การกล่าวอุศอ็ลลีเป็นสุนัตจริงหรือ
แนวทาง อุลามาอ์
2 พฤศจิกายน เวลา 16:59 น. ·
👌เรื่อง อ่านอูซอลลี. อย่าพลาด.
2 พฤศจิกายน เวลา 16:59 น. ·

ท่านอิมามอันนาวาวีย์ได้กล่าวในหนังสือ มินฮาจญฺ อธิบายโดย อิบนูฮายัร (الهيتمي)
ويندب النطق بالمنوى قبيل التكبير ليساعد اللسان القلب وخروجا من خلاف من أوجبه وإن شد وقياسا على ما يأتى فى الحج المندفع به التشنيع بأنه لم ينقل "
สุนนัต ให้ทำการกล่าวคำเหนียต (อ่านอูซอลลี)ก่อนจากตักบีรเล็กน้อย
👇

1. เพื่อลิ้นจะได้ช่วยกับหัวใจ
2. และเพื่อออกจากการขัดแย้ง(خلاف)กับผู้ที่มีทัศนะว่า : วายิบ
ซึ่งหากแม้นว่าเขาจะมีทัศนะที่ขัดกับทัศนะที่มีน้ำหนักมากกว่าก็ตาม
3. และเพราะไปกิยาส กับสิ่งที่จะนำมากล่าวในเรื่องฮัจญฺ เพื่อจะมาโต้ตอบการตำหนิที่ว่ามัน(การกล่าวคำเหนียต)ไม่ได้ถูกถ่ายทอด(หลักฐานไว้) "
ดู (تحفةالمحتاج) ตัวะหฺฟะตุลมั๊วะหฺตาจ อธิบาย หนังสือมินฮาจของอิมามอันนะวาวีย์ เล่ม 2 หน้า 12
เครดิต : อัลจูนัยดี อัชซาฟีอี
@@@@@@@@
@@@@@@@@
ชี้แจง
ข้างต้นเป็นความเห็น ที่ไม่มีหลักฐานสนับสนุนแม้แต่อักษรเดียว คำว่า สุนัต ในทางฟิกฮคือ สิ่งที่ได้บุญผู้ที่ทำ และผู้ที่ไม่ทำจะไม่ถูกลงโทษ จึงถามว่า ใครเป็นผู้รับรองว่าได้บุญ ในเมื่ออัลลอฮและรอซูล ศอ็ลฯไม่ได้สอนไว้
อิบนุกอ็ยยิม (ร.ฮ) กล่าวว่า
كان صلى الله عليه وسلم إذا قام إلى الصلاة قال : الله أكبر ، ولم يقل شيئاً قبلها ، ولا تلفظ بالنية البتة ، ولا قال : أصلي لله كذا ، مستقبل القبلة ، أربع ركعات ، إمـاماً ، أو مأموماً ، ولا قال : أداءً ، ولا قضاءً ، ولا فرض الوقت ، وهذه عشرُ بدعٍ لم يَنْقُلْ عنه أحدٌ قط بإسنادٍ صحيحٍ ولا ضعيفٍ ولا مُسْنَدٍ ولا مُرْسَلٍ لفظةً واحدةً منها البتة ، بل ولا عن أحد من أصحابِه، ولا استحسنه أحدٌ من التابعين ، ولا الأئمةُ الأربعة اهـ
ปรากฏว่า ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เมื่อท่านจะละหมาด ท่านกล่าวว่า"อัลลอฮุอักบัร" โดยไม่ได้กล่าวสิ่งใดก่อนหน้านั้น และไม่ได้กล่าวคำเนียตแต่อย่างใด ไม่ได้กล่าวคำว่า"อุศอ็ลลีลิลละอ อย่างนั้น อย่างนี้ มุสตักบิลัลกิบลัต อัรบะอะเราะกะอาต อิมามัน หรือ มะมูมัน และท่านไม่ได้กล่าวคำว่า "อะดาอัน" ไม่ได้กล่าวคำว่า"เกาะฏออ" และไม่ได้กล่าวคำว่า"ฟัรดุลวักติ" และนี้คือ บิดอะฮสิบประการ ที่ไม่มีคนใดรายงานจากท่านบี เลย จะด้วยสายสืบที่เศาะเฮียะก็ไม่มี หะดิษเฏาะอีฟก็ไม่มี หะดิษมุสนัดก็ไม่มี หะดิษมุรสัลก็ไม่มี แม้สักประโยคเดียวก็ไม่มี ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีรายงานจากคนหนึ่งคนใดจากเหล่าเศาะหาบะฮ ไม่คนใดจากบรรดาตาบิอีน เห็นดีและ ไม่มีอิหม่ามคนใดจากอิหม่ามทั้งสี่ (เห็นว่าดี) - ซาดุลมะอาด เล่ม 1 หน้า 201
...........
สรุปคือ เรื่อง ส่งเสริมให้กล่าวคำเนียต เช่นกล่าวอุศอ็ลลี ไม่มีหลักฐานจากนบี ศอ็ลฯ แม้แต่รายงานที่เป็นหะดิษเฎาะอีฟก็ไม่มี และไม่มีอิหม่ามทั้งสี่คนใดเห็นว่าดี
กะมาลุดดีน อัดดะมีรีย์ ฮ.ศ 742 -808 (ร.ฮ)กล่าวเกี่ยวกับคำพูดอิหม่ามนะวาวีย์ว่า
(ويندب النطق قبيل التكبير) : ليساعد اللسان على القلب ولأن ذلك أبعد عن الوسواس ,
وتقدم أن الزبيري أوجب التلفظ بالنية في كل عبادة وهو بعيد , بل لم يقم دليل على الندبية {النجم الوهاج 2/89}
وتقدم أن الزبيري أوجب التلفظ بالنية في كل عبادة وهو بعيد , بل لم يقم دليل على الندبية {النجم الوهاج 2/89}
(และสุนัตให้กล่าว(คำเนียต)ก่อนการตักบีร) เพื่อลิ้นจะได้ช่วยใจ และเพือ ดังกล่าวนั้น ทำให้ห่างใกลจากการวัสวาส(ความรวนเร) (แล้วอัดดะมีรียกล่าวว่า) "และได้กล่าวมาก่อนหน้านี้แล้วว่า แท้จริง อัซซะบัยรีย์ ได้ถือว่าวายิบกล่าวคำเนียต ในทุกอิบาดะฮ และมัน(ทัศนะของอัซซะบัยรีย์)คือ ความห่างใกลจากความถูกต้อง ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีหลักฐานแสดงบอกว่าเป็นสุนัตเลย - ดูนัจญมุลวะฮฮาจญ เล่ม 2 หน้า 89
...........
กะมาลุดดีน อัดดะมีรีย บอกว่า ไม่มีหลักฐานที่บอกว่าการกล่าวคำเนียตเป็นสุนัต
กะมาลุดดีน อัดดะมีรีย บอกว่า ไม่มีหลักฐานที่บอกว่าการกล่าวคำเนียตเป็นสุนัต
والله أعلم باصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
18/11/59
18/11/59
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น