วาทกรรมนำความเห็นมาเป็นหุกุมศาสนาตัดสินคนที่เห็นต่าง
อะหมัดรอชีดี อิสมัญ อัลอัชอะรีย์
16 พฤศจิกายน เวลา 20:03 น. •
#ประการที่สาม ถ้าสมมุติว่าอิหม่ามมักกะฮ์เป็นวะฮฺฮาบีจริงๆ (สมมุติ) ก็ถือว่าละหมาดตามได้ เพราะหลักความเชื่อของวะฮฺฮาบีก็มีอุลามาอฺได้ให้ทัศนะเอาไว้ว่าเป็นหลักความเชื่อที่บิดอะฮ์ไม่ถึงขึ้นกาฟิรเช่นกัน
เช่นท่านอิหม่ามอัลอะดะวีย์ ช่วงปี1112-1189 แห่งฮิจเราะฮ์ ได้กล่าวว่า
وَأَمَّا مَنْ يَعْتَقِدُ أَنَّهُ جِسْمٌ لاَ كَالأَجْسَامِ فَلاَ يَكْفُرُ إِلاَّ أَنَّهُ عَاصٍ ، لأَنَّ الْمَوْلَى سُبْحَانَهُ وَتَعَالَى لَيْسَ بِجِسْمٍ
“ สำหรับผู้ที่เชื่อว่าอัลลอฮฺเป็นรูปร่างแต่ไม่เหมือนกับบรรดาสิ่งที่ถูกสร้างนั้น ถือว่าไม่ตกเป็นกาฟิร แต่เขาเป็นคนฝ่าฝืน(ฟาซิก)เพราะอัลลอฮฺตะอาลาไม่ใช่รูปร่าง ”
: อัลลอะดะวียะฮ์, หาชียะฮ์อัลอะดะวียะฮ์, เล่ม 1, หน้า 102.
@@@@@@@@
ชี้แจง
#ประการที่สาม ถ้าสมมุติว่าอิหม่ามมักกะฮ์เป็นวะฮฺฮาบีจริงๆ (สมมุติ) ก็ถือว่าละหมาดตามได้ เพราะหลักความเชื่อของวะฮฺฮาบีก็มีอุลามาอฺได้ให้ทัศนะเอาไว้ว่าเป็นหลักความเชื่อที่บิดอะฮ์ไม่ถึงขึ้นกาฟิรเช่นกัน
เช่นท่านอิหม่ามอัลอะดะวีย์ ช่วงปี1112-1189 แห่งฮิจเราะฮ์ ได้กล่าวว่า
وَأَمَّا مَنْ يَعْتَقِدُ أَنَّهُ جِسْمٌ لاَ كَالأَجْسَامِ فَلاَ يَكْفُرُ إِلاَّ أَنَّهُ عَاصٍ ، لأَنَّ الْمَوْلَى سُبْحَانَهُ وَتَعَالَى لَيْسَ بِجِسْمٍ
“ สำหรับผู้ที่เชื่อว่าอัลลอฮฺเป็นรูปร่างแต่ไม่เหมือนกับบรรดาสิ่งที่ถูกสร้างนั้น ถือว่าไม่ตกเป็นกาฟิร แต่เขาเป็นคนฝ่าฝืน(ฟาซิก)เพราะอัลลอฮฺตะอาลาไม่ใช่รูปร่าง ”
: อัลลอะดะวียะฮ์, หาชียะฮ์อัลอะดะวียะฮ์, เล่ม 1, หน้า 102.
@@@@@@@@
ชี้แจง
ไปเห็นฟัตวาของ คุณ อะหมัดรอชีดี อิสมัญ อัลอัชอะรีย์ อ้างว่า หลักความเชื่อของวะฮฺฮาบีก็มีอุลามาอฺได้ให้ทัศนะเอาไว้ว่าเป็นหลักความเชื่อที่บิดอะฮ์ไม่ถึงขึ้นกาฟิร
.............
ผมไม่ทราบว่า คำอ้างข้างต้น ใช้หลักฐานอะไร อัลกุรอ่านอายะฮใหน หะดิษบทใด สะลัฟท่านใดตัดสินไว้ว่า “คนที่พวกคุณอุปโลกน์ให้เป็นวะฮบีย์ คือ พวกมุญัสสิมะฮ
คำสอนศาสนาที่คุณเอามายึด คือ กิตาบุลลอฮ สุนนะฮนบี หรือ ว่า ความเห็นที่มาจากอารมณ์ที่ถ่ายทอดมาจากความอคติหรือ
คำว่า “جسم (รูปร่าง)” เกี่ยวกับอัลลอฮ ไม่ได้ระบุไว้แม้แต่อักษรเดียว ไม่ว่า ในอัลกุรอ่าน หรืออัสสุนนะฮ ไม่ว่าในเชิงปฏิเสธและในเชิงการยืนยัน ก็ไม่มี แล้วคุณเอาคำนี้มาทำเป็นหุกุมตัดสินมุสลิม คุณเอาหุกุมแห่งอารมณ์ มาใช้เป็นบทบัญญัติศาสนาอย่างนั้นหรือ?
การอิษบาตร(การยืนยัน) คุณลักษณะของอัลลอฮ ตาอาลา ตามที่อัลลอฮ และศาสนทูตของพระองค์บอกไว้ ปราชญ์ยุคสะลัฟ ไม่ถือว่า เป็นการตัชบีฮ หรือ การเปรียบอัลลอฮกับมัคลูค แล้ว หุกุม คำว่า มุญัสสิม” กับผู้ที่ยืนยันสิฟาต ดังที่กล่าวมาแล้ว คุณไปเอามาจากใหน แน่นอน คุณเอามาจากความเห็นที่เกิดจากอคติ
1.ท่านนุกะษีร(ร.ฮ) กล่าวว่า
.............
ผมไม่ทราบว่า คำอ้างข้างต้น ใช้หลักฐานอะไร อัลกุรอ่านอายะฮใหน หะดิษบทใด สะลัฟท่านใดตัดสินไว้ว่า “คนที่พวกคุณอุปโลกน์ให้เป็นวะฮบีย์ คือ พวกมุญัสสิมะฮ
คำสอนศาสนาที่คุณเอามายึด คือ กิตาบุลลอฮ สุนนะฮนบี หรือ ว่า ความเห็นที่มาจากอารมณ์ที่ถ่ายทอดมาจากความอคติหรือ
คำว่า “جسم (รูปร่าง)” เกี่ยวกับอัลลอฮ ไม่ได้ระบุไว้แม้แต่อักษรเดียว ไม่ว่า ในอัลกุรอ่าน หรืออัสสุนนะฮ ไม่ว่าในเชิงปฏิเสธและในเชิงการยืนยัน ก็ไม่มี แล้วคุณเอาคำนี้มาทำเป็นหุกุมตัดสินมุสลิม คุณเอาหุกุมแห่งอารมณ์ มาใช้เป็นบทบัญญัติศาสนาอย่างนั้นหรือ?
การอิษบาตร(การยืนยัน) คุณลักษณะของอัลลอฮ ตาอาลา ตามที่อัลลอฮ และศาสนทูตของพระองค์บอกไว้ ปราชญ์ยุคสะลัฟ ไม่ถือว่า เป็นการตัชบีฮ หรือ การเปรียบอัลลอฮกับมัคลูค แล้ว หุกุม คำว่า มุญัสสิม” กับผู้ที่ยืนยันสิฟาต ดังที่กล่าวมาแล้ว คุณไปเอามาจากใหน แน่นอน คุณเอามาจากความเห็นที่เกิดจากอคติ
1.ท่านนุกะษีร(ร.ฮ) กล่าวว่า
{فإن الله لا يشبهه شئ من خلقه و {لَيْسَ كَمِثْلِهِ شَيْءٌ}
بل الأمر كما قال الأئمة منهم نعيم بن حماد الخزاعي شيخ البخاري قال: من شبه الله بخلقه كفر ومن جحد ما وصف الله به نفسه فقد كفر وليس فيما وصف الله به نفسه ولا رسوله تشبيه فمن أثبت لله تعالى ما وردت به الآيات الصريحة والأخبار الصحيحة على الوجه الذي يليق بجلال الله ونفى عن الله تعالى النقائص فقد سلك سبيل الهدى
بل الأمر كما قال الأئمة منهم نعيم بن حماد الخزاعي شيخ البخاري قال: من شبه الله بخلقه كفر ومن جحد ما وصف الله به نفسه فقد كفر وليس فيما وصف الله به نفسه ولا رسوله تشبيه فمن أثبت لله تعالى ما وردت به الآيات الصريحة والأخبار الصحيحة على الوجه الذي يليق بجلال الله ونفى عن الله تعالى النقائص فقد سلك سبيل الهدى
คำแปล
...(โดยแท้จริงนั้น อัลลอฮ จะไม่ถูกนำมา เปรียบกับสิ่งใด จาก สิ่งถูกสร้างของพระองค์ และจะไม่มีสิ่งใด เสมอเหมือนพระองค์ และพระองค์นั้น คือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็นเสมอ แต่ทว่า เรื่องนั้นคือ ตามที่ อิหม่าม ของประชาชาตินี้ได้กล่าวเอาไว้ หนึ่งในพวกเขาก็คือ ท่าน นุอัยมฺ บิน ฮัมมาด อัลคุซาอีย์ชัยคุ้ลบุคคอรี ท่านกล่าวว่า ผู้ใดที่นำเอาอัลลอฮมาเปรียบกับสิ่งถูกสร้างของพระองค์ เขาคือ กาเฟร และผู้ใดที่ปฎิเสธ ในสิ่งที่ อัลลอฮได้ให้คุณลักษณะ กับพระองค์เอง เขาคือ กาเฟร และจะไม่นับว่า สิ่งใดที่พระองค์ได้ให้คุณลักษณะของพระองค์เอาไว้ หรือ รอซูลของพระองค์ (ได้ให้คุณละษณะไว้)ว่าเป็นการเปรียบเทียบ (การตัชบีฮ) ผู้ใดที่ยืนยันต่ออัลลอฮ ในสิ่งที่ปรากฏอยู่ในโองการที่ชัดเจน หะดีษที่ซอเหี๊ยะ ตามความเหมาะสม และปฎิเสธในสิ่งที่จะทำให้เกิด ความบกพร่อง แท้จริงเขาผู้นั้นกำลังดำเนินตามแนวทางที่ถูกต้อง)" ดูตัฟซีรอิบนุกะษีร ซูเราะฮ์อัลอะร๊อฟอายะฮ์ที่54 เล่ม 3 หน้า 427
...(โดยแท้จริงนั้น อัลลอฮ จะไม่ถูกนำมา เปรียบกับสิ่งใด จาก สิ่งถูกสร้างของพระองค์ และจะไม่มีสิ่งใด เสมอเหมือนพระองค์ และพระองค์นั้น คือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็นเสมอ แต่ทว่า เรื่องนั้นคือ ตามที่ อิหม่าม ของประชาชาตินี้ได้กล่าวเอาไว้ หนึ่งในพวกเขาก็คือ ท่าน นุอัยมฺ บิน ฮัมมาด อัลคุซาอีย์ชัยคุ้ลบุคคอรี ท่านกล่าวว่า ผู้ใดที่นำเอาอัลลอฮมาเปรียบกับสิ่งถูกสร้างของพระองค์ เขาคือ กาเฟร และผู้ใดที่ปฎิเสธ ในสิ่งที่ อัลลอฮได้ให้คุณลักษณะ กับพระองค์เอง เขาคือ กาเฟร และจะไม่นับว่า สิ่งใดที่พระองค์ได้ให้คุณลักษณะของพระองค์เอาไว้ หรือ รอซูลของพระองค์ (ได้ให้คุณละษณะไว้)ว่าเป็นการเปรียบเทียบ (การตัชบีฮ) ผู้ใดที่ยืนยันต่ออัลลอฮ ในสิ่งที่ปรากฏอยู่ในโองการที่ชัดเจน หะดีษที่ซอเหี๊ยะ ตามความเหมาะสม และปฎิเสธในสิ่งที่จะทำให้เกิด ความบกพร่อง แท้จริงเขาผู้นั้นกำลังดำเนินตามแนวทางที่ถูกต้อง)" ดูตัฟซีรอิบนุกะษีร ซูเราะฮ์อัลอะร๊อฟอายะฮ์ที่54 เล่ม 3 หน้า 427
2.อบูอิสหาก อิบรอฮีม บิน ชากิลัน อัลหัมบะลีย์ (ฮ.ศ 369) ได้กล่าวกับ อบีสุลัยมาน อัดดัมชะกีย์ ซึ่งเป็นคนหนึ่งที่ตาม อิบนุกุลลาบ (หัวหน้ามุอฺตะซิละฮ) ในการโต้วาที ระหว่างทั้งสอง เมื่อ อบูสุลัยมานกล่าวกับเขาว่า
"أنتم المشبهة
พวกท่านคือ พวกมุชับบะฮฮะฮ
พวกท่านคือ พวกมุชับบะฮฮะฮ
อิบนุชากิลัน กล่าวว่า
حاشا لله، المُشبِّه الذي يقول: وجهٌ كوجهِي، ويَدٌ كَيَدِي، فأما نحن فنقول: له وجهه، كما أثبت لنفسه وجهًا، وله يدٌ، كما أثبتَ لنفسه يَداً، {لَيْسَ كَمِثْلِهِ شَيْءٌ وَهُوَ السَّمِيعُ الْبَصِيرُ} [الشورى : 11] ومن قال هذا فقد سَلِم
“เป็นไปไม่ได้” อัลมุชับบะฮะฮคือ ผู้ที่กล่าวว่า “ใบหน้า เหมือนใบหน้าของฉัน สำหรับเรานั้น เรากล่าวว่า พระองค์ทรงมีพระพักต์ของพระองค์ ดังที่พระองค์ ได้รับรอง คำว่าใบหน้า แก่พระองค์เอง และ พระองค์ทรงมีพระหัตถ์ ดังที่พระองค์ทรงรับรองคำว่ามือ แก่ตัวของพระองค์เอง (ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์ และพระองค์นั้น คือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็น) และผู้ใดกล่าวแบบนี้ แน่นอนเขาปลอดภัย – เฏาะบะกอตอัลหะนาบะละฮ ของ อิบนุอบียะฮลา 3/239
......................
จากหลักฐานที่กล่าวมาข้างต้น แสดงให้เห็นว่า ผู้กล่าวหาและตัดสินว่าวะฮบีย์คือมุญัสสิมะอ ไม่ได้ศึกษาอะกีดะฮสะลัฟ แต่ใช้อคติ และความคิดเห็นของพวกตรรกนิยมมาเป็นหุกุมศาสนาตัดสินคนที่เห็นต่างอย่างอยุติธรรม
......................
จากหลักฐานที่กล่าวมาข้างต้น แสดงให้เห็นว่า ผู้กล่าวหาและตัดสินว่าวะฮบีย์คือมุญัสสิมะอ ไม่ได้ศึกษาอะกีดะฮสะลัฟ แต่ใช้อคติ และความคิดเห็นของพวกตรรกนิยมมาเป็นหุกุมศาสนาตัดสินคนที่เห็นต่างอย่างอยุติธรรม
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
19/11/59
อะสัน หมัดอะดั้ม
19/11/59
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น