อายาตเกี่ยวกับคุณลักษณะของอัลลอฮจัดเจน ไม่ต้องตีความ
ถ้าบรรดาอายาตสิฟาต หรืออายะฮอัลกุรอ่าน เป็นสิ่งที่คลุมเครือ จำเป็นต้องตีความ(ตะวีล) คนแรกที่ตีความ เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานแก่อุมมะฮคือนบี ศอ็ลฯ แต่เพราะอัลกุรอ่านั้นชัดเจนแล้วโดยเฉพาะเรื่องอะกีดะฮชัดเจนเพราะเป็นเรื่องสำคัญ และอัลลอฮ ได้ให้ข้อสรุปมาแล้วคือไม่ว่าสิฟัตใดๆเกี่ยวกับอัลลอฮ ให้บ่าวของพระองค์ระลึกอยู่เสมอว่า
ليس كمثله شىء، وهو السميع البصير
“พระองค์ไม่มีสิ่งใดที่เหมือน เหมือนกับพระองค์ และพระองค์ทรงได้ยินยิ่งและทรงเห็นยิ่ง”
ไม่มีแม้สักอักษรเดียวจากอัลกุรอ่านและไม่มีสักอักษรเดียวจากอัสสุนนะฮ สั่งให้ตีความอายาตสิฟาต
อิบนุกอ็ยยิม(ร.ฮ)กล่าวว่า
نَازَعَ النَّاسُ فِي كَثِيرٍ مِنَ الْأَحْكَامِ وَلَمْ يَتَنَازَعُوا فِي آيَاتِ الصِّفَاتِ وَأَخْبَارِهَا فِي مَوْضِعٍ وَاحِدٍ بَلِ اتَّفَقَ الصَّحَابَةُ وَالتَّابِعُونَ عَلَى إِقْرَارِهَا وَإِمْرَارِهَا مَعَ فَهْمِ مَعَانِيهَا وَإِثْبَاتِ حَقَائِقِهَا
ليس كمثله شىء، وهو السميع البصير
“พระองค์ไม่มีสิ่งใดที่เหมือน เหมือนกับพระองค์ และพระองค์ทรงได้ยินยิ่งและทรงเห็นยิ่ง”
ไม่มีแม้สักอักษรเดียวจากอัลกุรอ่านและไม่มีสักอักษรเดียวจากอัสสุนนะฮ สั่งให้ตีความอายาตสิฟาต
อิบนุกอ็ยยิม(ร.ฮ)กล่าวว่า
نَازَعَ النَّاسُ فِي كَثِيرٍ مِنَ الْأَحْكَامِ وَلَمْ يَتَنَازَعُوا فِي آيَاتِ الصِّفَاتِ وَأَخْبَارِهَا فِي مَوْضِعٍ وَاحِدٍ بَلِ اتَّفَقَ الصَّحَابَةُ وَالتَّابِعُونَ عَلَى إِقْرَارِهَا وَإِمْرَارِهَا مَعَ فَهْمِ مَعَانِيهَا وَإِثْبَاتِ حَقَائِقِهَا
บรรดาผู้คน ขัดแย้งกันในส่วนมากจากบรรกาหุกุมต่างๆ และพวกเขาไม่ขัดแย้งกัน ในบรรดาอายาตสิฟาต และบรรดาการบอกเล่าของมัน(หมายถึงหะดิษสิฟาต) อยู่ในที่เดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้น เหล่าเศาะหาบะฮ และบรรดาตาบิอูน เห็นฟ้องกัน บนการยอมรับมัน และปล่อยมัน ให้ผ่านไป พร้อมกับเข้าใจบรรดาความหมายของมัน และยืนยัน ความหมายจริงของมัน ,- ดูมุคตะศอรอัศเศาะวาอิกอัลมุรสะละฮ /15 และกิตาบอัลอะรัช 1/190 -
อิหม่ามอัซซะฮะบีย์ ได้รายงานคำพูดอัลคิฏอบีย์ (ฮ.ศ 319-388) ปราชญ์ยุคสะลัฟว่า
อิหม่ามอัซซะฮะบีย์ ได้รายงานคำพูดอัลคิฏอบีย์ (ฮ.ศ 319-388) ปราชญ์ยุคสะลัฟว่า
فأما ما سألت عنه من الكلام في الصفات وما جاء منها في الكتاب والسنن الصحيحة فإن مذهب السلف إثباتها وإجراؤها على ظاهرها ونفي الكيفية والتشبيه عنها وكذا نقل الإتفاق عن السلف في هذا الحافظ أبو بكر الخطيب ثم الحافظ أبو القاسم التيمي الأصبهاني وغيرهم
และสำหรับสิ่งที่ท่านถามเกี่ยวกับมัน จากการพูดในบรรดาสิฟาต(คุณลักษณะอัลลอฮ) และสิ่งที่มีมาจากมัน ในคัมภีร(อัลกุรอ่าน)และบรรดาสุนนะฮที่เศาะเฮียะ แท้จริง มัซฮับสะลัฟ คือ การยืนยันมัน(บรรดาสิฟาต) บนความหมายที่ปรากฏของมัน และปฏิเสธการถามถึงรูปแบบว่าเป็นอย่างไร และปฏิเสธการเปรียบเทียบการคล้ายคลึง (กับมัคลูค) (อิหม่ามอัซซะฮะบีย์กล่าวว่า )และดังกล่าวนั้น คือการเห็นฟ้องจากสะลัฟ ในเรื่องนี้ ที่รายงานโดย อัลหาฟิซ อบูบักร์ อัลเคาะฏีบ ต่อมา อัลหาฟิซ อบูลกอซิม อัตตัยมีย์ อัลอัศบะฮานีย์ และคนอื่นจากเขา - อัลอะลูว์ ลิลอะลียิลฆอฟฟาร 1/ 236
@@@@@
ขอให้ใช้หลักคิดง่ายๆคือ สิ่งที่ศาสนาสอนให้เป็นหลักความเชื่อนั้น ต้องรู้ความหมายในสิ่งที่เชื่อและ มันเป็นไปไม่ได้ที่ให้เชื่อสิ่งที่ห้ามไม่ให้รู้ความหมายในสิ่งที่เป็นหลักความเชื่อ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
21/11/59
@@@@@
ขอให้ใช้หลักคิดง่ายๆคือ สิ่งที่ศาสนาสอนให้เป็นหลักความเชื่อนั้น ต้องรู้ความหมายในสิ่งที่เชื่อและ มันเป็นไปไม่ได้ที่ให้เชื่อสิ่งที่ห้ามไม่ให้รู้ความหมายในสิ่งที่เป็นหลักความเชื่อ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
21/11/59
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น