หะดิษญารียะฮไม่เกี่ยวกับอะกีดะฮจริงหรือ
อับดุลเกาะฮฺฮ๊าร ภัทรสุขสิโรตม์
5 ชม. • Amphoe Muang Phitsanulok, เทศบาลนครพิษณุโลก
ความสับสน(มุดต้อริบ)ของหะดีสญารียะห์ ตอนที่ 9
ข้อมูลจาก @ Sukiman Tuanno
ฮาดิษญารียะห์ถูกใช้อิสติดลาลในหนังสืออัรรีซาละห์ ซึ่งเป็นที่รู้กันดี ว่าคือหนังสือฟิกฮฺ ประเด็นที่อิหม่ามชาฟีอียต้องการคือการปล่อยทาส เพราะฉะนั้นคำพูดที่อ้างถึง " ฟิสสามาอฺ "นั้น เพื่อเป็นการบอกว่านางนั้นเค้าได้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺแล้วเท่านั้น แล้วก็มาว่าด้วยเรื่องการปล่อยทาสต่อ แต่วัฮฮาบีจะเอาฮาดิษนี้มาใช้ในเรื่องอากีดะห์ เพื่อยืนยันว่า "อัลลอฮฺฟิสสามาอฺ" อันนี้มันไปอีกเรื่องเลยคือเรื่องอากีดะห์ ว่าด้วยซีฟัตของอัลลอฮฺ
แต่ที่อิหม่ามใช้ ก็ใช้สำหรับเพื่อยืนยันว่านางคนนั้นได้ศรัทธาแล้วต่ออัลลอฮฺ แค่นั้น เฮ๊ยย.. อิหม่ามชาฟีอียท่านเองก็รู้นั้นแหละว่าฮาดิษนี้อิฏฏิร๊อบ แต่สำหรับท่านแล้วสิ่งที่อิฏฏิร๊อบนั้น สายรายงานนี้ถือว่าซอฮีฮที่สุด ท่านก็เลยอิสติดลาลมาในเรื่องฟิกฮฺเท่านั้น อะเครนะ..
@@@@@@@
5 ชม. • Amphoe Muang Phitsanulok, เทศบาลนครพิษณุโลก
ความสับสน(มุดต้อริบ)ของหะดีสญารียะห์ ตอนที่ 9
ข้อมูลจาก @ Sukiman Tuanno
ฮาดิษญารียะห์ถูกใช้อิสติดลาลในหนังสืออัรรีซาละห์ ซึ่งเป็นที่รู้กันดี ว่าคือหนังสือฟิกฮฺ ประเด็นที่อิหม่ามชาฟีอียต้องการคือการปล่อยทาส เพราะฉะนั้นคำพูดที่อ้างถึง " ฟิสสามาอฺ "นั้น เพื่อเป็นการบอกว่านางนั้นเค้าได้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺแล้วเท่านั้น แล้วก็มาว่าด้วยเรื่องการปล่อยทาสต่อ แต่วัฮฮาบีจะเอาฮาดิษนี้มาใช้ในเรื่องอากีดะห์ เพื่อยืนยันว่า "อัลลอฮฺฟิสสามาอฺ" อันนี้มันไปอีกเรื่องเลยคือเรื่องอากีดะห์ ว่าด้วยซีฟัตของอัลลอฮฺ
แต่ที่อิหม่ามใช้ ก็ใช้สำหรับเพื่อยืนยันว่านางคนนั้นได้ศรัทธาแล้วต่ออัลลอฮฺ แค่นั้น เฮ๊ยย.. อิหม่ามชาฟีอียท่านเองก็รู้นั้นแหละว่าฮาดิษนี้อิฏฏิร๊อบ แต่สำหรับท่านแล้วสิ่งที่อิฏฏิร๊อบนั้น สายรายงานนี้ถือว่าซอฮีฮที่สุด ท่านก็เลยอิสติดลาลมาในเรื่องฟิกฮฺเท่านั้น อะเครนะ..
@@@@@@@
ชี้แจง
ข้างต้น เขาพยายามจะใช้ตรรกเบี่ยงเบนว่า หะดิษญารียะฮ วะฮบีย์เท่านั้นที่เอามาใช้เป็นหลักฐานเรื่องอะกีดะฮ –นะอูซุบิลละฮ โปรด ติดตามต่อไปนี้ว่า จริง หรือเท็จ.......
พี่น้องที่เคารพ
ขอเรียนว่า การพิจารณาว่าอายะฮหรือหะดิษเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง เขาไม่ได้พิจารณ์ที่การบรรจุของนักปราชญว่าบรรจุในหัวข้ออะไรในตำรา แต่เขาพิจารณาที่เนื้อหาว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไรบ้าง
ในหะดิษญารียะฮ ที่มีข้อความว่า
. فَقَالَ لَهَا : اَيْنَ اللهُ ؟ قَالَتْ : فِى السَّمَاءِ . قَالَ : مَنْ اَنَا ؟ قَالَتْ : اَنْتَ رَسُوْلُ اللهِ . قَالَ : اَعْتِقُهَا فِاِنَّهَا مُؤْمِنَة
แล้วรซูลุลลอฮได้กล่าวถามนางว่า “อัลลอฮอยู่ใหน? นางกล่าวตอบว่า “ อยู่บนฟากฟ้า” ท่านรซูลุลลอฮ กล่าวว่า “ฉันเป็นใคร? นางกล่าวว่า “ท่านคือ ศาสนทูตของอัลลอฮ ท่านรซูลุลลอฮ จึงกล่าวว่า “ปล่อยนางให้เป็นอิสระเถิด เพราะแท้จริงนางเป็นผู้หญิงที่ศรัทธา – รายงานโดย มุสลิม และอบีดาวูด
..........
หะดิษนี้ คำว่า “อัลลอฮอยู่บนฟ้า” มันมีเนื้อหาเกี่ยวกับความเชื่อ สิ่งที่เกี่ยวกับความเชื่อ เรียกว่า “อะกีดะฮ แปลว่า หลักความเชื่อ
อิหม่ามชาฟิอี (ร.ฮ)ได้กล่าวถึงหะดิษญารียะฮว่า
ข้างต้น เขาพยายามจะใช้ตรรกเบี่ยงเบนว่า หะดิษญารียะฮ วะฮบีย์เท่านั้นที่เอามาใช้เป็นหลักฐานเรื่องอะกีดะฮ –นะอูซุบิลละฮ โปรด ติดตามต่อไปนี้ว่า จริง หรือเท็จ.......
พี่น้องที่เคารพ
ขอเรียนว่า การพิจารณาว่าอายะฮหรือหะดิษเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง เขาไม่ได้พิจารณ์ที่การบรรจุของนักปราชญว่าบรรจุในหัวข้ออะไรในตำรา แต่เขาพิจารณาที่เนื้อหาว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไรบ้าง
ในหะดิษญารียะฮ ที่มีข้อความว่า
. فَقَالَ لَهَا : اَيْنَ اللهُ ؟ قَالَتْ : فِى السَّمَاءِ . قَالَ : مَنْ اَنَا ؟ قَالَتْ : اَنْتَ رَسُوْلُ اللهِ . قَالَ : اَعْتِقُهَا فِاِنَّهَا مُؤْمِنَة
แล้วรซูลุลลอฮได้กล่าวถามนางว่า “อัลลอฮอยู่ใหน? นางกล่าวตอบว่า “ อยู่บนฟากฟ้า” ท่านรซูลุลลอฮ กล่าวว่า “ฉันเป็นใคร? นางกล่าวว่า “ท่านคือ ศาสนทูตของอัลลอฮ ท่านรซูลุลลอฮ จึงกล่าวว่า “ปล่อยนางให้เป็นอิสระเถิด เพราะแท้จริงนางเป็นผู้หญิงที่ศรัทธา – รายงานโดย มุสลิม และอบีดาวูด
..........
หะดิษนี้ คำว่า “อัลลอฮอยู่บนฟ้า” มันมีเนื้อหาเกี่ยวกับความเชื่อ สิ่งที่เกี่ยวกับความเชื่อ เรียกว่า “อะกีดะฮ แปลว่า หลักความเชื่อ
อิหม่ามชาฟิอี (ร.ฮ)ได้กล่าวถึงหะดิษญารียะฮว่า
فلو آمن عبد به، ولم يؤمن برسوله: لم يقع عليه اسم كمال الإيمان أبداً، حتى يؤمن برسوله معه.
وهكذا سَنَّ رسولُ الله في كل من امتحنه للإيمان
ดังนั้นถ้า บ่าวคนใด ศรัทธาต่อพระองค์ และเขาไม่ศรัทธา ต่อรอซูลของพระองค์ ชื่อของความสมบูรณ์แห่งการศรัทธาจะไม่เกิดขึ้นสำหรับเขาตลอดไป จนกว่าเขาจะศรัทธาต่อรอซูลของพระองค์ พร้อมกับพระองค์ และ ในทำนองนี้ รซูลุลลอฮ ได้กำหนดแนวทาง(แบบอย่าง) ในทุกๆผู้ที่ท่านนบี ทดสอบการศรัทธา แก่เขา .....แล้วอิหม่ามชาฟิอีย์ก็อ้างหะดิษญารียะฮ -ดู – อัรริสาละฮ ของอิหม่ามชาฟิอี หน้า 75
.......
แล้วจะบอกว่า ไม่มีใครเอามาอ้างหลักฐานเรื่องอะกีดะฮได้อย่างไร
1. อิบนุอบีชัยบะอ ได้ระบุหะดิษญารียะฮไว้ในตำราของท่านชื่อ อัลอีหม่าม หน้า 36 หะดิษหมายเลข 84
2. อัดดาริมีย์ ระบุหะดิษญารียะฮ ไว้ ในตำราของท่านชื่อ อัรรอดอะลัลญะฮมียะฮ หน้า 39 และอัรรอ็ด อะลัลมะรีสีย์ เล่ม 1 หน้า 491
3. อิบนุคุซัยมะฮ ได้ระบุหะดิษญารียะฮ ไว้ในตำราของท่าน ชื่อ อัตเตาฮีด หน้า 1/279
4. อัลลาลุกอีย์ ได้ระบุหะดิษญารียะฮ ไว้ในตำราของท่าน ชื่อ ชัรหอุศูลิลเอียะติกอด เล่ม 3 หน้า 392
5. อัลบัยฮะกีย์ ได้ระบุหะดิษญารียะฮ ไว้ในตำราของท่าน ชื่อ อัลอัสมาอวัสสิฟาต หน้า 325 -326
6. อัซซะฮะบีย์ ได้ระบุหะดิษญารียะฮ ไว้ในตำราของท่าน ชื่อ อัลอุลูว์ หน้า 81
(หมายเหตุ หน้า หนังสือ แต่ละสำนักพิมพ์อาจจะไม่ตรงกันก็ได้ถูกดูที่สารบัญ)
.............
ที่กล่าวมาข้างต้น ล้วนเป็นตำราเกี่ยวกับอะกีดะฮ และได้นำหะดิษญารียะฮมาเป็นหลักฐาน แล้วอ้างว่า ไม่เกี่ยวกับอะกีดะฮได้อย่างไร จะดันทุรังไปถึงใหน ไม่มีทางไปและไม่มีวันที่จะทำให้หะดิษญารียะฮ เป็นหะดิษเฎาะอีฟ เพื่อปฏิเสธการอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮได้หรอก กลับตัวเถอะครับ ยังไม่สาย
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
14/11/59
وهكذا سَنَّ رسولُ الله في كل من امتحنه للإيمان
ดังนั้นถ้า บ่าวคนใด ศรัทธาต่อพระองค์ และเขาไม่ศรัทธา ต่อรอซูลของพระองค์ ชื่อของความสมบูรณ์แห่งการศรัทธาจะไม่เกิดขึ้นสำหรับเขาตลอดไป จนกว่าเขาจะศรัทธาต่อรอซูลของพระองค์ พร้อมกับพระองค์ และ ในทำนองนี้ รซูลุลลอฮ ได้กำหนดแนวทาง(แบบอย่าง) ในทุกๆผู้ที่ท่านนบี ทดสอบการศรัทธา แก่เขา .....แล้วอิหม่ามชาฟิอีย์ก็อ้างหะดิษญารียะฮ -ดู – อัรริสาละฮ ของอิหม่ามชาฟิอี หน้า 75
.......
แล้วจะบอกว่า ไม่มีใครเอามาอ้างหลักฐานเรื่องอะกีดะฮได้อย่างไร
1. อิบนุอบีชัยบะอ ได้ระบุหะดิษญารียะฮไว้ในตำราของท่านชื่อ อัลอีหม่าม หน้า 36 หะดิษหมายเลข 84
2. อัดดาริมีย์ ระบุหะดิษญารียะฮ ไว้ ในตำราของท่านชื่อ อัรรอดอะลัลญะฮมียะฮ หน้า 39 และอัรรอ็ด อะลัลมะรีสีย์ เล่ม 1 หน้า 491
3. อิบนุคุซัยมะฮ ได้ระบุหะดิษญารียะฮ ไว้ในตำราของท่าน ชื่อ อัตเตาฮีด หน้า 1/279
4. อัลลาลุกอีย์ ได้ระบุหะดิษญารียะฮ ไว้ในตำราของท่าน ชื่อ ชัรหอุศูลิลเอียะติกอด เล่ม 3 หน้า 392
5. อัลบัยฮะกีย์ ได้ระบุหะดิษญารียะฮ ไว้ในตำราของท่าน ชื่อ อัลอัสมาอวัสสิฟาต หน้า 325 -326
6. อัซซะฮะบีย์ ได้ระบุหะดิษญารียะฮ ไว้ในตำราของท่าน ชื่อ อัลอุลูว์ หน้า 81
(หมายเหตุ หน้า หนังสือ แต่ละสำนักพิมพ์อาจจะไม่ตรงกันก็ได้ถูกดูที่สารบัญ)
.............
ที่กล่าวมาข้างต้น ล้วนเป็นตำราเกี่ยวกับอะกีดะฮ และได้นำหะดิษญารียะฮมาเป็นหลักฐาน แล้วอ้างว่า ไม่เกี่ยวกับอะกีดะฮได้อย่างไร จะดันทุรังไปถึงใหน ไม่มีทางไปและไม่มีวันที่จะทำให้หะดิษญารียะฮ เป็นหะดิษเฎาะอีฟ เพื่อปฏิเสธการอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮได้หรอก กลับตัวเถอะครับ ยังไม่สาย
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
14/11/59
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น