วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เมื่อพบความจริงแล้วรับไม่ได้ ด่าทอตีโพยตีพายแล้วสาปแช่ง





เมื่อพบความจริงแล้วรับไม่ได้ ด่าทอตีโพยตีพายแล้วสาปแช่ง
ฮาซัน พงศ์อัศวธาดา · มีเพื่อนร่วมกัน 78 คน
เวาะเอ้ยยย ตายเถอะ จะไม่ได้เป็นภาระของลุกหลาน
ฮาซัน พงศ์อัศวธาดา
ฮาซัน พงศ์อัศวธาดา · มีเพื่อนร่วมกัน 78 คน
โหนอีหม่าม นาวาวี ทั้งๆที่อีหม่ามอากีดะห์อาชาอีเราะห์ หยุดสร้างความคลุมเครือต่อสังคมได้แล้วว เวาะเอ้ยย อยู่เชยๆก้ไม่มีใครว่า....ไอ้เวาะ ดอลาละห์
@@@

ชี้แจง
ข้างต้น นำมาให้พี่น้องมุสลิมผู้ยำเกรงต่ออัลลอฮและมีหัวใจที่มีสัจจะมุ่งมั่นในการแสวงหาความจริง และมีหัวใจที่เป็นธรรม ได้ประจักษ์ว่า ในโลกที่มีความเจริญมากแล้ว แต่ยังมีความป่าเถื่อน ไร้อารยธรรม ของคนบางกลุ่มที่ปากบอกว่าเป็นมุสลิม เข้ามาสู่สนามการเผยแพร่ศาสนาที่นำความป่าเถือนและวิธีแห่งความชั่วร้ายเหล่านี้กำจัดและฟาดฟันผู้ที่เห็นต่าง การอบอบ การศึกษา และความเจริญของโลก ไม่ได้ยกจิตใจคนบางกลุ่มที่ปากบอกว่าเป็นมุสลิมให้เจริญและให้สูงไปจากเดรัจฉานเลยแม้แต่น้อย
ถ้าใครได้ศึกษาประวัติศาสตรอิสลาม จะพบว่าความป่าเถือนในอดีตเกิดกาเฟรที่ไม่ได้รับทางนำ ที่กระทำต่อนบี และเหล่าบรรดาสาวกของท่านแต่ ณ วันนี้ ความป่าเถือนนี้เกิดจาก คนที่บอกสังคมว่า "ข้าคือมุสลิม
อิหม่ามนะวาวีย์ เป็นปราชญ์ ที่มีคุนูประการต่อโลกอิสลามคนหนึ่ง ซึ่งท่านถูกอุปโลกน์ให้เป็นฝ่ายนั้น ฝ่ายนี้ เพื่อรับรองทัศนะของตน แต่ผมเชื่อว่า ท่านคือปราชญมุสลิมที่เป็นชาวอะฮลุสสุนนะฮวัลญะมาอะฮที่มีจุดยืนของตัวเอง ไม่ยึดติดทัศนะของปราชญคนใดเป็นการเฉพาะ การแสดงทัศนะของท่านมีผิด มีถูก เหมือนกับมนุษย์ทั่วไป
ดังที่อิหม่ามมาลิก (ร.ฮ) เคยพูดไว้ดังรายงานต่อไปนี้
خْبَرَنَا عَبْدُ اللَّهِ بْنُ مُحَمَّدِ بْنِ عَبْدِ الْمُؤْمِنِ ، نا أَبُو عَبْدِ اللَّهِ مُحَمَّدُ بْنُ أَحْمَدَ الْقَاضِي الْمَالِكِيُّ , نا مُوسَى بْنُ إِسْحَاقَ ، نا إِبْرَاهِيمُ بْنُ الْمُنْذِرِ ، نا مَعْنُ بْنُ عِيسَى ، قَالَ : سَمِعْتُ مَالِكَ بْنَ أَنَسٍ ، يَقُولُ : " إِنَّمَا أَنَا بَشَرٌ ، أُخْطِئُ وَأُصِيبُ ، فَانْظُرُوا فِي رَأْيِي ، فَكُلَّمَا وَافَقَ الْكِتَابَ وَالسُّنَّةَ فَخُذُوا بِهِ , وَكُلَّمَا لَمْ يُوَافِقِ الْكِتَابَ وَالسُّنَّةَ , فَاتْرُكُوهُ " .
คำแปลตัวบท
มาลิก บิน อะนัส กล่าวว่า "ความจริง ข้าพเจ้าคือมนุษย์ปุถุชนคนหนึ่ง มีผิด มีถูก ดังนั้นจงพิจารณา ในความคิดเห็นของข้าพเจ้า ,ทุกสิ่ที่สอดคล้องกับ อัลกิตาบและอัสสุนนะฮ พวกท่านก็จงเอามัน และทุกสิ่ง ที่ไม่สอดคล้อง กับอัลกิตาบ(อัลกุรอ่าน)และอัสสุนนะฮ พวกท่านจงทิ้งมันเสีย - ดู ญาเมีอุบะยานิลอิลมิ วะฟัฎลิ ของอิบนุอับดิลบัร หะดิษ หมายเลข 897 เรื่อง بَابُ مَعْرِفَةِ أُصُولِ الْعِلْمِ وَحَقِيقَتِهِ
อิหม่ามนะวาวีย์ ท่านยืนยันว่า ทัศนะที่อ้างว่าจำเป็นต้องเรียนหลักฐานของอะฮลุลกาลาม(นักวิภาษวิทยา) จึงจะเป็นมุสลิมได้ ซึ่งอิหม่ามบอกว่า เป็นทัศนะที่ผิดพลาด ซึ่งเป็นทัศนะของพวกมุอตะซิละฮส่วนใหญ่และปราชญมัซฮับชาฟิอีบางส่วน ดังคำพูดที่ว่า
وَزَعَمَ أَنَّهُ لَا يَكُونُ لَهُ حُكْمُ الْمُسْلِمِينَ إِلَّا بِهِ . وَهَذَا الْمَذْهَبُ هُوَ قَوْلُ كَثِيرٍ مِنَ الْمُعْتَزِلَةِ وَبَعْضِ أَصْحَابِنَا الْمُتَكَلِّمِينَ . وَهُوَ خَطَأٌ
และเขาอ้างว่า จะไม่ได้รับหุกุมว่าเป็นมุสลิม นอกจากจะต้องรู้หลักฐานของนักกะลาม และนี้คือ มัซฮับ มันคือ ทัศนะของพวกมุอตะซิละฮส่วนมากและส่วนหนึ่งของบรรดาสหายของเรา(หมายถึงอุลามาอฺมัซฮับชาฟิอี)บางส่วน ที่เป็นบรรดานักวิชาการกะลาม(นักวิภาษวิทยา) และมัน คือ ทัศนะที่ผิดอย่างชัดเจน- ดูชัรหฺมุสลิม 1/210 -211
............
ข้างต้นเป็นคำพูดอิหม่ามนะวาวีย์ แต่คนบางกลุ่มที่ยึดแนวคิดอะฮลุลกาลาม หรือแนวคิดแบบตรรกนิยม รับไม่ได้ จึงสาปแช่งผมให้ตาย -นะอูซุบิลละฮ นี่หรือมุสลิม
อิหม่ามนะวาวีย์ ท่านได้หันมาสู่อะกีดะฮสะลัฟ จากหลักฐานพิสูจน์ดังต่อไปนี้
ในบั้นปลายชีวิตท่านได้เขียนตำราชื่อ
جزء فيه ذكر اعتقاد السلف في الحروف والأصوات
(ญุุซ ฟีฮี ซิกรุเอียะติกอดสะลัฟ ฟิลหุรูฟ วัลอัสวาต)
อาชาอีเราะ เมืองไทยคัดค้านสุดเหวี่ยงว่าคำพูดอัลลอฮไม่เป็นอักษรและเสียง แต่อิหม่ามนะวาวีย์ยืนยันว่า เป็น อักษรและเสียง คือ
ท่านอิหม่ามนะวาวีย์ได้ตั้งหัวข้อว่า
صل: في إثبات الحرف لله تعالى
دليله آيات من الكتاب العزيز
الأول: {فَتَلَقَّى آدَمُ مِنْ رَبِّهِ كَلِمَاتٍ} [البقرة:37] .
บทว่าด้วย การยืนยันอักษรให้แก่อัลลอฮตาอาลา 
หลักฐานของมันคือ บรรดาอายาต จากคัมภีรอันทรงเกียรติ์
หลักฐานที่หนึ่ง : (แล้วอาดัมได้เรียนรู้บรรดาคำวิงวอนจากพระเจ้าของเขา -บะเกาะเราะฮ/ 37
ดูหนังสือข้างต้น หน้า 45-56 แล้วท่านได้ยกหลักฐานมากมาย
และในหน้าที่ 56-58 อิหม่ามนะวาวีย์กล่าวว่า
صل: في اثبات الصوت لله تعالى
ينطق الكتاب العزيز بذلك في مواضع:
منها في سورة القصص {فَلَمَّا أَتَاهَا نُودِيَ} [القصص: 30]
บทว่าด้วยการยืนยันเสียงให้แก่อัลลอฮตาอาลา
อัลกิตาบอันทรงเกียรติ ได้พูดด้วยดังกล่าว ในหลายแห่งด้วยกัน ส่วนหนึ่งจากมันคือ ในซูเราะฮอัลเกาะศอศ (เมื่อเขาได้มาที่มันได้มีเสียงเรียก) -อัลเกาศอศ /30
อิหม่ามนะวาวีย์ ได้ตั้งหัวข้อว่า
فصل: في ان كلام الله مسموع
บทในเรื่องว่าแท้จริง คำพูดของอัลลอฮ คือสิ่งที่ถูกได้ยิน
แล้วอิหม่ามนะวาวีย์ ได้ยกหลักฐานมากมาย แล้วท่านสรุปว่า
فعلم بهذه الآيات، أن كلام الله مسموع، والمسموع ليس إلا هذه الحروف والأصوات، فتكون هي كلام الله حقيقة،
ดังนั้น ได้ถูกรู้ ด้วยบรรดาอายะฮเหล่านี้ ว่า คำพูดของอัลลอฮนั้น คือสิ่งที่ถูกได้ยิน และสิ่งที่ถูกได้ยินนั้นไม่ใช่อย่างอื่น นอกจากบรรดาอักษรและบรรดาเสียงเหล่านี้ ดังนั้น มันคือ คำพูดอัลลอฮจริงๆ
- ดู ญุุซ ฟีฮี ซิกรุเอียะติกอดสะลัฟ ฟิลหุรูฟ วัลอัสวาต ของอิหม่ามนะวาวีย์ หน้า 66
.....................
และข้างต้นแสดงให้เห็นว่าอิหม่ามนะวาวีย์ ยึดอะกีดะฮตามแนวสะลัฟในบั้นปลายชีวิต และท่านไม่ได้ยึดตรรกวิชากาลามจนสุดโต่ง และมีคนบางกลุ่มนั่งเทียนอ้างคนนั้นคนนี้ ว่าเหมือนตัวเองโดยไม่อ่านตำรา และตีโพยตีพายสาปแช่งคนที่เห็นต่างกับพวกทนอย่างน่าละอายไร้ซึ่งจริยธรรมอันดีงามที่คนได้ชื่อว่าผู้รู้ศาสนาพึงมี
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
9/11/59

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น