال الدين الدواني
14. والإمام الشوكاني
15. العلامة جمال الدين القاسمي
16. والعلامة حسن صديق خان
17. والمُحدث أحمد شاكر
18. والمحدث الألباني
19. والمحدث الألباني
อิหม่ามมุสลิม ได้กล่าวไว้ในบทนำของเศาะเฮียะมุสลิมว่า
وَإِنَّمَا أَلْزَمُوا أَنْفُسَهُمُ الْكَشْفَ عَنْ مَعَايِبِ رُوَاةِ الْحَدِيثِ ، وَنَاقِلِي الأَخْبَارِ ، وَأَفْتَوْا بِذَلِكَ حِينَ سُئِلُوا لِمَا فِيهِ مِنْ عَظِيمِ الْخَطَرِ ، إِذْ الأَخْبَارُ فِي أَمْرِ الدِّينِ ، إِنَّمَا تَأْتِي بِتَحْلِيلٍ ، أَوْ تَحْرِيمٍ ، أَوْ أَمْرٍ ، أَوْ نَهْيٍ ، أَوْ تَرْغِيبٍ ، أَوْ تَرْهِيبٍ ،
และความจริงพวกเขา(เหล่านักปราชญ์) ได้บังคับตัวของพวกเขาเอง เพื่อเปิดเผยบรรดความบกพร่องของนักรายงานหะดิษ ,บรรดาผู้คัดลอกบรรดาเคาะบัร(หะดิษ) และพวกเขาได้ฟัตวาด้วยดังกล่าว เมื่อพวกเขาถูกถาม เพราะสิ่งที่อยู่ในนั้น เป็นส่วนหนึ่งจากอันตรายอันใหญ่หลวง เพราะบรรดาการบอกเล่า(บรรดาหะดิษ) ในเรื่องศาสนานั้น ความจริง มันนำมาด้วย เรื่องหะลาล ,หะรอม, คำสั่งใช้,คำสั่งห้าม ,การส่งเสริมให้ทำดี(ตัรฆีบ)และการให้ระวังสิ่งไม่ดี(ตัรฮีบ) – เศาะเฮียะมุสลิม เล่ม 1 หน้า 28
อบูบักร บิน อัลอะเราะบีย์ กล่าวว่า
لا يجوز العمل بالحديث الضعيف مُطلقاً لا في فضائل الأعمال ولا في غيرها“
ไม่อนุญาตให้ปฏิบัติตามหะดิษเฏาะอีฟ โดยสิ้นเชิง ไม่อนุญาตในเรื่อง ฟะฎออิลุ้ลอะอฺม้าล (คุณค่าอะมั้ล)และไม่อนุญาตในเรื่องอื่นจากนั้น – ตัดรีบุดรอวีย์ เล่ม 1 หน้า 252
ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
كفى بالمرء كذبا أن يحدث بكل ما سمع
พอเพียงแล้วที่จะได้ชื่อว่า เป็นคนโกหก คือ การที่เขา รายงานด้วยทุกสิ่งที่ได้ยินมา ? รายงานโดยมุสลิม
และอิบนุหิบบาน (ร.ฮ) ได้กล่าวในหนังสือของท่านว่า
في هذا الخبر زجر للمرء أن يحدث بكل ما سمع حتى يعلم علم اليقين صحته
ในหะดิษนี้ คือ การสัมทับ(เตื่อนให้ระวัง) แก่บุคคล ว่า อย่ารายงานทุกสิ่งที่เขาได้ยินมา จนกว่าจะรู้อย่างแน่ใจว่า มันถูกต้อง(เศาะเฮียะ) – อัฎฎอะฟาอฺ 1/9
ท่านอัลลามะฮ อะหมัด ชากิร กล่าวว่า
لا فرقَ بين الأحكام وبين فضائل الأعمال ونحوها في عدم الأخذ بالرواية الضعيفة ، بل لا حجةَ لأحدٍ إلا بما صحَّ عن رسول الله صلى الله عليه وسلم من حديث صحيحٍ أو حسنٍ
ไม่มีการแบ่งแยก ระหว่างเรื่องหุกุม (ว่าด้วยกฎข้อบังคับของศาสนา) และ ระหว่าง เรื่อง ความประเสริฐ ของบรรดาการงาน(ฟะฏออิลุ้ลอะอฺม้าล) และในทำนองนั้น ในการที่ไม่อนุญาตให้ยึดเอารายงานที่เฏาะอีฟ แต่ตรงกันข้าม ไม่อนุญาตให้บุคคลใด อ้างอิงหลักฐาน นอกจากด้วย สิ่งที่เศาะเฮียะ จากท่านรซูลุ้ลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จากหะดิษเศาะเฮียะ หรือ หะดิษหะซัน- - อัลบาอิษุลหะษีษ เล่ม 1 หน้า 278
.........
การนำหะดิษมาอ้างและมักง่าย โดยไม่สนใจว่า เศาะเฮียะหรือเฎาะอีฟ ระวัง สิ่งที่นบีเตือนเอาไว้ และแนวทางที่ปลอดภัยที่สุดคือ ไม่นำหะดิษเฎาะอีฟมาอ้างอิงเป็นหลักฐานโดยสิ้นเชิง
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
8/11/59

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น