สะลัฟไม่รู้ความหมายคำว่า อิสติวาอจริงหรือ
การีม สุไลมาน
การีม สุไลมาน อิหม่ามนาวาวีกล่าวว่า
يقال مثلا: نؤمن بان الرحمن على العرش استوى، و لا نعلم معنى ذلك و المراد به، مع انا نعتقد أن الله تعالى ليس كمثله شيء،و انه منزه عن الحلول و سمات الحدود،و هذه طريقة السلف او جماهيرهم و هي اسلم
อาทิเช่น ถูกกล่าวว่า เราได้ศรัทธาว่า อัลลอห์ทรงอิสติวาอ์เหนืออะรัช ซึ่งเราไม่รู้แก้นแท้ของความหมายดังกล่าวนี้ และไม่รู้เป้าหมายสิ่งดังกล่าว(ตามจุดมุ่งหมายของอัลลอห์ พร้อมกับเราเชื่อมั่นว่า แท้จริงอัลลอห์นะอาลานั้น พระองค์ไม่ทีสิ่งใดคล้ายเหมือนกับพระองค์ และแท้จริงพระองค์ทรงปราศจากการเข้าไปมีที่อยู่ ปราศจากคุณลักษณะที่บังเกิดขึ้นมาไหม่ และนี่คือแนวทางสบัฟ ซึ่งเป็นแนวทางที่ปลอดภัยกว่า
มัจมูอ์ ชัรฮ์ อัลมัฮัซซับ เล่ม1หน้า50
...................
การีม สุไลมาน อิหม่ามนาวาวีกล่าวว่า
يقال مثلا: نؤمن بان الرحمن على العرش استوى، و لا نعلم معنى ذلك و المراد به، مع انا نعتقد أن الله تعالى ليس كمثله شيء،و انه منزه عن الحلول و سمات الحدود،و هذه طريقة السلف او جماهيرهم و هي اسلم
อาทิเช่น ถูกกล่าวว่า เราได้ศรัทธาว่า อัลลอห์ทรงอิสติวาอ์เหนืออะรัช ซึ่งเราไม่รู้แก้นแท้ของความหมายดังกล่าวนี้ และไม่รู้เป้าหมายสิ่งดังกล่าว(ตามจุดมุ่งหมายของอัลลอห์ พร้อมกับเราเชื่อมั่นว่า แท้จริงอัลลอห์นะอาลานั้น พระองค์ไม่ทีสิ่งใดคล้ายเหมือนกับพระองค์ และแท้จริงพระองค์ทรงปราศจากการเข้าไปมีที่อยู่ ปราศจากคุณลักษณะที่บังเกิดขึ้นมาไหม่ และนี่คือแนวทางสบัฟ ซึ่งเป็นแนวทางที่ปลอดภัยกว่า
มัจมูอ์ ชัรฮ์ อัลมัฮัซซับ เล่ม1หน้า50
...................
@@@@@@@
ชี้แจง
ก่อนอื่นขอชี้แจงว่า ผมไม่ได้บังอาจลบหลู่หรือเอาตัวเองไปเทียบกับปราชญของโลกคืออิหม่ามนะวาวีย์ แต่ความเห็นย่อมมีผิด มีถูก ความเข้าใจผิดพลาดย่อมมีในมนุษย์ ทุกคนไม่ว่าระดับใดก็ตาม
คำว่า
نؤمن بان الرحمن على العرش استوى، و لا نعلم معنى ذلك و المراد به
เราได้ศรัทธาว่า อัลลอห์ทรงอิสติวาอ์เหนืออะรัช ซึ่งเราไม่รู้แก้นแท้ของความหมายดังกล่าวนี้ และไม่รู้เป้าหมายสิ่งดังกล่าว
......
ข้อความข้างต้น ขอยืนยันว่าไม่ใช่แนวทางอะกีดะฮสะลัฟ ด้วยหลักฐานต่อไปนี้
ชี้แจง
ก่อนอื่นขอชี้แจงว่า ผมไม่ได้บังอาจลบหลู่หรือเอาตัวเองไปเทียบกับปราชญของโลกคืออิหม่ามนะวาวีย์ แต่ความเห็นย่อมมีผิด มีถูก ความเข้าใจผิดพลาดย่อมมีในมนุษย์ ทุกคนไม่ว่าระดับใดก็ตาม
คำว่า
نؤمن بان الرحمن على العرش استوى، و لا نعلم معنى ذلك و المراد به
เราได้ศรัทธาว่า อัลลอห์ทรงอิสติวาอ์เหนืออะรัช ซึ่งเราไม่รู้แก้นแท้ของความหมายดังกล่าวนี้ และไม่รู้เป้าหมายสิ่งดังกล่าว
......
ข้อความข้างต้น ขอยืนยันว่าไม่ใช่แนวทางอะกีดะฮสะลัฟ ด้วยหลักฐานต่อไปนี้
1.อัลลอฮ ตาอาลาประทานอัลกุรอ่านมา เพื่อให้ท่านนบี ศอ็ลฯ อธิบายแก่มนุษย์ ดังอัลลอฮตาอาลาตรัสว่า
وَمَا أَرْسَلْنَا مِن رَّسُولٍ إِلَّا بِلِسَانِ قَوْمِهِ لِيُبَيِّنَ لَهُمْ
และเรามิได้ส่งร่อซูลคนใด นอกจากด้วยการพูดภาษาชนชาติของเขา เพื่อจะได้ชี้แจงอย่างชัดแจ้งแก่พวกเขา-อิบรอฮีม/4
............
มีหะดิษสักบทไหม ที่นบี ศอ็ลฯ บอกว่า มีบางอายะฮ ที่ เราไม่รู้ความหมาย ไม่รู้จุดมุ่งหมายของอัลลอฮ ให้อ่านอย่างเดียว ไม่มีเลย
2.ในเศาะเฮียะบุคอรี ระบุว่า
وَقَالَ مُجَاهِدٌ اسْتَوَى عَلَا عَلَى الْعَرْشِ
และมุญาฮีด (ฮ.ศ 102)ได้กล่าวว่า อิสตะวา” หมายถึง สูง บน บัลลังค์ – ดู เศาะเฮียะบุคอรี กิตาบุตเตาฮีด
........
แสดงว่า สะลัฟรู้ความหมาย คือคำว่า اسْتَوَى หมายถึง علا
3.อบูอุบัยดะฮ มุอฺมัร บิน อันมุษันนา (ฮ.ศ 210) ได้อธิบายอายะฮที่ว่า
ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ [يونس:3
หลังจากนั้นทรงสถิตบนบัลลังค์- ยูนูส/3
คือ
ظهر على العرش وعلا عليه"
وَمَا أَرْسَلْنَا مِن رَّسُولٍ إِلَّا بِلِسَانِ قَوْمِهِ لِيُبَيِّنَ لَهُمْ
และเรามิได้ส่งร่อซูลคนใด นอกจากด้วยการพูดภาษาชนชาติของเขา เพื่อจะได้ชี้แจงอย่างชัดแจ้งแก่พวกเขา-อิบรอฮีม/4
............
มีหะดิษสักบทไหม ที่นบี ศอ็ลฯ บอกว่า มีบางอายะฮ ที่ เราไม่รู้ความหมาย ไม่รู้จุดมุ่งหมายของอัลลอฮ ให้อ่านอย่างเดียว ไม่มีเลย
2.ในเศาะเฮียะบุคอรี ระบุว่า
وَقَالَ مُجَاهِدٌ اسْتَوَى عَلَا عَلَى الْعَرْشِ
และมุญาฮีด (ฮ.ศ 102)ได้กล่าวว่า อิสตะวา” หมายถึง สูง บน บัลลังค์ – ดู เศาะเฮียะบุคอรี กิตาบุตเตาฮีด
........
แสดงว่า สะลัฟรู้ความหมาย คือคำว่า اسْتَوَى หมายถึง علا
3.อบูอุบัยดะฮ มุอฺมัร บิน อันมุษันนา (ฮ.ศ 210) ได้อธิบายอายะฮที่ว่า
ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ [يونس:3
หลังจากนั้นทรงสถิตบนบัลลังค์- ยูนูส/3
คือ
ظهر على العرش وعلا عليه"
ทรงปรากฏอยู่บนอะรัชและ สูงเหนือมัน – มะญาซอัลกุรอ่านของ อบูอุบัยดะฮ 1/273
4.อบูหะซัน อาลี บิน อัลมะฮดี อัฏฏอ็บรย์ ศิษย์ของอัลอัชอะรีย์ (ฮ.ศ ๓๘๐) กล่าวไว้ใน หนังสือ มุชกิล อัล-อายาต ในบทว่าด้วยเรื่อง คำตรัสของพระองค์ที่ว่า
الرحمن على العرش استوى
พระเจ้าผู้ทรงเมตตาทรงสถิตเหนือบัลลังค์
ว่า
اعلم أن الله في السماء، فوق كل شيء، مستو على عرشه، بمعنى أنه عال عليه، ومعنى الاستواء الاعتلاء، كما تقول العرب: استويت على ظهر الدابة،
4.อบูหะซัน อาลี บิน อัลมะฮดี อัฏฏอ็บรย์ ศิษย์ของอัลอัชอะรีย์ (ฮ.ศ ๓๘๐) กล่าวไว้ใน หนังสือ มุชกิล อัล-อายาต ในบทว่าด้วยเรื่อง คำตรัสของพระองค์ที่ว่า
الرحمن على العرش استوى
พระเจ้าผู้ทรงเมตตาทรงสถิตเหนือบัลลังค์
ว่า
اعلم أن الله في السماء، فوق كل شيء، مستو على عرشه، بمعنى أنه عال عليه، ومعنى الاستواء الاعتلاء، كما تقول العرب: استويت على ظهر الدابة،
จงทราบไว้เถิดว่า แท้จริง อัลลอฮทรงอยู่บนฟ้า ,เหนือทุกๆสิ่ง ทรงสถิต บน อะรัชของพระองค์ ด้วยความหมาย ว่าแท้จริง พระองค์ทรง อยู่สูง เหนือมัน และความหมายคำว่า “อิสติวาอฺ คือ อัลเอียะติลาอฺ (สูง) ดังเช่น อาหรับ กล่าวว่า “ฉันอยูบน หลังสัตว์พาหนะ ....
5. บะชีร บิน อุมัร อัซซะรอนีย์ (ฮ.ศ 207)กล่าวว่า
5. บะชีร บิน อุมัร อัซซะรอนีย์ (ฮ.ศ 207)กล่าวว่า
سمعت غير واحد من المفسرين يقول :{الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى}: ارتفع
ข้าพเจ้าได้ยินบรรดานักอรรถาธิบายอัลกุรอ่านมากกว่าหนึ่งคน โดยพวกเขากล่าวว่า
(الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى
(الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى
[20.5] ผู้ทรงกรุณาปรานี ทรงสถิตย์อยู่เหนือบัลลังก์) หมายถึง สูง(เหนืออะรัช) -
........
مسند إسحاق بن راهويه (ت. 238 هـ) كما في اتحاف الخيرة المهرة للبوصيري (ج1 ص186)، والمطالب العالية لابن حجر (ج12 ص570)، فالإسناد صحيح؛ ورواها اللالكائي في شرح أصول اعتقاد أهل السنة والجماعة بسنده عن إسحاق بن راهويه (ج3 ص396)
6. อบูลอับบาส ษะลับ(ฮ.ศ 291) กล่าวว่า (อิสตะวา บน บัลลังค์ )หมายถึง สูง (บนบัลลังค์ -
{استوى على العرش}: علا.
........
مسند إسحاق بن راهويه (ت. 238 هـ) كما في اتحاف الخيرة المهرة للبوصيري (ج1 ص186)، والمطالب العالية لابن حجر (ج12 ص570)، فالإسناد صحيح؛ ورواها اللالكائي في شرح أصول اعتقاد أهل السنة والجماعة بسنده عن إسحاق بن راهويه (ج3 ص396)
6. อบูลอับบาส ษะลับ(ฮ.ศ 291) กล่าวว่า (อิสตะวา บน บัลลังค์ )หมายถึง สูง (บนบัลลังค์ -
{استوى على العرش}: علا.
(อิสตะวา บน บัลลังค์ )หมายถึง สูง (บนบัลลังค์ –ขัรอุศูลเอียะติกอดอะฮลิสสุนนะฮ ของอัลลาลุกาอีย์ เล่ม 3 หน้า 399
7.อิบนุญะรีร ปราชญ์ตัฟสีรยุคสะลัฟ ท่านอธิบายความหมาย “อัลอิสติวาอฺ”ในซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์อายะฮ์ที่ 29 ท่านอัฏเฏาะบะรีย์ได้เลือกความหมายที่ว่า
ว่า
وأوْلى المعاني بقول الله جل ثناؤه:"ثم استوى إلى السماء فسوَّاهن"، علا عليهن وارتفع
،
บรรดาความหมายที่ดีที่สุด จากคำตรัสของอัลลอฮ์ ที่ว่า “หลังจากพระองค์ทรงอิสติวาสู่ฟากฟ้า แล้วพระองค์ก็ทรงสร้างมัน” คือ พระองค์ทรงอยู่สูงและสูง (เหนือมัน) -
ว่า
وأوْلى المعاني بقول الله جل ثناؤه:"ثم استوى إلى السماء فسوَّاهن"، علا عليهن وارتفع
،
บรรดาความหมายที่ดีที่สุด จากคำตรัสของอัลลอฮ์ ที่ว่า “หลังจากพระองค์ทรงอิสติวาสู่ฟากฟ้า แล้วพระองค์ก็ทรงสร้างมัน” คือ พระองค์ทรงอยู่สูงและสูง (เหนือมัน) -
และ และอัลอิสติวาอฺในซูเราะฮ์ฏอฮา อายะฮ์ที่ 5 ท่านอัฏเฏาะบะรีย์ ได้ให้ความหมายว่า
وَقَوْله : { الرَّحْمَن عَلَى الْعَرْش اسْتَوَى } يَقُول تَعَالَى ذكْره : الرَّحْمَن عَلَى عَرْشه ارْتَفَعَ وَعَلَا
และคำตรัสของพระองค์ที่ว่า "ผู้ทรงกรุณาปรานี ทรงสถิตย์อยู่เหนือบัลลังก์ หมายถึง ขึ้นสูง และ สูง(เหนืออะรัชของพระองค์) - ดูตัฟสีรอัฏฏอ็บรีย์ อรรถาธิบาย อายะฮที่ 5 ซูเราะฮ ฏอฮา
ในอายะฮที่ว่า
และคำตรัสของพระองค์ที่ว่า "ผู้ทรงกรุณาปรานี ทรงสถิตย์อยู่เหนือบัลลังก์ หมายถึง ขึ้นสูง และ สูง(เหนืออะรัชของพระองค์) - ดูตัฟสีรอัฏฏอ็บรีย์ อรรถาธิบาย อายะฮที่ 5 ซูเราะฮ ฏอฮา
ในอายะฮที่ว่า
ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ
หลังจากนั้นพระองค์ทรงสถิตอยู่บนบัลลังก์ -อัล เราะดุ :2
อิบนุญะรีร อธิบายว่า
อิบนุญะรีร อธิบายว่า
وَأَمَّا قَوْلُهُ : ( ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ ) فَإِنَّهُ يَعْنِي : عَلَا عَلَيْهِ
และสำหรับคำตรัสของพระองค์ที่ว่า (หลังจากนั้นพระองค์ทรงสถิตอยู่บนบัลลังก์ ) แท้จริง ความหมายคือ อยู่สูง เหนือมัน - ตัฟสีรอัฏฏอบรีย์ 16/326
8. อัลลามะฮ อัลอะลูซีย์กล่าวว่า
وقد صح عن بعض السلف أنهم فسروا ففي صحيح البخاري: قال مجاهد: "استوى على العرش" "علا على العرش"، وقال أبو العالية: "استوى على العرش" "ارتفع
และ มีรายงานเศาะเฮียะ จากบางส่วนของสะลัฟ ว่า พวกเขาอธิบาย (อายาตสิฟาต) และในเศาะเฮียะบุคอรี ระบุว่า “มุญาฮิด กล่าวว่า “อิสตะวา บน อะรัช หมายถึง ทรงอยู่สูง เหนืออะรัช และอบูอัลอะลียะฮ กล่าวว่า “อิสตะวา บน อะชัช หมายถึง สูง(เหนืออะรัช ) – ดู ตัฟสีรูหุลมะอานีย์ 16/159
>>>>
ข้างต้น แสดงให้เห็นว่าสะลัฟรู้ความหมาย อายาตสิฟาต แล้วเขาก็อธิบายความหมายของถ้อยคำที่ปรากฏในตัวบทที่มีมาในอัลกุรอ่าน
มุหัมหมัด บิน อิสหาก อิบนุมันดะฮ(310- 395)
อิบนุมันดะฮ กล่าวว่า
>>>>
ข้างต้น แสดงให้เห็นว่าสะลัฟรู้ความหมาย อายาตสิฟาต แล้วเขาก็อธิบายความหมายของถ้อยคำที่ปรากฏในตัวบทที่มีมาในอัลกุรอ่าน
มุหัมหมัด บิน อิสหาก อิบนุมันดะฮ(310- 395)
อิบนุมันดะฮ กล่าวว่า
ذكر الآي المتلوة والأخبار المأثورة في أن الله عز وجل على العرش فوق خلقه بائنا عنهم وبدء خلق العرش والماء، قال الله عز وجل: {الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى} [طه : 5] وقال: {ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ الرَّحْمَن}ُ [الفرقان : 59] وقال: {إِنَّ رَبَّكُمُ اللَّهُ الَّذِي خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ فِي سِتَّةِ أَيَّامٍ ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ} [يونس : 3])
การระบุบรรดาอายาตที่ถูกอ่านและบรรดาคำบอกเล่าที่ถูกสืบร่องรอยมา ว่าแท้จริง อัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่งและทรงเลิศยื่ง อยู่บนบัลลังค์(อะรัช) เหนือมัคลูคของพระองค์ โดยแยกจากพวกเขา และทรงริเรื่มสร้าง อะรัชและน้ำ ,อัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่งและทรงเลิศยื่งอตรัสว่า
الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى
ผู้ทรงกรุณาปรานี ทรงสถิตย์อยู่บนบัลลังก์ -ฏอฮา/5
الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى
ผู้ทรงกรุณาปรานี ทรงสถิตย์อยู่บนบัลลังก์ -ฏอฮา/5
ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ الرَّحْمَنُ فَاسْأَلْ بِهِ خَبِيرًا
แล้วพระองค์ทรงสถิตย์อยู่บนบังลังก์ พระผู้ทรงกรุณาปรานี ดังนั้นจงถามผู้รู้เกี่ยวกับพระองค์- อัลฟุรกอน/59
إِنَّ رَبَّكُمُ اللّهُ الَّذِي خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالأَرْضَ فِي سِتَّةِ أَيَّامٍ ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ
แท้จริงพระเจ้าของพวกท่านคืออัลลอฮ์ผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินในเวลา 6 วันแล้วพระองค์ทรงสถิตย์อยู่บนบัลลังก์ -ยูนูส /3
- ดู كتاب التوحيد ومعرفة أسماء الله وصفاته لابن منده (ج3 ص185 و187)
>>>>>>>>>
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นหลักฐานยืนยันว่า ปราชญยุคสะลัฟ รู้ความหมายและจุดมุ่งหมายของคำว่า “อิสตวา” และการอ้างว่า คำว่า “อิสติวาอ” เรา ไม่รู้ความหมายและไม่รู้จุดมุ่งหมาย นั้น เป็นความเห็นคนยุคหลัง ไม่ใช่อะกีดะฮสะลัฟ
ขอสรุปด้วยคำชี้แจงชองอิบนุตัยมียะฮ ดังนี้
ชัยคุลอิสลาม อิบนุตัยมียะฮ(ร.ฮ) กล่าวว่า
- ดู كتاب التوحيد ومعرفة أسماء الله وصفاته لابن منده (ج3 ص185 و187)
>>>>>>>>>
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นหลักฐานยืนยันว่า ปราชญยุคสะลัฟ รู้ความหมายและจุดมุ่งหมายของคำว่า “อิสตวา” และการอ้างว่า คำว่า “อิสติวาอ” เรา ไม่รู้ความหมายและไม่รู้จุดมุ่งหมาย นั้น เป็นความเห็นคนยุคหลัง ไม่ใช่อะกีดะฮสะลัฟ
ขอสรุปด้วยคำชี้แจงชองอิบนุตัยมียะฮ ดังนี้
ชัยคุลอิสลาม อิบนุตัยมียะฮ(ร.ฮ) กล่าวว่า
أن الصحابة والتابعين لم يمتنع أحد منهم عن تفسير آية من كتاب الله، ولا قال: هذه من المتشابه الذي لا يعلم معناه، ولا قال قط أحد من سلف الأمة، ولا من الأئمة المتبوعين: إن في القرآنِ آياتٍ لا يعلم معناها رسول الله صلى الله عليه وسلم، ولا أهل العلم والإيمان جميعهم، وإنما قد ينفون علم بعض ذلك من بعض الناس، وهذا لا ريب فيه
แท้จริง เศาะหาบะฮและบรรดาตาบิอีน ไม่มีคนใดจากพวกเขา ห้ามอธิบายอะยะฮใดๆจากอัลกุรอ่าน และเขาไม่ได้กล่าวว่า นี้คือส่วนหนึ่งจากอายะฮมุตะชาบิฮาต ที่ เขาไม่รู้ความหมายของมัน ไม่มีแม้แต่คนเดียวจากสะลัฟแห่งอุมมะฮ และ บรรดาอิหม่ามที่ถูกปฏิบัติตาม พูดว่า ในอัลกุรอ่าน มีบรรดาอายาตที่ รซูลุลลอฮ ศอ็ลฯ ,นักวิชาการ และ ผู้ศรัทธา ทั้งหมดนั้น ไม่ รู้ความหมายของมัน ความจริง พวกเขาปฏิเสธ ความรู้บางส่วนของดังกล่าวจากบรรดาผู้คนบางส่วน และกรณีนี้ ไม่มีการสงสัยใดๆในมัน- มัจญมัวะอัลฟาตาวา 13/285 เรื่อง ตัฟสีร
กล่าวคือ ไม่มีเศาะหาบะฮ ,ตาบินอีนและบรรดาอิหม่ามคนใดบอกว่าในอัลกุรอ่านมีอายะฮที่ไม่รู้ความหมาย ความจริง มีบางส่วนของอายะฮอัลลอฮกุรอ่าน ที่มีคนบางส่วนไม่รู้กรณีนี้ ย่อมมี เพราะมนุษย์ มีผู้มีความรู้ และมีคนอาวามที่ไม่มีความรู้
...............
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
8/11/59
กล่าวคือ ไม่มีเศาะหาบะฮ ,ตาบินอีนและบรรดาอิหม่ามคนใดบอกว่าในอัลกุรอ่านมีอายะฮที่ไม่รู้ความหมาย ความจริง มีบางส่วนของอายะฮอัลลอฮกุรอ่าน ที่มีคนบางส่วนไม่รู้กรณีนี้ ย่อมมี เพราะมนุษย์ มีผู้มีความรู้ และมีคนอาวามที่ไม่มีความรู้
...............
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
8/11/59
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น